‘โอเล่’ หนุ่มนครพนมแชตวิดีโอคอลข้ามประเทศ ยืนยันรอดชีวิตกับเพื่อนรวม 32 คน เตรียมบินกลับไทย 15 ต.ค. เหลือเชื่อออกจากที่ซ่อน 30 นาที ระเบิดลงถล่มยับเป็นจุณ
13 ต.ค. 2566 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนมรายงานว่า จังหวัดนครพนมยังคงมีแรงงานไทยในอิสราเอลจำนวนมาก ที่พยายามติดต่อผ่านแชตเฟซบุ๊ก ด้วยการวิดีโอคอลมาแจ้งข่าวทางญาติพี่น้องและครอบครัว นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างรัฐบาลอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ วันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยจากข้อมูลของสำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม พบยอดแรงงานชาวนครพนมในอิสราเอล รวมกว่า 2,100 คน และมีแรงงานที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนในฉนวนกาซา ตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง รวมกว่า 330 คน ส่วนคนที่ถูกจับเป็นตัวประกันขาดการติดต่อ มีเพิ่มเป็นจำนวน 5 คน รวมถึงมีบางคนที่ญาติไม่สามารถติดต่อได้ โดยไม่ทราบชะตากรรม
ขณะเดียวกันมีกลุ่มแรงงานไทยในอิสราเอลที่ประสบภัยสงครามอยู่ในพื้นที่เสี่ยง พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านมายังญาติพี่น้อง รวมถึงคนรู้จัก เพื่อช่วยประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง สถานทูต ทั้งรัฐบาลไทย รวมถึงรัฐบาลอิสราเอล เข้าไปช่วยเหลือกรณีติดอยู่ในพื้นที่สีแดง ถือเป็นชายแดนที่มีการสู้รบของทหารกับกองกำลังติดอาวุธหนัก
อย่างกรณี นายชลวิทย์ สุธา อายุ 30 ปี มีชื่อเล่นว่าโอเล่ แรงงานไทยชาวบ้านกอก หมู่ 5 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้แชตวิดีโอคอลมายืนยันความปลอดภัย และสะท้อนความเป็นอยู่ของกลุ่มเพื่อนแรงงาน ที่ร่วมชะตากรรมด้วยกันรวม 32 คน โดยมีชาวนครพนมอยู่ 5 คน ปัจจุบันได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล นำไปอยู่ในศูนย์อพยพพื้นที่ปลอดภัย เพื่อรอคิวเดินทางกลับไทย ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้ นายชลวิทย์ สุธา หรือโอเล่ ได้เปิดเผยผ่านแชตวิดีโอคอลเฟซบุ๊ก พร้อมส่งคลิปสภาพความเป็นอยู่ นาทีชีวิตหลบภัยสงคราม และเปิดใจผ่านสื่อว่า ได้ไปทำงานที่ฟาร์มเกษตร รวม 4 ปี จากกำหนดสัญญารวม 5 ปี และเหลืออีก 1 ปี จะครบสัญญาว่าจ้าง หวังโกยเงินจากหยาดเหงื่อเพื่อไปสร้างฐานะครอบครัวที่ไทย แต่เกิดภัยสงครามก่อน ต้องยอมทิ้งเงินเพื่อเอาชีวิตรอดกลับไปดูแลครอบครัว
นายโอเล่ เล่าว่า เท่าที่ทราบ เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงที่สุดที่เกิดความขัดแย้งในประเทศอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เพราะช่วงที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุปะทะ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้ ตั้งแต่วันเกิดเหตุ มีการโจมตี ทั้งทางอากาศ รวมถึงทางบก ที่สำคัญกลุ่มฮามาสหัวรุนแรง บุกจู่โจมเข้าทำร้ายกราดยิงแรงงานไทย ใครโชคดีรอดชีวิต โชคร้ายถูกฆ่าตาย โดยไม่ทันตั้งตัว และเป็นการก่อเหตุที่โหดเหี้ยม
“โชคดีที่ยังสามารถติดต่อญาติพี่น้อง รวมถึงได้ติดต่ออาจารย์ที่เคยสอนในมหาวิทยาลัยนครพนม ผ่านแชตเฟซบุ๊ก เพื่อช่วยเป็นธุระประสานงานทางสถานทูต ให้ทางการทหารอิสราเอล เข้าไปช่วยเหลืออพยพย้ายออกมาจากชายแดนพื้นที่สีแดง โดยระหว่างวิดีโอแชต ก็ต้องหลบภัย ซ่อนตัวอยู่ในโรงงาน ถูกตัดน้ำตัดไฟ ขาดแคลนอาหารมา 3 – 4 วัน ต้องคอยวิ่งหลบลูกปืน หลบระเบิดจ้าละหวั่น” นายโอเล่ ระบุ
ทั้งนี้ในกลุ่มเพื่อนแรงงานไทย มีอยู่ด้วยกันรวม 32 คน ล่าสุดมีทหารอิสราเอลฝ่ากระสุนช่วยเหลือออกมาปลอดภัยทั้งหมด และได้คิวกลับไทย ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ส่วนสัญญาที่เหลืออีก 1 ปี หรือถ้าสงครามสงบลง ไม่ขอทำงานต่อ ถึงเงินค่าแรงจะมากขนาดไหน ขอเลือกเอาชีวิตรอดกลับไปดูแลครอบครัว และไม่ขอกลับมาทำงานอีก ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเลวร้ายขนาดนี้ อยากกลับไทยให้เร็วที่สุด เพราะสงครามครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการรบระหว่างทหารเท่านั้น แต่เป็นการเข่นฆ่าแรงงานไทยแบบโหดเหี้ยม ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นายโอเล่เล่าด้วยความตื่นเต้นเพิ่มเติมว่า หลังจากทหารอิสราเอลนำตัวคนงานไทยทั้ง 32 คนออกจากโรงงานได้ไม่ถึง 30 นาที ปรากฏว่ามีระเบิดถล่มโรงงานเสียหายยับเยิน ส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มก่อการร้าย จับพิกัดด้วยคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทางการอิสราเอล ตัดสัญญาณการสื่อสารเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยจะปล่อยคลื่นออกมาเป็นพักๆ
ด้าน นายสนธยา คำจันทร์ อายุ 40 ปี อดีตเป็นพนักงานราชการ ทำหน้าที่อาจารย์มหาวิทยาลัยนครพนม ปัจจุบันเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครพนม เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้ติดตามข่าวสาร เหตุสงครามในประเทศอิสราเอลตลอด และมีความเป็นห่วงหลังทราบข่าวลูกศิษย์ คือ นายโอเล่ ที่ไปทำงานฟาร์มเกษตร ได้โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะทักแชตไปสอบถามความเป็นอยู่ และลูกศิษย์ขอให้ช่วยประสานทางรัฐบาลไทย รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง สถานทูต และฝ่ายรัฐบาลอิสราเอล นำทหารเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมแจ้งพิกัดที่อยู่หลบภัย จึงได้แจ้งข้อมูลไปยังสถานทูต ประสานการช่วยเหลือ ต่อมาไม่กี่ชั่วโมงทราบข่าว ลูกศิษย์ได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล ดีใจมาก และขอให้ได้รับการช่วยเหลือกลับไทยโดยเร็ว ตนคิดว่าสำคัญที่สุดจะต้องเร่งช่วยเหลือคนไทยที่ติดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพราะเชื่อว่าน่าจะมีอีกจำนวนมาก หากปล่อยไว้นานกลัวไม่ปลอดภัย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ทวี' เสียงแข็ง! 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทย ต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ไม่มี 'ทักษิณโมเดล'
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเดินทางกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิน
เศร้า! รับร่างไร้วิญญาณแรงงานไทย เหยื่อสู้รบในอิสราเอลกลับถึงบ้านแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถยนต์ตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน นจ 3915 นนทบุรี ของร้านสุริยาหีบศพ แคราย ได้เคลื่อนย้ายร่างของนายประหยัด
'ตุรเกีย' ออกโรงเรียกร้องให้ยูเอ็นคว่ำบาตรการส่งอาวุธให้อิสราเอล
กระทรวงการต่างประเทศของตุรเกียแถลงการณ์ว่า ได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติที่ลงนามโดย 52 ประเทศและสององค์กร
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
กลุ่มฮามาสกล่าวหาอิสราเอลว่าโจมตีทางอากาศที่โรงพยาบาลแห่งสุดท้ายในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลยังคง “ใช้ระเบิ
'มาริษ' ร่อนหนังสือประท้วงทางการอิสราเอล หลังแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุยิงจรวดเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล และทำให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย แล
นายกฯ เสียใจสุดซึ้ง เหตุแรงงานไทยเสียชีวิต ใกล้ชายแดนเลบานอน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความ ว่า เมื่อคืนนี้(31 ต.ค.) ได้รับรายงานจากนายมาริษ เสงียมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ @AmbPoohMaris