ของดีหายาก! 'ข้าวตอกพระร่วง' โผล่เต็มวัด ชาวบ้านแห่เก็บทำของขลัง

13 พ.ย.2566 - กลายเป็นเรื่องฮือฮาขึ้นมาทันที หลังเล่าลือกันปากต่อปาก บอกว่าที่วัดลานตาเมือง หมู่ 6 ต.บ้านใหม่ไชยมงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย มีการพบเจอของดีหายาก คือ “ข้าวตอกพระร่วง” ซึ่งเป็นหินศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงสุโขทัย โผล่ขึ้นมาเต็มบริเวณวัด ทั้งพระ-เณร-ชาวบ้านต่างถิ่นจำนวนมากแห่กันมาเก็บ เพื่อติดตัวไว้บูชาและทำเป็นของขลัง

พระอาจารย์สุทิน กันตะเตโช รักษาการเจ้าอาวาสวัดลานตาเมือง บอกว่า เฉพาะที่วัดนี้แห่งเดียว ในปัจจุบันจะมี “ข้าวตอกพระร่วง” หรือที่เรียกว่า “เพชรหน้าทั่ง” หรือ “แร่เหล็กไพไรต์” กระจายอยู่ทั่วบริเวณวัด เยอะมาก นั่งเขี่ยหาตรงไหนก็เจอ จนทำให้มีพระ-เณร และชาวบ้านต่างถิ่น พากันมาเก็บเอาไปจำนวนมาก บ้างนำไปเจียระไนทำเป็นหัวแหวน จี้ห้อยคอ และใช้ทำมวลสารหล่อพระพุทธรูปบูชา แต่บางคนก็ทำเป็นเครื่องรางของขลัง ติดตัวไว้ป้องกันคุณไสย แคล้วคลาดปลอดภัย และให้เกิดโชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ตามความเชื่อโบราณที่มีมายาวนานหลายร้อยปี

อย่างไรก็ตาม คนต่างถิ่นที่เข้ามาเก็บนั้นมีจำนวนมากเกินไป ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หวั่นเกรงว่า “ข้าวตอกพระร่วง” อาจจะมีหลงเหลือน้อยลง ทางวัดและชาวบ้านลานตาเมือง จึงมีมติร่วมกันสั่งห้ามการเก็บค้นหานำออกไป เพื่อรักษาไว้เป็นสมบัติของวัด ให้ลูกหลานได้เห็นและศึกษาเรียนรู้ต่อไป

ทั้งนี้ “ข้าวตอกพระร่วง” ถือเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของชาวสุโขทัย ลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋า ตามตำนานนั้นเกิดจาก “พระร่วง” ผู้มีวาจาสิทธิ์ ครั้งออกผนวชที่วัดเขาพระบาทใหญ่ ในวันตักบาตรเทโวโรหณะ เมื่อได้ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ข้าวที่เหลือก้นบาตรท่านได้โปรยลงที่ลานวัด และอธิษฐานว่า “ให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่ง มีอายุยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน”

โดยพบเยอะมากบนเขาพระบาทใหญ่ ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ที่เป็นจุดเกิดตำนาน ซึ่งในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน เคยมีชาวบ้านขึ้นไปขุดหากันจำนวนมาก กระทั่งเกิดเรื่องเศร้า มีชาวบ้านชายรายหนึ่งถูกดินถล่มทับเสียชีวิตคาอุโมงค์ เพราะขุดลึกเกินไปเพื่อหาข้าวตอกพระร่วงก้อนใหญ่ หวังขายได้ราคาดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งห้ามการขุดค้นหาข้าวตอกพระร่วงบนเขาแห่งนี้ เพื่อความปลอดภัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฮือฮา! ทุเรียนลูกละ 1 บาท แห่รับบัตรคิวแน่นตลาด

ตลาดมหาชัยไนท์ต้นสน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดมหกรรมทุเรียน ระหว่างวันที่ 4 - 7 กรกฎาคม 2567 สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาด

พบพ่อแม่ลูก 7 ชีวิตไร้ที่อยู่อาศัย ซึ้งน้ำใจรองนายก อบต. ซ่อมบ้านเก่าให้นอนชั่วคราว

ที่หมู่ 1 ต.วังทองแดง อ.เมือง จ.สุโขทัย มีครอบครัวหนึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งหมด 7 ชีวิต มีพ่อ แม่ ลูกสาว 4 คน และลูกชายคนเล็กอีก 1 คน แต่ก็ยังโชคดีที่นายประสิทธิ์ ขุนใจ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังทองแดง ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น โดยซ่อมแซมบ้านเก่าให้อยู่อาศัยชั่วคราวไปก่อน

ชมวิถีชีวิตลูกแม่น้ำยมบนเรือนแพ หลังสุดท้ายในเขตตัวเมืองสุโขทัย

เป็นเวลานานนับสิบปีแล้วที่นายพายัพ สุขสันต์ อายุ 73 ปี และนางวรรณี สุขสันต์ อายุ 70 ปี สองตายายชาวประมง ได้ใช้ชีวิตอาศัยหลับนอนอยู่ในเรือนแพแม่น้ำยมเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ซึ่งนับเป็นหลังสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ชาวประมงคนอื่นๆได้กลับขึ้นไปอยู่บนฝั่งกันจนหมดตามวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง

'สมศักดิ์' ประเดิมงานแรก พาหมอไปหาประชาชน ที่จังหวัดสุโขทัย

“สมศักดิ์” ประเดิมงานแรก เปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชน ที่จ.สุโขทัย ชี้ เป็นการเพิ่มโอกาสประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงบริการทางการแพทย์ ได้อย่างทั่วถึง-เท่าเทียม เผย จัดโครงการแล้ว 47 ครั้ง มีประชาชนมาใช้บริการกว่า 4 แสนคน เล็ง จัดให้ถึง 90 ครั้ง

ฮือฮา! พายุลูกเห็บยักษ์ถล่มบึงกาฬ บ้านเรือนเสียหายพันกว่าหลัง

เกิดเหตุพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง และเกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่ตำบลบ้านต้อง ตำบลน้ำจั้น ตำบลท่ากกแดง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ