จับคนร้ายยิงลูกเหล็กใส่รถทัวร์ภูเก็ต เสียหาย 10 คัน ซัดทอดมาเฟีย 'โก ม.' คนจ้างวาน

16 พ.ย.2566 - พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ,พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ,พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต,พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ,พ.ต.อ.เอกรัตน์ พลายด้วง ผกก.สภ.ฉลอง ,พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต ,พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.สส.3บก.สส.ภ.8 แถลงข่าวการจับกุมคนร้ายก่อเหตุยิงลูกเหล็กใส่รถทัวร์ เสียหายรวม 10 คัน ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาล มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสริมสร้างความปลอดภัย ความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และ จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยและติดอันดับ 1 ใน 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก

จากกรณี กลุ่มคนร้าย ร่วมกันก่อเหตุใช้ลูกเหล็กยิงใส่รถทัวร์และคนขับรถที่นอนฝ้ารถทัวร์อยู่ในรถได้รับความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 10 คัน ในหลายพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ต ดังนี้
(1 )เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 66 ที่บริเวณปั้มเชลล์ สาขาสะปำ จำนวน 2 คัน (รถทัวร์ของ บ.เฟิร์สฯ) พื้นที่ สภ.เมือง
(2 )เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 ที่บริเวณห้างซุปเปอร์ชิป(สาขาใหญ่) จำนวน 2 คัน (รถทัวร์ของ บ.เฉลิม) พื้นที่สภ.เมือง
(3) เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 66 ที่ลานจอดรถทัวร์ใน ซ.ป่าหล่าย จำนวน 2 คัน (รถทัวร์ของ บ.เฟิร์สฯ) พื้นที่ สภ.ฉลอง
(4 )เมื่อวันที่ 11 พ.ย.66 ที่ลานจอดรถทัวร์ ตรงข้ามวัดฉลอง จำนวน 4 คัน (รถทัวร์ของ บ.อันดามัน) พื้นที่ สภ.ฉลอง

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการให้ กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ทำการสืบสวน ติดตามจับกุมหาตัวกลุ่มคนร้าย ที่ร่วมกันก่อเหตุ จนทราบว่า นายภาณุพงษ์หรือนุ่นฯ เป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้ จึงขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายจับ นายภาณุพงษ์หรือนุ่นฯ ในความผิดฐาน "ร่วมกันกระทำด้วยประการใด ๆให้รถยนต์ที่ใช้สำหรับการขนส่งสาธารณะ อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นให้เกิดอันตรายแก่บุคคล และ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์"

และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายค้น 2 สถานที่ ที่น่าจะซุกซ่อนลูกเหล็กหรือสิ่งของ เสื้อผ้า ยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ ได้แก่
(1.)บ้านเลขที่ 12/191 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของนายภาณุพงษ์ฯ
(2.)ลานจอดรถทัวร์ ในซอยหลวงพ่อเกื้อม ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเชื่อว่าเป็นบ้านพักอาศัยของผู้ที่ก่อเหตุร่วมกับนายภาณุพงษ์หรือนุ่นฯ

ต่อมา เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการตรวจค้นตามสถานที่ดังกล่าว ผลการตรวจคัน สามารถจับกุมตัวนายภาณุพงษ์หรือนุ่นฯ ที่บ้านเลขที่ 12/191 และ จับกุมนายศรายุทธ์หรือเจมส์ฯ ที่ห้องพักในลานจอดรถทัวร์ ใน ซ.หลวงพ่อเกื้อมฯ ไว้ได้ พร้อมกับตรวจยึด
(1.)ลูกเหล็กที่ใช้ในการยิงรถทัวร์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ชม.(ขนาดเท่าเหรียญห้าบาท)จำนวนทั้งสิ้น 72 ลูก
(2.)หนังสติ๊กที่ใช้สำหรับยิงลูกเหล็ก จำนวน 2 อัน
(3.)ยางวงที่ใช้สำหรับเป็นเหนี่ยวยิงลูกเหล็กกับหนังสติ๊ก จำนวน 1 ถุง
(4.)รถจักรยานยนต์ Honda Lead สีน้ำเงิน ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ 1 คัน
(5.)รถจักรยานยนต์ Honda PCX สีแดง ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ 1 คัน
(6.)เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า หมวก ที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ

จากการชักถาม นายภาณุพงษ์หรือนุ่นฯ และ นายศรายุทธ์หรือเจมส์ ฯ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อว่าจ้างจาก "โก ม." ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรถทัวร์นำเที่ยวใน จังหวัดภูเก็ต ได้รับค่าจ้างเป็นเงินสด โดยหากทำให้รถทัวร์ของ บ.เฉลิมภัทรฯ , บ.เฟิร์สฯ และ บ.อันดามัน โลตัสฯ ได้รับความเสียหาย จะได้รับค่าจ้างเป็นจำนวน
เงินคันละ 1,000 บาท ซึ่งนายภาณุพงษ์หรือนุ่นฯ และ นายศรายุทธ์หรือเจมส์ ฯได้รับเงินค่าจ้างจากการทำให้รถทัวร์เสียหายทั้งสิ้นเป็นเงินจำนวน 11,000 บาท (รถทัวร์ 10 คัน คันละ 1,000 บาท รวม 10,000 บาท และอีก1,000 บาท เป็นค่าสินน้ำใจ) ซึ่งลูกเหล็กที่ใช้ยิงรถทัวร์นั้น "โก ม." เป็นผู้จัดหามาให้ ซึ่ง ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงลูกเหล็กใส่รถทัวร์ขณะรถทัวร์จอด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวทั้ง 2 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่ง ข้อหานี้ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 232 ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ขยายผลจนทราบว่า "โก ม." เป็นผู้ใช้หรือผู้จ้างวานในเรื่องนี้ และได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ให้ทำการจับกุมตัว"โก ม." ในความผิดฐาน
"เป็นผู้ใช้ให้กระทำด้วยประการใดๆ ให้รถยนต์ที่ใช้สำหรับการขนส่งสาธารณะ อยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล และ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ " ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

" เป็นที่ทราบว่า ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตจำนวนมากเนื่องจากเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว High Season ดังนั้น จำนวนรถทัวร์ที่ผู้ประกอบการใช้ในปัจจุบันไม่เพียงพอ จึงให้บริษัทลูกเข้ามาช่วยในการรับส่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต คือมาตรฐานของรถบางคันเป็นรถที่เก่าในเรื่องของความปลอดภัย และรถไม่ได้มาตรฐานจึงต้องนำรถที่มีความใหม่มีมาตรฐานเความปลอดภัยนำมาให้บริการนักท่องเที่ยว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรกในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในเรื่องบุคคลผู้มีอิทธิพลจะหารือกับทางจังหวัดในพฤติการณ์เหล่านี้ ถือเป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลหรือไม่ จึงขอฝากไปยังพี่น้องผู้ประกอบธุรกิจรถขนส่งสาธารณะรถทัวร์ ที่มีความขัดแย้ง แล้วทำให้ภาพพจน์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเสียหาย ซึ่ง ตำรวจไม่นิ่งนอนใจแน่นอน จะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด

จึงอยากให้ ทุกคนช่วยกันสร้างเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อย่าให้มีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หากมีเบาะแสการกระทำความผิดของคนร้ายไม่ว่ากรณีใด ขอให้แจ้ง ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สายด่วน 191 หรือเบาะแสยาเสพติดในชั้นความลับติดต่อตนได้โดยตรงหรือผู้กำกับทุกสภ.ในจังหวัดภูเก็ต

ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกัน ปราบปราบอาชญากรรมและการกระทำความผิดทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวให้มีความมั่นใจความปลอดภัย เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และ ขอประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนชาวภูเก็ต ว่าหากพบเจอเหตุหรือมีข้อมูลเบาะแสผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ สามารถแจ้งมายัง สายด่วน 191 หรือ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และโรงพักใกล้บ้านท่านได้ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง" พล.ต.ต.สินเลิศ กล่าว

ภายหลังการแถลงข่าวฯ ตัวแทนผู้ประกอบการทั้ง 3 บริษัท ที่ได้รับความเสียหาย ได้มอบดอกไม้ แสดงความขอบคุณ แก่พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บุรีรัมย์ จับยาบ้าโลโก้ใหม่กว่าแสนเม็ด ระบาดแนวชายแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ รับผิดชอบด้านยาเสพติด มอบหมายให้ พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผก

สส.ภูเก็ต เสนอมาตรการ 3 ข้อ เหตุไฟไหม้ 'กะรนไนท์พลาซ่า' เสียหายหนัก

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า "จากเหตุเพลิงไหม้บริเวณกะรนไนท์พลาซ่า 13 ก.ค.67 เวลา 01:44 น. ที่ผ่านมา เป็นย่านแหล่งช้อปปิ้ง ต.กะรน ร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึกรวมถึงร้านอาหารที่บริการกับนักท่องเที่ยว ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งหมด 20 ร้านค้า

รักมากแค้นมาก! ฆ่าห่อศพอดีตเมีย

จากเหตุการณ์ที่มีผู้พบศพนางกฤตยา อายุ 67 ปี ถูกฆ่าแล้วห่อหุ้มด้วยผ้าห่ม นำมาทิ้งไว้ภายในซอยที่เป็นป่าหญ้าข้างกองขยะ ม.6 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ภูเก็ตทำหนังสือด่วนที่สุด ให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน 13-17 ก.ค.นี้

ภูเก็ตทำหนังสือด่วนที่สุด ถึง นายอำเภอ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง ทุกส่วนราชการ เตรียมความพร้อมน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 13-17ก.ค.นี้