ลืออาถรรพ์! คนงานก่อสร้างโบสถ์ โดดสระน้ำจมดับต่อหน้าเพื่อน พบศพอยู่ติดเสาเอก

9 พ.ย.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.สุระชัย ไพเราะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เรณูนคร จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีช่างก่อสร้างโบสถ์กลางน้ำในวัดศรีบุญเรือง บ้านนาดี หมู่ 5 ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม จมน้ำสูญหายในสระน้ำดังกล่าว จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลเรณูนคร รวมถึงทีมประดาน้ำจากสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบค้นหาร่างผู้สูญหาย โดยชุดประดาน้ำสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ก็พบร่างผู้เสียชีวิต จมอยู่ก้นสระขนาดความลึกกว่า 4 เมตร ใกล้เสาเอกของโบสถ์กลางน้ำขนาดใหญ่ ที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง จึงกู้ร่างขึ้นมาจากน้ำ

ทราบชื่อภายหลังคือ นายสายสิทธิ์ ถาวรพงษ์ หรือสิทธิ์ อายุ 34 ปี ช่างก่อสร้างโบสถ์ ชาว ต.หนองบ่อ อ.เมืองอุบลราชธานี สภาพศพใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ และไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรอบบริเวณโบสถ์ เพื่อเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี ก่อนส่งศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี

จากการสอบสวนญาติ รวมถึงผู้เห็นเหตุการณ์ในวัด เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้า พบว่านายสิทธิ์ผู้ตายมีอาการผิดปกติ เหม่อลอยเหมือนคนไม่มีชีวิตจิตใจ ทีมช่างที่ก่อสร้างโบสถ์กลางน้ำและคนงาน รวมถึงญาติๆพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลงมาจากหลังคาโบสถ์ ขนาดความสูงเกือบ 20 เมตร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ใช้งบประมาณเกือบ 20 ล้านบาท โดยดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน

สำหรับวันนี้เป็นการยกช่อฟ้าบางส่วน ขึ้นสู่บนหลังคาโบสถ์ จนกระทั่งช่วงบ่าย นายสิทธิ์มีอาการคล้ายประสาทหลอน ซึ่งทีมช่างและคนงานใกล้ชิด ยืนยันว่า ไม่ได้มีอาการเมาจนขาดสติ แต่ยอมรับว่าผู้ตายชอบดื่มเหล้า แต่สามารถทำงานได้ปกติ จนกระทั่งได้เกิดเหตุไม่คาดคิด เนื่องจากนายสิทธิ์ตะโกนดังสุดเสียงว่า วันนี้ต้องตายให้ได้ และพยายามกระโดดลงมาจากหลังคาโบสถ์ที่สูงเกือบ 20 เมตร ตกลงมากลางสระน้ำลึกกว่า 5 เมตร โดยชาวบ้านและทีมคนงาน ได้ช่วยเหลือไว้ทัน ก่อนนำขึ้นมาสงบสติอารมณ์ ซึ่งขณะนั้นนายสิทธิ์ยังมีอาการคล้ายคนประสาทหลอน ตีอกชกตัวบ่นว่าอยากตายๆ ทีมช่างและชาวบ้าน ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 30 นาที

สุดท้ายจังหวะชาวบ้านเผลอ นายสิทธิ์วิ่งหนีกระโดดลงกลางสระน้ำอีกครั้ง ร่างจมหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนร่วมงาน จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่มาค้นหาศพ ส่วนแม่ของผู้ตายยืนยันว่า ลูกชายไม่เคยป่วยทางจิตมาก่อน ถึงขั้นประสาทหลอน ยอมรับชอบดื่มเหล้า แต่มีสติสามารถทำงานได้ทุกวัน ไม่เคยมีปัญหาทางสภาพจิตมาก่อน และยังเกิดความสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้มีชาวบ้านส่วนหนึ่ง ต่างพากันร่ำถือถึงอาถรรพ์ สิ่งลี้ลับในสระน้ำดังกล่าว เชื่อว่ามีเจ้าที่แรงเพราะเป็นสระน้ำโบราณ อายุมากกว่า 100 ปี เกิดขึ้นมาพร้อมๆกับการก่อตั้งหมู่บ้าน เดิมเป็นโบสถ์ไม้กลางน้ำ กระทั่งปี 2563 ชาวบ้าน ร่วมกับทางวัดศรีบุญเรือง ได้รื้อถอนพัฒนาขุดลอกสระน้ำ และระดมพลังศรัทธามาก่อสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่ แทนหลังเดิมที่เป็นไม้ งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท

ก่อนก่อสร้างได้ประกอบพิธีบวงสรวงในสระน้ำดังกล่าว และเคยเกิดเรื่องลี้ลับหลายอย่าง อีกทั้งมีพระเกจิทักท้วงว่า เจ้าที่มาขอตัวตายตัวแทน 1 ชีวิต รวมถึงเคยมีปัญหาการก่อสร้าง ขณะวางเสาเข็มไม่สามารถเทฐานรากได้ เพราะดินโคลนทรุดกลางสระน้ำ จึงต้องมีการทำพิธีทางความเชื่อขอเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงสามารถก่อสร้างได้ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ ยังเชื่อกับคำทำนาย และสุดท้ายไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางส่วนร่ำลือว่า คนงานช่างอาจไปลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง ชวนกันดื่มเหล้าในบริเวณวัด และขณะทำงานก่อสร้างโบสถ์ ไม่ศรัทธาต่อเจ้าที่ จึงเกิดอาถรรพ์ ถึงขั้นเอาชีวิตคนงานดังกล่าว

สอบถาม นางเถาวัลย์ ทักโลวา อายุ 63 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านนาดี หมู่ 5 ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม เปิดเผยว่า ตนเชื่อเรื่องอาถรรพ์ลี้ลับแม้จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ เนื่องจากก่อนวางฐานก่อสร้างโบสถ์กลางน้ำวัดศรีบุญเรือง ถือเป็นสระน้ำโบราณ อายุกว่า 100 ปี ที่มีมาแต่ก่อตั้งหมู่บ้าน และเคยมีโบสถ์ไม้โบราณกลางน้ำ แต่ด้วยสภาพเก่าทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงมีการหารือและรื้อถอน เพื่อก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่

ก่อนนี้เคยมีพระเกจิ รวมถึงชาวบ้านที่มีความเชื่อในสิ่งเร้นลับ ทักว่าจะต้องทำพิธีตามความเชื่อให้เรียบร้อย เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่แรงถึงขั้นลือว่าจะต้องมีตัวตายตัวแทน เพราะเจ้าที่ขอ 1 ชีวิต ยอมรับว่าชาวบ้านเชื่อ แต่ทำพิธีความเชื่อทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์ขึ้น ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่แล้วแต่บุคคล สำหรับตนเชื่อเพราะเป็นสระน้ำโบราณ ที่มีเจ้าที่ดูแลรักษามาแต่โบราณ เมื่อมีการพัฒนาก่อสร้างอาจจะต้องสังเวยแลกด้วยชีวิต

เช่นเดียวกันทางด้าน นายมิตชัย มงคล อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านนาดีคนปัจจุบัน เปิดเผยว่า สำหรับการก่อสร้างโบสถ์กลางสระน้ำขนาดใหญ่ ตั้งเป้างบประมาณจากพลังศรัทธามากกว่า 20 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้าง มาตั้งแต่ปี 2563 คาดแล้วเสร็จในปี 2567 อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ ส่วนวันนี้ทีมช่างและคนงาน ได้ติดตั้งช่อฟ้าบางส่วนบนหลังคาโบสถ์ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่อง ถึงขั้นมีคนเสียชีวิต โดยคนงานส่วนใหญ่ทำงานมานานกว่า 2 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน แต่หากถามว่าเชื่อหรือไม่เรื่องอาถรรพ์ตัวตายตัวแทน ยอมรับในช่วงการก่อสร้างวางฐานเสาเอกกลางสระน้ำ เคยมีปัญหาดินโคลนทรุดไม่สามารถเทคอนกรีตเสาเข็มฐานโครงสร้างโบสถ์ได้ จึงต้องมีการทำพิธีความเชื่อถึงสำเร็จ รวมถึงมีสะพานเชื่อมกับโบสถ์บางจุดทรุดตัว

และมีพระเกจิรวมถึงชาวบ้านทักว่า อาจจะมีจากสิ่งลี้ลับ อาถรรพ์เจ้าที่ในสระน้ำโบราณ และมีการร่ำลืออีกว่า จะต้องมีตัวตายตัวแทน แลกด้วยชีวิต 1 คนสังเวย ซึ่งทุกคนต่างระมัดระวังพยายามทำพิธีกรรมความเชื่อมาตลอด ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายจนได้ และก่อนเกิดเหตุผู้ตายมีอาการแปลกๆ ร้องตะโกนแบบขนาดสติอย่างเดียวว่าจะต้องตายให้ได้ ทั้งที่ทำงานมาปกติหลายเดือน ไม่เคยมีปัญหา และยังวิ่งไปกระโดดน้ำจนเสียชีวิต พบศพอยู่บริเวณเสาเอกของโบสถ์พอดี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

น้ำลด ถนนอันซีนโผล่ จุดเช็กอินริมโขงนครพนมกลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจมน้ำนานสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มลดลงวันละ 20-30 เซนติเมตร ล่าสุดช่วงเวลา 17.00 น. อยู่ที่ 11.50 เมตร ห่างจากจุดเตือนภัยเฝ้าระวัง 50 เซนติเมตร คือที่ 12 เมตร

ระดับแม่น้ำโขงที่นครพนม วัดได้ 11.79 เมตร ปลอดภัยใกล้สู่ภาวะปกติแล้ว

ที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มลดปริมาณลง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ล่าสุดอยู่ที่ 11.79 เมตร ห่างจากจุดเฝ้าระวังเตือนภัย 21 เซนติเมตรคือที่ 12 เมตร ถือว่าปลอดภัยใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีกระแสไหลเชี่ยว

ชาวนาระทม น้ำโขงหนุนสูง นาข้าวจมเกือบ 7 หมื่นไร่ 4 อำเภอ จ.นครพนม ตั้งศูนย์รับมือ

ระดับน้ำโขงสูงที่ จ.นครพนม หวนกลับมาอีกครั้ง หลังรับอิทธิพลจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ผนวกกับจีนปล่อยน้ำออกจากเขื่อนไฟฟ้า จึงเกิดผลกระทบต่อเนื่อง

น้ำโขงดีดสูงสุดรอบปี นาข้าวจมบาดาลกว่า 2 หมื่นไร่ จ่อประกาศพื้นที่ประสบภัย

คืบหน้าเกี่ยวกับผลกระทบจากแม่น้ำโขง มีระดับสูงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 10.35 เมตร ถือว่าสูงสุดในรอบปี ห่างจากจุดวิกฤตประมาณ 1 เมตรเศษ คือที่ 12 เมตร หากถึงจุดดังกล่าวจะส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ไม่สามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้ ในทางตรงกันข้ามน้ำโขงจะหนุนเข้าลำ

อพยพร้านค้าริมโขง ระดับน้ำขยับเพิ่มใกล้จุดวิกฤติ จ่อทะลักเข้าตัวเมืองนครพนม

ระดับน้ำโขงที่ จ.นครพนม โดยสถานีวัดระดับน้ำอัตโนมัติฯ กรมทรัพยากรน้ำ ยังคงเพิ่มระดับต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 67 อยู่ที่ระดับ 10.20 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตแค่ 1.80 เมตรคือที่ 12 เมตร เป็นการแตะระดับเลข 2 ตัวครั้งแรกในรอบปี