13 ต.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม รายงานว่านับเป็นข่าวดี ท่ามกลางสงครามสู้รบระหว่างทหารอิสราเอล กับ กองกำลังติดอาวุธหนักกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ สำหรับแรงงานไทยครอบครัวหนึ่ง ที่เดินทางไปทำงานฟาร์มเกษตร ในฉนวนกาซาตอนใต้ของประเทศ โดยตั้งแต่เกิดการยิงต่อสู้กัน วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้แรงงานไทยจำนวนหนึ่ง ถูกจับเป็นตัวประกัน ถูกต้อนไปอยู่ฝั่งปาเลสไตน์ บางรายถูกทำร้ายและยิงเสียชีวิต รวมถึงส่วนหนึ่งสูญหายขาดการติดต่อ
ส่วน นายชลวิทย์ สุธา หรือ โอเล่ อายุ 30 ปี ชาวบ้านกอก หมู่ 5 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม ถือเป็นแรงงานที่โชคดีรอดชีวิตจากภัยสงคราม รวมถึงเพื่อนร่วมแคมป์คนงาน จำนวน 32 คน แยกเป็นชาวนครพนม 5 คน ก่อนหน้านี้นายโอเล่เล่าว่าหลังเกิดเหตุสงคราม ต้องหนีเอาชีวิตรอดตามหลุมหลบภัย เป็นเวลา 2-3 วันที่ไม่ได้กินข้าว ยังมีน้ำดื่มประทังชีวิต แบบไม่รู้ชะตากรรม ว่า จะมีคนมาช่วยได้เมื่อไหร่ จึงต้องหลบทั้งกระสุนปืน ระเบิดสารพัด กระทั่งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากทหารอิสราเอลได้ จึงได้รับการช่วยเหลือออกไปยังศูนย์อพยพ ถือเป็นพื้นที่ปลอดภัย อีกทั้งยังได้รับการอนุเคราะห์จากคนอิสราเอล นำเสื้อผ้าและอาหารมามอบให้ พร้อมแจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับไทย จากการช่วยเหลือของรัฐบาลไทย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 และได้แจ้งข่าวไปยังครอบครัว ผ่านแชทวีดีโอคอลเฟซบุ๊ก เพื่อความสบายใจ และแม่ได้เตรียมรับขวัญลูกชายกลับบ้าน พร้อมวางแผนจัดงานบวช เป็นสิริมงคลหลังรอดชีวิต เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ล่าสุด วันที่ 13 ตุลาคม 2566 นางตุรัตน์ สุธา อายุ 57 ปี แม่ของหนุ่มโอเล่ แรงงานไทยในอิสราเอล ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกหลังทราบข่าวลูกชายจะกลับถึงไทย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 พร้อมแชทวีดีโอคอลพูดคุยกับลูกชาย เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ล่าสุด ต่อหน้านักข่าว ด้วยรอยยิ้ม และเปิดใจว่า หลังทราบข่าวแล้วดีใจมาก จากกังวลนอนไม่หลับแต่วันแรกที่เกิดการสู้รบ เพราะลูกชายบอกสงครามรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ในรอบการเดินทางไปทำงานเกษตรของลูกชาย เข้าสัญญาปีที่ 5 เหลือสัญญาอีก 1 ปีเท่านั้น
นางตุรัตน์เล่าด้วยสีหน้าสดชื่น ว่า ทุกวันช่วงลูกชายต้องหลบภัย เอาตัวรอดอยู่ในโรงงานที่ทำ ตนได้แต่สวดมนต์ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ พระธาตุพนม หลวงปู่คำพันธุ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก เกจิชื่อดังระดับประเทศตลอดเวลา จนทราบข่าวมีทหารอิสราเอล เข้าไปช่วยเหลือออกมาอยู่พื้นที่ปลอดภัยจึงสบายใจมากขึ้น แต่ขอให้กลับถึงไทยโดยเร็ว และไม่ขอให้ลูกชายกลับไปทำงานอีก สิ่งสำคัญวางแผนจะจัดงานบวชให้รับขวัญเป็นสิริมงคลกับครอบครัว
ขณะเดียวกันทางด้าน หนุ่มโอเล่แรงงานเดนตาย ได้เล่าเหตุการณ์เสี่ยงตาย ผ่านแชทวีดีโอคอล ยอมรับว่าโชคดีมาก เพราะวันเกิดเหตุกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธหนัก เข้ามากราดยิงตามหลุมหลบภัย หวังทำร้ายถึงตาย บางคนหนีไม่ทันก็ถูกยิง หรือถูกจับตัวไปเป็นตัวประกัน เพราะจู่โจมเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว พวกตนรวม 32 คนต้องหลบซ่อนอยู่ในโรงงานที่ปิดล็อกอย่างแน่นหนา ในนั้นไม่มีอาหารกิน ยังดีที่พอมีน้ำดื่มประทังความหิว กระทั่งติดต่อทางการอิสราเอลฝ่าดงกระสุนเข้ามาช่วย และพวกตนออกจากโรงงานได้ไม่ถึง 30 นาที ก็มีระเบิดยิงมาจากกลุ่มฮามาสตกอยู่ใกล้ๆ ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายสุดในชีวิต ไม่ขอกลับไปทำงานอีกแล้ว เข็ดจริงๆให้ดิ้นตาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เศร้า! รับร่างไร้วิญญาณแรงงานไทย เหยื่อสู้รบในอิสราเอลกลับถึงบ้านแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถยนต์ตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน นจ 3915 นนทบุรี ของร้านสุริยาหีบศพ แคราย ได้เคลื่อนย้ายร่างของนายประหยัด
'ตุรเกีย' ออกโรงเรียกร้องให้ยูเอ็นคว่ำบาตรการส่งอาวุธให้อิสราเอล
กระทรวงการต่างประเทศของตุรเกียแถลงการณ์ว่า ได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติที่ลงนามโดย 52 ประเทศและสององค์กร
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลแห่งสุดท้ายในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลยังคง “ใช้ระเบิ
'มาริษ' ร่อนหนังสือประท้วงทางการอิสราเอล หลังแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุยิงจรวดเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล และทำให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย แล
นายกฯ เสียใจสุดซึ้ง เหตุแรงงานไทยเสียชีวิต ใกล้ชายแดนเลบานอน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความ ว่า เมื่อคืนนี้(31 ต.ค.) ได้รับรายงานจากนายมาริษ เสงียมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ @AmbPoohMaris
"พิพัฒน์" แสดงความเสียใจ 4 แรงงานเสียชีวิตในอิสราเอล สั่งการปลัดประสานเอกอัคราชทูต อพยพแรงงานภาคเหนือ ไปทางภาคใต้ของอิสราเอล ด่วน
1 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ออกมาแสดงความเสียใจ กรณีแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย จากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า