เชฟหนุ่มขอนแก่นแรงงานไทยในอิสราเอลขอพักใจและกายก่อนเดินหน้าหางานใหม่ทำ เจ้าตัวเผยตัดสินใจบินกลับไทยทันทีหลังเหตุการณ์สงครามเริ่มรุนแรง ยืนยันยังอยากจะหางานที่ต่างประเทศเพราะรายได้ดี
19 ต.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายธนาธิป ทะสา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333/38 ม.6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในตำแหน่งพ่อครัว หรือเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองชายทะเลทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ซึ่งได้เดินทางกลับถึง จ.ขอนแก่นบ้านเกิดหลังเกิดเหตุการณ์สู้รบกันระหว่างกลุ่มกบฎฮามาสกับทหารอิสราเอล โดยเป็นแรงงานไทยชุดแรกที่เดินทางกลับ ด้วยการซื้อตั๋วเครื่องบินพาณิชย์กลับมาเมืองไทยและเดินทางต่อมายังบ้านเกิด ที่.ขอนแก่นทันที
นายธนาธิป หรือน้องนัท กล่าวว่า ได้เดินทางไปทำงานเป็นเชฟที่เมือง HAIFA(ไฮฟา) ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล เมื่อเดือน เม.ย. 2565 โดยติดต่อทางอีเมลล์สมัครงานด้วยตัวเองโดยหวังว่าะไปทำงานเก็บเงินแล้วกลับมาตั้งตัวที่เมืองไทย โดยก่อนหน้านั้นได้ติดต่อสมัครงานในตำแหน่งเชฟอาหารญี่ปุ่นในประเทศต่างๆ เพราะมีทักษะทางด้านนี้ จนกระทั่งนายจ้างที่อิสราเอลยื่นข้อเสนอมาเป็นที่พอใจจึงตกลงเดินทางไป และใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวเป็นค่าวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบินและอื่นๆ ประมาณร่วมแสนบาท
"เมื่อไปถึงนายจ้างพาไปที่ทำงานซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ “HASHUSHIYA” อยู่ในย่านชุมชนเมือง ทำงานในตำแหน่งเชฟ ได้ค่าแรงประมาณ 50,000 - 60,000 บาทต่อเดือน ทำงานวันละ 8 - 10 ชั่วโมง มีวันหยุด 2 วัน รายได้ส่วนหนึ่งส่งกลับมาให้พ่อแม่ใช้รายเดือน ส่วนหนึ่งใช้จ่าย และส่วนที่เหลือเก็บออม โดย ตลอดระยะเวลา 1 ปี 5 เดือนที่ทำงานที่นั่นการทำงานราบรื่น รายได้เป็นที่น่าพอใจ ไม่มีเหตุการณ์อะไรทุกอย่างปกติแม้จะทราบมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นเมืองสงคราม จนกระทั่งเมือเช้าวันเสาร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาได้เดินทางมาทำงานตามปกติ ต่อมาทราบจากนายจ้างว่าเกิดเหตุสู้รบกับทางตอนใต้ของประเทศและลุกลามรุนแรงขึ้น ผ่านไป 2 - 3 วันจึงตัดสินใจขอนายจ้างกลับประเทศไทย เนื่องจากอิสราเอลเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก คิดว่าหากเหตุการณ์บานปลายต้องมาถึงเมืองทางตอนเหนือแน่"
น้องนัท กล่าวต่ออีกว่า วันที่ 11 ต.ค.จึงตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยเงินส่วนตัว ทุนทรัพย์ตัวเอง และได้บินกลับไทยเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมาพร้อมกับแรงงานชุดแรก และเดินทางต่อกลับขอนแก่นทันที เมื่อถึงบ้านรู้สึกอุ่นใจโล่งใจ ขณะนี้ใช้ชีวิตโดยการพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ช่วงเย็นจะออกมาออกกำลังกายเพื่อให้ผ่อนคลาย ถึงตอนนี้ยังไม่คิดว่าจะทำอะไรต่อ ขอพักใจพักกาย ตั้งหลักก่อน เพราะเงินเก็บยังพอมีบ้าง จากนั้นค่อยหางานใหม่ในต่างประเทศ แต่คงไม่ใช่อิสราเอล เพราะหากเกิดสงครามขึ้นมาอีก ตนอาจไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้ และอีกอย่างคือไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วง ซึ่งตนเป็นลูกชายคนเดียวไม่อยากทำให้พ่อแม่เป็นห่วงอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! แรงงานไทยตาย 1 ราย สถานทูตไทยในอิสราเอล เผย 11 พื้นที่ห้ามทำงาน-พักอาศัย
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ อิสราเอล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (11 ต.ค. 67) ได้เกิดเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir'o
จับสึกทันที! 2 พระสงฆ์ 4 สามเณร มั่วสุมเสพยาในกุฏิวัด 2 แห่งที่ขอนแก่น
นายเสกสม ลินดาพรประเสริฐ นายอำเภอพล จ.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าทำการตรวจค้นที่ วัดศุภนิมิตร ม.5 บ.โสกนกเต็น อ.พล จ.ขอนแก่นหลังได้รับการร้องเรียนว่า พระตุ๋ย ซึ่งเป็นลูกวัด มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดอยู่เป็นประจำ มีวัยรุ่นเข้าออกวัดอยู่บ่อยครั้ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พล วางแผนเข้าปิดล้อมตรวจค้นวัดศุภนิมิต
ทลายร้านนวดกลางเมืองขอนแก่น จัดหาชาวลาววัย 17 ค้ากามชายรักชาย
พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สวญ.ตม.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย ร.ต.อ.สรายุทธ พิลามา รอง สว.ตม.ขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจท่องเที่ยว สภ.เมืองขอนแก่น,แรงงานจังหวัด,พม.ขอนแก่น,กอ.รมน.ขก. เข้าทำการตรวจค้นร้านนวด "อโดร่า" ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 410/1
นอภ. เร่งสอบเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านไม่โปร่งใส หลังชาวบ้านร้อง 6 ครั้งเรื่องเงียบ
จากกรณีที่นายวิญญู ปอสี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.7 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ร้องเรียนต่อสื่อมวลชน หลังพบความผิดปกติเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บ้าน มีการร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.หนองสองห้อง
คนขอนแก่นหนุนแจกเงินสด แทนดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต้องเขินทำตามลุงตู่
คนขอนแก่นเห็นด้วยรัฐบาล "อุ้งอิ้ง" แจกเงินสดกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมแนะจ่ายรายงวด เพราะขนาดคนถูกรางวัลที่ 1 ยังใช้เงินหมดและกลับมาจนเหมือนเดิม