ภูเก็ตจัดงานถือศีลกินผักยิ่งใหญ่ 15-23 ต.ค.คาดเงินสะพัดกว่า 9 พันล้าน!

งานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต จัดยิ่งใหญ่ 15-23 ต.ค.นี้ ชี้เป็นซอฟท์พาวเวอร์คาดเงินสะพัดกว่า 9 พันล้านบาท

11 ต.ค.2566 - นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ตประจำปี 2566 โดย จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทุกภาคส่วนจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าภาพร่วมกัน

นายโสภณกล่าวต่อว่า การจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน อยู่คู่กับเมืองภูเก็ต เป็นเทศกาลถือศีลกินผักที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นประเพณีที่สำคัญเป็น Soft Power ของภูเก็ต และประเทศไทย ที่เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งจังหวัดภูเก็ตแต่งตั้งคณะทำงาน ในเรื่องนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในแต่ละภารกิจ มอบหมายให้แต่ละคณะทำงานประชุมปรึกษาหารือโดยนำบทเรียนในปีที่ผ่านมา นำมาปรับใช้ในปีนี้ เพื่อให้งานประเพณี ถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ตประจำปี2566 ระหว่างวันที่ 15 ถึง 23 ตุลาคมนี้ เป็นงานที่มีความสมบูรณ์ที่สุดและปีหน้าจะจัดให้ดีกว่านี้ สมบูรณ์มากขึ้นซึ่งปีนี้คาดว่าน่าจะมีคนเข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากเพิ่งพ้นจากโควิด 19 และเปิดศักราชใหม่กลับมาฟื้นฟูประเพณีที่สำคัญ ฟื้นฟูการท่องเที่ยว อยากให้ งานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และพากันมาเยี่ยมชม กิจกรรมต่างๆของประเพณีที่สำคัญขอให้ทุกท่านร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในการดูแลอำนวยความสะดวกต้อนรับนักท่องเที่ยว

ด้านนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าในฐานะได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงานจัดกิจกรรมฯ ในปีนี้ คณะทำงานแยกย่อย 9 คณะทำงาน เช่น การรักษาความสงบเรียบร้อยการควบคุมราคาสินค้าการดูแลประทัด ฯลฯ เป็นต้น ได้นำบทเรียนจากปีที่ผ่านมาเพื่อดำเนินการให้มีความพร้อมยิ่งขึ้น ปีนี้จัดเต็มรูปแบบสนับสนุนให้เป็นงานระดับโลกโดยแท้จริง

นายพิชัยยุทธ สิงห์สหาย วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมีบทบาทส่งเสริม ประเพณีของท้องถิ่น ซึ่งการจัดงานในปีนี้ ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต เป็นการยกระดับส่งเสริมวัฒนธรรมสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในการขับเคลื่อน Soft Power ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ของจังหวัดภูเก็ตอยู่แล้ว

“ประเพณีนี้ได้รับการคัดเลือก จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรมของชาติ ได้ขึ้นทะเบียนตั้งแต่ ปี 2561 ด้านการปฏิบัติทางสังคม ในเรื่องพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล ซึ่งประกาศราชกิจจานุเบกษา ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ได้บรรจุประเพณีของจังหวัดภูเก็ต ในปีนี้จะขอเชิญชวนชาวภูเก็ตนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วม งานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ตที่มีพิธีกรรมต่างๆรวม 24 พิธีกรรม อาทิ ไหว้พระ สวดมนต์ต่างๆเป็นการทำบุญ โดยในวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ประกอบพิธีกิจกรรมเทิดพระเกียรติฯในงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ณสวนเฉลิมพระเกียรติ 72พรรษา หรือ ลานมังกร ไปที่ เวทีกลางสะพานหินเริ่มตั้งแต่ 16:00 น ถึง 17:00 น มี ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน และพิธีถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มเงินพุ่มทอง เริ่มตั้งแต่ เวลา 16:00 น ถึง 18:00 น. " นายพิชัยยุทธ กล่าว

ด้าน นางศุภลักษณ์ ดำรงเชื้อ รองนายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปีนี้ไม่ใช้มาตรการด้านสาธารณสุข กับโควิด-19 แต่เฝ้าระวังโรคโควิด 19 แม้ตอนนี้ภูเก็ต เป็นหน้าฝน และที่ผ่านมามีโรคไข้หวัดใหญ่ ที่จะต้องเฝ้าระวัง เพราะมีสถานที่จัดกิจกรรม ที่มีที่จะเกิดความแออัด จึงมีข้อแนะนำ คนที่เข้าร่วมกิจกรรม ต้องหมั่นล้างมือบ่อยๆ ถ้ามีอาการป่วย ต้องสังเกตตัวเองถ้ามีไข้ ไอน้ำมูก ต้องสวมหน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาด สถานที่ที่ใช้เป็นจุดสัมผัสร่วม เพราะจะคล้ายคลึงกับ โควิด ถ้าลดการเกิดโรคได้ จะต้องใช้มาตรการเช่นเดิม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ที่ผ่านมายอดสะสมผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ เกือบ 4,000 รายตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา มกราคมถึงกันยายน 2566 ซึ่งคนป่วยมากที่สุด อายุ 5-9 ขวบ และ กระจายทุกกลุ่ม ทุกตำบล ขอให้ต้องเฝ้าระวังกัน ป้องกันตนเอง ถ้าไม่สบายใจ ต้องสวมแมส หมั่นล้างมือ

นางศุภลักษณ์กล่าวต่อว่า ขอแนะนำ 5 ล. คือ 1.เลือกผักสะอาดปลอดภัย เลือกวัตถุดิบ บริโภค อาหารต่างๆ เลือกร้านที่สะอาดมาตรฐานส่วน ครัวของศาลเจ้ามีเจ้าหน้าที่เข้า ตรวจแนะนำ 2.ล้างผัก เน้นล้างวัตถุดิบ ในหลายอ๊ามหรือศาลเจ้า จะมีเจ้าหน้าที่เข้าแนะนำ ให้ใช้น้ำส้มสายชู ลดสารพิษลงไดัมากถึง 60-80% 3.ล้างมือ เพื่อป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงการหยิบจับ อาหารดัวนมือ โดยตรง 4.เลือกอาหารที่มีแป้งจำนวนน้อยเพราะจะอ้วนได้ง่าย ไขมันเยอะ เรื่องของทอด และ 5.ลด หวานมันเค็ม ให้เน้นโปรตีน และรับประทานอาหาร 5 หมู่ให้ร่างกายแข็งแรง คิดว่า การถือศีลกินผัก จะทำให้สุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย ปลอดโรคกันถ้วนหน้า

ด้านนายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้สื่อสารไปยังทั่วโลกทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในเรื่องความเชื่อของชาวภูเก็ต กับประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ได้จัดทำเอกสาร สำหรับการดาวน์โหลด เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า การกำหนดเส้นทางต่างๆ ของศาลเจ้าในจังหวัดภูเก็ต และ อยากให้คนที่มาเที่ยว รู้จัก ความเป็นมา ของประเพณีถือศีลกินผัก โดยททท.ภูเก็ต ร่วมกับ ศูนย์การค้าไลม์ไลท์อเวนิวภูเก็ต จัดนิทรรศการประเพณีถือศีลกินผักทุกแง่มุม ตั้งแต่ อาหารเจ การตั้งโต๊ะ ฯลฯ เพื่อให้คนต่างจังหวัดและนักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมการจัดนิทรรศการประเพณีและได้รับประสบการณ์จริงในช่วงการจัดงานฯ

" ททท.ภูเก็ต มีการจัดแคมเปญ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ต้องไปลงทะเบียนที่ สำนักงาน ททท.ภูเก็ต จะแจกกล่องอาหารแบบรักษ์โลก เป็น วัตถุย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และนำกล่องไปรับอาหารเจ ตามศาลเจ้า และไหว้สักการะบูชาเทพเจ้า เบื้องต้น จากการสำรวจในช่วงการจัดงานฯ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ กว่า 6 แสนคน สร้างรายได้กว่า 9,000 ล้านบาท และตอนนี้ทราบว่าในโรงแรมบางแห่งในตัวเมือง ใกล้กับหอนาฬิกา ปรับราคาห้องพัก สูงขึ้นจาก 2,500 บาทขึ้นเป็น 7,500 บาท ซึ่งยังมีคนจองเข้าพัก เป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่า ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ตสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวภูเก็ต " นายเลิศชาย กล่าว

ด้าน นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) กล่าวว่า ปีนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต สนับสนุนประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต หรือ เจี๊ยะฉ่าย ที่มาจากชาวจีนฮกเกี้ยน โดย อบจ.ภูเก็ต อุดหนุนเงิน ตามระเบียบปฏิบัติให้กับศาลเจ้า สมาคมอ๊ามภูเก็ต เป็นเงิน 1,600,000 บาท สนับสนุนการจัดพิธีส่งเก๊งหรือสวดมนต์เทิดพระเกียรติฯและ การประดับตกแต่งเมืองให้สวยงามตื่นตาตื่นใจให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด

“อบจ.ภูเก็ต ได้ทำเรือสำเภา ที่ มีความเชื่อว่าบรรพบุรุษมาจากเมืองฟูเจี้ยน มาด้วยการล่องเรือสำเภาเข้ามา จึงทำเรือสำเภาลำขนาดพอสมควรเพื่อ ร่วมพิธีต่างๆของศาลเจ้ารวมทั้งพิธีแห่พระ โดยคณะของ อบจ.ภูเก็ตจะเข้าร่วมด้วย ซึ่ง ประเพณีนี้เป็นประเพณีอันดีงาม ในการจัดงานประเพณีฯ จะเห็นว่า คนภูเก็ตทั้งจังหวัดแต่งกายชุดขาว เสื้อขาวกางเกงขาว ถือศีล เป็นความมหัศจรรย์ เป็น Soft Power ที่ดี ซึ่ง ที่อื่นในโลกไม่มี เป็นการรวมพลังที่ต่างคนต่างตั้งใจมาร่วมงานเป็นความศรัทธา ความเชื่อ โดย ในวันที่ 14 ตุลาคม มีพิธียกเสาโกเต้ง เป็นสัญลักษณ์เริ่มประเพณีถือศีลกินผัก จัดงาน 9 วัน 9 คืน เชื่อว่า นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวน 600,000 คนถ้ามีรายได้คนละ 10,000 บาท จะได้เงินเข้าภูเก็ตถึง 6,000 ล้านบาท หรือ 10,000 ล้านบาท วันนี้ขอให้ทุกคนเป็นเจ้าบ้านที่ดี และรวมพลังกัน เพื่อให้ชาวไทยทั้งแผ่นดินและชาวโลกเข้ามาเห็นประเพณี นำภาพเหล่านี้กระจายไปทั่วโลก เชื่อว่าปีหน้าจัดยิ่งใหญ่เหมือนเดิม" นายเรวัต กล่าว

ด้าน นายประสิทธิ์ สินเสาวภาคย์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวว่า เทศบาลนครภูเก็ต สนับสนุนศาลเจ้าในเขตเทศบาลนครภูเก็ต โดย สนับสนุนรถดับเพลิงไปล้างทำความสะอาดศาลเจ้า การสนับสนุนเงิน ให้ศาลเจ้าในเขตเทศบาลนครภูเก็ต การตกแต่งเมืองในเขตเทศบาลนครภูเก็ตให้เป็นจุดเช็คอินถ่ายรูป อาทิ วงเวียนสุรินทร์ หอนาฬิกาวงเวียนน้ำพุ บริเวณอาคารชาเตอร์เพอรานากันนิทัศน์ ฯลฯ การสุ่มตรวจสารอาหารปนเปื้อนในสุขาภิบาลอาหาร การจัดสถานที่ลานนวมินทร์ให้มีการสักการะรับพระ พิธีอิ้วเก้ง หรือแห่พระ ตั้งแต่วันที่ 16-23 ต.ค. นี้ และหลังพิธีแห่พระจะมีการทำความสะอาดถนนกวาดประทัด เพื่อคืนพื้นที่ให้กลับสภาพเดิม ส่วน ที่ลานมังกร จะมีการตั้งขบวนแห่ในวันที่ 16 ตุลาคม เดินไปสิ้นสุดที่สะพานหินภูเก็ต ถือว่า ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต เป็นประเพณีวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของจังหวัดภูเก็ต เทศบาลนครภูเก็ต ส่งเสริมประเพณีอันดีงาม จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดภูเก็ตทุกท่าน ร่วมพิธี ไหว้พระขอพร ที่ ลานนวมินทร์ 16-23 ตุลาคมนี้ เพื่อเป็นสิริมงคลและ สืบทอดให้คนรุ่นหลังกันต่อไป ซึ่ง เทศบาลนครภูเก็ต จะสร้างสีสันในเขตเทศบาลนครภูเก็ตให้ยิ่งใหญ่สมกับเป็นที่เลื่องลือของทั่วโลก

ด้าน นายกิตติวงศ์ จันทร์สัทธรรม นายกสมาคมอ๊ามภูเก็ต กล่าวว่า ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ตเกิดขึ้นมาเกือบ 200 ปี คนภูเก็ตรักษาประเพณีไว้เป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ เริ่มก่อเกิดขึ้นจาก 3 ศาลเจ้า หรือ อ๊าม คือ อ๊ามกะทู้ อ๊ามจุ๊ยตุ่ยและอ๊ามบางเหนียว จนปัจจุบันมี 38 อ๊าม ที่ร่วมกันรักษาประเพณี และ ภาคประชาชนที่มีความเชื่อถือศรัทธา

"สมาคมอ๊ามภูเก็ต ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุนให้ประเพณีถือศีลกินผักเกิดขึ้นเป็นที่รู้จักทั่วโลก และ ตั้งแต่มีการยกระดับจากงานประเพณีถือศีลกินผักเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ทำให้การทำงานของทุกศาลเจ้า คล่องตัวมากขึ้นได้รับการอุดหนุนจาก ทุกหน่วยงานทำให้การจัดงานสมบูรณ์ขึ้น บริบทที่ทำงานคือ ดูแลความเชื่อความศรัทธาแก่นของประเพณี ซึ่งทุกศาลเจ้า จะมีพิธี กรรมและยังมี ประเทศใกล้เคียงอาทิ มาเลเซีย ปีนัง ได้เข้ามาขอก้านธูป เป็นเชื้อ เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมในประเทศของเขาเป็นความภาคภูมิใจของเรา และปีนี้มีพิธีกรรมสวดมนต์ถวายพระพรเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะจัดพิธีอย่างสมพระเกียรติ" นายกิตติวงศ์ กล่าว

ด้านนางธนพร องค์สันติภาพ นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง กล่าวว่า เทศบาลตำบลฉลอง มีความ โชคดี มี 6 ศาลเจ้า ในพื้นที่ เทศบาลตำบลฉลอง สนับสนุนประชาสัมพันธ์ เต๊นท์ โต๊ะ เก้าอี้ และอำนวยความสะดวก เรื่องความสะอาด ให้ทุกศาลเจ้า