สอบปากคำต่อหน้าแม่และสหวิชาชีพ “น้องเอ” ย้ำชัดไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น หลังครอบครัวแจ้งความว่าถูกคนขับรถตู้ข่มขืน ผู้การฯย้ำชัด พยานหลักฐาน ชัดเจน ครบถ้วน ถือว่าไม่มีคดีเกิดขึ้น ส่วนผู้ถูกกล่าวหาจะแจ้งความเอาผิดคืนหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว ขณะที่ภรรยาน้าเดชและเจ้าตัวยังเงียบ
10 พ.ย.2566 - ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น (ภ.จว.ขอนแก่น) พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.คะเชนทร์ ยืนยง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผกก.สภ.แวงน้อย ร่วมกันแถลงข่าวผลการสอบสวน น้องเอ เด็กหญิงอายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเขต อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งครอบครัวได้เข้าแจ้งความว่าถูกคนขับรถตู้ข่มขืนกระทำชำเราบนรถขณะเดินทางไปกรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ต่อเนื่องวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความสนในจากสื่อมวชนและผู้ที่ติดตามความคืบหน้าในคดีดังกล่าวอย่างมาก
พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นชุดสืบสวนร่วม บช.ภ.4 , บช.น. และภ.จว.ขอนแก่น ได้ทำการสืบสวนสอบสวนร่วมกันจนกระทั่งทราบว่ารถตู้คันที่ถูกกล่าวหานั้นเดินทางออกจากที่ใดและไปที่ใดและเวลาใด โดยในการสืบสวนสอบสวนนั้นตำรวจทำงานอย่างหนัก อย่างเต็มที่และละเอียดที่สุดแต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้หมด จนกระทั่งมีการสอบปากคำพยานที่เป็นผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถตู้คันที่น้องเอ นั่งไปด้วย และพยานคนสุดท้ายยืนยันว่าน้องเอ ไม่ได้นั่งรถตู้เป็นคนสุดท้ายเพราะมีพยาน 1 คนยืนยันว่ามารับน้องเอ ที่บ้านที่ อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น และรถก็ส่งผู้โดยสารตามจุด และส่งน้องเอ ถึงบ้านและพ่อออกมารับ และผู้โดยสารคนนี้รถตู้ก็ขับไปส่งถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งตลอดเวลาที่น้องเอ นั่งรถไปนั้นไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น และที่สำคัญแพทย์ได้อนุญาตให้พนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพเข้าไปร่วมสอบปากคำ โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.คะเชนทร์ ร่วมกับ พ.ต.อ.สมมาตย์ และทีมสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบปากคำร่วมกับแพทย์เวรและแม่ของน้องเอ
“น้องเอ ให้การว่าไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วถือว่าคดีไม่เกิด ตำรวจก็จะเร่งสรุปสำนวนและเป็นไปตามพยานหลักฐานทั้งหมด ส่วนการแจ้งความที่เกิดขึ้นนนั้นตำรวจจะดำเนินคดีว่าแจ้งความเท็จหรือไม่ก็ต้องดูพฤติกรรมและเหตุผลที่ทำการดังกล่าว ซึ่งน้องเอ ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆได้และแพทย์ยังคงต้องรักษาตัวน้องเออยู่ ขณะที่ผู้ที่ถูกกล่าวหาและครอบครัวของนายเดช นั้นจะแจ้งความกลับหรือดำเนินการใดๆต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวว่าจะกระทำการใดๆต่อไป”
ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ตำรวจทำงานตามขั้นตอน และแนวทางการสืบสวนร่วมทุกฝ่าย ทำให้วันนี้มีความชัดเจนว่าตามพยานหลักฐานและนายเดช ก็ขับรถตู้มาพบตำรวจและยินยอมส่งรถตรวจตามขั้นตอน ซึ่งถือเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดี และรถที่ส่งตรวจนั้นเป็นรถที่ถูกต้องมีระบบจีพีเอสยืนยันชัดเจน จึงขอให้ทุกฝ่ายไว้วางใจและมั่นใจในการทำงานของตำรวจว่าทันทีที่ได้รับแจ้งความทุกฝ่ายทำงานจริง ลงลึกในรายละเอียดประสานการทำงานร่วมกันระหว่าง บช.ภ.4 และ บช.น. เป็นทีม แต่รายละเอียดในการสืบสวนนั้นเปิดเผยไม่ได้ ดังนั้นคดีนี้ถือว่าเสร็จสิ้นและสมบูรณ์แล้ว จึงต้องแยกเป็นคดีไป
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตำรวจไม่ได้จับกุมหรือควบคุมตัวคนขับรถตู้ จึงเป็นเพียงผู้ที่ถูกกล่าวหาและวันนี้การให้การของน้องเอ นั้นชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือตำรวจจะสรุปสำนวนและถือว่าไม่มีคดีนี้เกิดขึ้น ส่วนเรื่องอื่นๆที่จะเกิดต่อจากนี้ขอให้แยกเป็นคดีๆไป เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่ต้องรอบคอบในการดำเนินการทั้งหมด”
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามจะติดต่อไปยังภรรยานายเดช,ตัวนายเดช และครอบครัวนายเดช ภายหลังจากน้องเอ ยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งภรรยาบอกว่าไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลหรือสัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
ส่องความน่ารักสัตว์นานาชนิด ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าขอนแก่น
ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 4 ขอนแก่น ชวนเที่ยวชมสัตว์น่ารักช่วงสุดสัปดาห์" พร้อมเปิดพื้นที่เรียนรู้สัตว์ป่าที่น่าสนใจ
ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท
'ทวี' ตื่น แม่สร้างห้องขังดูแลลูกติดยา รุกจับมือทุกฝ่ายดูแลก่อนออกสู่สังคม
“ทวี”เยี่ยม “เอ็ม” หนุ่มบุรีรัมย์ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.ธัญญารักษ์ขอนแก่น ครบ 1 อาทิตย์หลังแม่ทนไม่ไหวสร้างห้องขังลูกเหตุเพราะติดยา พร้อมประกาศเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง และสร้างคนให้มีความรู้ความสามารถทัดเทียมนานาประเทศ
พ่อสุดทน! ใช้ขวานจามหัวลูกสาหัส หลังโดนทำร้ายมานาน
พ่อเหลืออด! รองรับอารมณ์ลูกชายมานาน หลังลูกอาละวาดขู่ฟันคอพ่อกับแม่ที่ป่วยติดเตียง ใช้ขวานฟันหัวลูก สาหัส สารภาพสิ้นกะฟันให้ตายคามือ