‘ศักดิ์สยาม’ ลงพื้นที่ด่านขุนทด เทงบ 2,845 ล้าน สร้างถนนสายใหม่ นม.4008 แยก ทล.201-แยก ทล.205 ระยะทาง 34 กม. คาดเริ่มตอกเข็มปี 68 เปิดให้บริการภายในปี 70 ช่วยแก้ปัญหาการจราจร เพิ่มทางเลี่ยงประตูเข้าสู่อีสาน รองรับการเจริญเติบโตของเมือง
19 ธ.ค.2564-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 กม.ที่ 34+930 อ.ด่านขุนทด, พระทองคำ จ.นครราชสีมา ตามที่ ทช. และคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมา (กรอ.จังหวัดนครราชสีมา) ได้เล็งเห็นความสำคัญในการยกระดับการคมนาคมใน จ.นครราชสีมา เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรของถนนสายหลัก และรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในอนาคต
ทั้งนี้ ทช.จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย นม.4008 แยก ทล.201-แยก ทล.205 อ.ด่านขุนทด, พระทองคำ จ.นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตร (กม.) ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 2,845 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 2,226 ล้านบาท, ค่าเวนคืนที่ดิน 518 ล้านบาท, ค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ 34 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 67 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวมีลักษณะเป็นถนนก่อสร้างใหม่ ปรับปรุงและขยายถนนเดิม (นม.4008)
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันโครงการดังกล่าวสำรวจและออกแบบแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินได้ในปี 2565 จากนั้นจะดำเนินการสำรวจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 และจ่ายค่าชดเชยอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนในปี 2567 โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี หรือเปิดให้บริการได้ในปี 2570
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นจากแยก ทล.201 บริเวณ อ.ด่านขุนทด แนวถนนโครงการเป็นถนนตัดใหม่ผ่านพื้นที่เกษตรกรรมไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือตัดกับ ทล.2148 และเข้าสู่ทางหลวงชนบทสาย นม.4008 ซึ่งดำเนินการปรับปรุงและขยายถนนเดิม
จากนั้นมุ่งตรงไปตัดกับ ทล.205 โดยแนวสายทางโครงการจะไปสิ้นสุดที่ ทล.2369 บริเวณ อ.พระทองคำ ซึ่งรูปแบบโครงการเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร พร้อมโครงสร้างต่างระดับ จำนวน 3 แห่ง บริเวณจุดตัด ทล.201 บริเวณจุดตัดทล.2148 และบริเวณจุดตัด ทล.205
ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ จะช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจรของ ทล.2 ทล.201 และ ทล.205 นอกจากนี้ ยังสามารถแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบริเวณทางแยก เพิ่มทางลัด ทางเลี่ยงไปสู่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) และรองรับการเจริญเติบโตของเมืองในพื้นที่ จ.นครราชสีมาได้เป็นอย่างดี
