ชายแดนแม่สอด ยังคงปะทะเดือด! ชาวบ้านในฝั่งเมียนมา ต้องหนีตายข้ามมายังฝั่งไทย

ชายแดนแม่สอด ยังคงปะทะเดือด! ทัพพม่าส่งกำลังปราบชนกลุ่มน้อยส่งผลให้ชาวบ้านในฝั่งเมียนมา ทั้งชาวกระเหรี่ยง ชาวเมียนมา ต้องหนีตายข้ามมายังฝั่งไทย หน่วยฉก.เข้าไปควบคุมตามแนวชายแดน

17 ธ.ค.2564 - พ.ต.อ.มนต์ศักด์ แก้วอ่อน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประยุทธ แพปรุ รอง ผกก.ป.สภ.แม่สอด ได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่ที่โรงเรียนบ้านแม่ตาวกลาง (ศูนย์พักพิงผู้อบยพ(ชั่วคราว)) ต.แม่ตาว อ.แม่สอด โดยได้พบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง,เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน,เจ้าหน้าที่ทหารอยู่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งมีผู้อพยพเดนทางเข้ามาประมาณ 2,476 คน ที่โรงเรียนบ้านแม่ตาวกลาง อ.แม่สอด โดยผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงสัญญชาติเมียนม่า ที่เข้ามาพักชั่วคราว แบ่งเป็น ผู้ชาย จำนวน 804 คน ผู้หญิง จำนวน 910 คน เด็กชายจำนวน 348 คน เด็กหญิงจำนวน 414 คน รวม จำนวน 2476 คน


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเฉพาะฝั่งเมียนมาห่างจากชายแดนไทยเพียง 1-2 กิโลเมตร หมู่บ้านมินละป่าน บ้านลอเยก่อ จ.เมียวดี รัฐกระเหรี่ยง ตรงข้าม บ้านไร่ดอนไชย หมู่ที่ 6 ต.แม่ตาว อ.แม่สอด ยังคงตึงเครียดเมื่อกองทัพภาคตะวันตกเฉียงใต้ ส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามจำนวน 3 กองร้อย ชุดปฎิบัติการทหารเคลื่อนที่เร็วสนธิกำลังกับกองกำลัง พิทักษ์ชายแดน BGF เข้าโจมตีฐานที่กองกำลังกระเหรี่ยงเ KNU กองพลน้อยที่ 6 ภายใต้การนำของพันโทหย่าหน่าย ผู้บังคับกองพันเฉพาะกิจ และเป็นที่ตั้งและฝึกอาวุธของกลุ่มกองกำลังประชาชนหรือพีดีเอฟหรือเครือข่ายทหารรับจ้างพรรคการเมืองกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา

โดยสถานการณ์ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมามีการใช้อาวุธปืนยิงปะทะกันเป็นระยะๆมีการใช้อาวุธปืน ค.ขนาด 80 มม ปืน ค ขนาด 60 มม และอาร์พีจี ยิงตอบโต้กัน ซึ่งมีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในฝั่งเมียนมา ซึ่งมีทั้งชาวกระเหรี่ยง ชาวเมียนมา และชาวไทย ที่ไปอาศัยทำมาหากินในฝั่งเมียนมาต้องหนีตายข้ามมายังฝั่งไทย จนถึงขนาดนี้ยังทยอยหลบลูกกระสุนปืนข้ามมาฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบ 14 แม่สอด กองกำลังนเรศวร จัดทหารเข้าไปควบคุมตามแนว ชายแดน และมีการประสานไปยังหน่วยทางทหารฝั่งเมียนมา ที่จังหวัดเมียวดี ให้ใช้ความระมัดระวังในการยิงกระสุนปืนขาดใหญ่ เนื่องจากวิถีกระสูนมาตกยังฝั่งไทยถึง 2 ลูก และตกอยู่ใกล้ชุมชนชาวไทย

สำหรับผู้หนีภัยจากการสู้รบชาวเมียนมากว่า 2,000 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องนำเคลื่อนย้ายมายังบริเวณพื้นที่โรงเรียนมิตรภาพแม่ตาวกลาง มิตรภาพ 26 ต.แม่ตาว อ.แม่สอด เพื่อให้พ้นจากวิถีกระสุนปืนใหญ่และปืนเล็ก เพื่อความปลอดภัย รวมทั้งให้คนไทยที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนขอให้ระมัดระวังหรือย้ายไปอาศัยตามบ้านญาติของตนเองเป็นการชั่วคราวก่อน

สำหรับการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงอิสระ KNU นั้น มีทหารทั้ง 2 ฝ่ายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'รมว.กลาโหม' ลั่นยึดหลักเจรจา ปม 'ว้าแดง' บอกมีอีกหลายเรื่องพูดไม่ได้

นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่พิพาทชายแดนไทยเมียนมา ซึ่งอยู่ในกลุ่มอิทธิพลของกลุ่มว้า ว่า มีการพูดคุยในที่ประชุมสภากลาโหม และได้เห็นเอกสารทั้งหมดโดยเฉพาะ เรื่องเขตแดน

ทอ. ส่งเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 สกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย ชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบินเพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก

'บิ๊กเล็ก' ยันกองทัพไม่ได้อ่อนแอ รัฐบาลสั่งก็พร้อม ลั่นรบว้าแดงไม่ยาก แต่ผลกระทบเกินเยียวยา

พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยเมียนมา กรณีพื้นที่ที่มีการพิพาทเกิดขึ้นกับกลุ่มว้าแดงในขณะนี้ ว่า ประเด็นนี้ไม่ขอลงรายละเอียด

รัฐมนตรีกลาโหมมีไว้ทำไม! รอคำตอบ 18 ธ.ค. ขีดเส้นตาย 'ว้าแดง' ต้องพ้นแผ่นดินไทย

นายนพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา อาจารย์มหาวิทยาลัยจิงเม่า หรือ University of International Business and Economics (UIBE) ที่ประเทศจีน โพสต์เฟซบุ๊กว่า

'บิ๊กอ้วน' ยันชายแดนภาคเหนือไร้สู้รบ กลุ่มว้าแดงไม่ได้รุกล้ำ อย่าพูดเรื่องเสียดินแดน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรี และรมว. กลาโหมกล่าวถึงสถานการณ์ การเผชิญหน้าระหว่างทหารว้าและทหารไทย ในพื้นที่ชายแดนทางภาคเหนือ ว่า ก็ไม่มีอะไรสถานการณ์สงบปกติ โดยตนเองได้สอบถามไปยังพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์

ทภ.3 สยบข่าวทหารไทยเผชิญหน้าว้าแดง ยันประชาชนใช้ชีวิตปกติ สัมพันธ์ชายแดนยังดี

พ.อ.รุ่งคุณ มหาปัญญาวงศ์ โฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่ได้ปรากฏข่าวสารข้อมูล ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน กองทัพภาคที่ 3 ขอชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ดังนี้