สายไปแล้ว! ชาวนาขอนแก่น ตะเพิด 'เศรษฐา' แก้ปัญหาไม่ได้ก็ลาออกไป ให้ลุงตู่กลับมา

ชาวนาขอนแก่น ประกาศไล่นายกฯลาออกถ้ารัฐบาลไม่จ่ายเงินชาวนาได้หลังถูกแบงก์ชาติออกหนังสือเตือนความเสี่ยง และเอา "ลุงตู่" มาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนเพราะการทำนาลงทุนมากกว่ารายรับ

21 พ.ย.2566 - ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 วงเงินงบประมาณจ่ายขาด 56,321.07 ล้านบาท หรือ จ่ายเงินชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท กลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.เรื่องมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/67 โดย ธปท.มีความเห็นว่า โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว มีความจำเป็นลดลง เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันราคาข้าวสูงขึ้นมาก และราคาปุ๋ยลดลง

นายบัวฮอง สิงห์หาปัด อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 บ้านห้วยโจด ม.11 ต.ห้วยโจด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลไม่ให้เงินก็คงเสียใจ เพราะเงินที่รัฐบาลช่วยเหลือมานั้น ก็พอแบ่งเบาภาระค่าเกี่ยวค่าปุ๋ยได้ แต่ปีนี้ไม่พูดสักที พูดแต่เงินดิจิทัล พอมีข่าวออกมาว่าจะให้ ก็ถูกแบงค์ชาติคัดค้าน กลัวเสียเสถียรภาพทางการเงิน

“ปีนี้ถ้ารัฐบาลจ่ายให้ไม่ได้ ก็เอา พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม ถ้ารัฐบาลชุดนี้บริหารไม่ได้เรื่อง ก็เปลี่ยนคนมาบริหารใหม่ นโยบายต่างๆตอนหาเสียงดีๆทั้งนั้น แต่พอเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถทำได้ เมื่อทำไม่ได้ก็เปลี่ยนเอาพลเอกประยุทธ์กลับมาบริหารเหมือนเดิม”

ขณะที่ นางจิต เวฬุวนาทร อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.11 บ้านโคกท่า ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การทำนาปี ในแต่ละปี ใช้เงินมาก เพราะทั้งปุ๋ย ทั้งเมล็ดพันธ์ข้าว ค่ารถเกี่ยว ค่าจ้างต่างๆ คือค่าใช้จ่ายในการทำนาทั้งหมด แต่ราคาข้าวอยู่ที่ กิโลกรัมละ 8.60 บาทเท่านั้น

“ที่บอกว่า ราคาข้าวดี ค่าปุ๋ยลดลงนั้น ข้าราคาดีก็คงไม่ถึง 10 บาท แต่การทำนากว่าจะได้ข้าวมา ไม้ได้ง่าย ปุ๋ยก็ต้องไปเอามาใส่ข้าว ราคากระสอบละพันบาท ถ้ารัฐบาลช่วยเงินชาวนามา ชาวนาก็จะมีเงินใช้หนี้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้”

นางจิต กล่าวต่ออีกว่า ปุ๋ยที่ใช้เป็นปุ๋ยที่กู้ยืมมา เมื่อได้เงินที่รัฐบาลช่วยมาจึงจะนำไปจ่าย ในแต่ละปีจะใช้ปุ๋ยประมาณ 20 ประสอบ ตอนนี้ข้าวราคา 8.60 บาท ถ้าเป็นไปได้อยากได้ราคา 13-14 บาท แต่เมื่อราคาข้าวไม่ได้ตามที่ต้องการ และถ้ารัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาไร่ละ 1,000 บาทจะได้เป็นเงินก้อน เพื่อไปจ่ายเงินค่าปุ๋ยสำหรับที่นาของตนมี 20 ไร่ ได้ข้าวประมาณ 6 ตัน ก็จะขายไปใช้หนี้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะเก็บไว้กิน

ด้าน นายประมวล นาหนองตูม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม11 บ้านโคกท่า ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า โดยส่วนตัวมีที่นาจำนวนน้อย หากรัฐบาลช่วยมาไร่ละ 1,000 บาท ก็จะได้แค่ค่าปุ๋ย ค่ารถเกี่ยวก็หมดแล้ว จึงอยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือเหมือนเดิม เพราะแต่ละปีทำนาแค่ 3 ไร่ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายก็มีทั้งปุ๋ย รถปั่น รถเกี่ยว ขายข้าวได้ก็ต้องจ่ายค่าปุ๋ย แทบจะไม่เหลือกินเหลือเก็บ ที่เพราะปุ๋ยก็มีราคาสูง ที่ผ่านมาชาวนาไทยมีความยากลำบากเรื่องเงินลงทุน กว่าจะปลูกข้าวได้ก็ต้องมีการลงทุนหลายอย่าง ลงทุนไปมากแต่ผลตอบแทนน้อย ก็อยากได้เงินที่รัฐบาลให้มา มาช่วยครอบครัวชาวนาเหมือนเดิม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่นทันที! นายกฯมาเอง ลงพื้นที่ห้วยขวาง สั่งสอบป้ายโฆษณาขายพาสปอร์ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สน.ห้วยขวาง ติดตามสอบถามข้องเท็จถึงกรณีที่พบมีการติดแผ่นป้ายโฆษณาซื้อขายหนังสือเดินทางและพาสปอร์ตที่แยกห้วยขวาง พบว่ามีการขึ้นป้ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2567 เนื้อหาเป็นข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำหนังสือเดินทาง

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

โปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชฯ แก่ 'เศรษฐา ทวีสิน'

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยา