15 ธ.ค.2564 - เมื่อเวลา 05.20 น. พ.ต.ท.ชวรัตน์ สิงโต สว.(สอบสวน) สภ.พล อ.พล จ.ขอนแก่น รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองเมืองพลว่า มีเหตุไฟไหม้ศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย ที่บึงละเลิงหวาย ห่างจากสภ.พลไปประมาณ 300เมตร ขอให้ไปตรวจที่เกิดเหตุด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองเมืองพล กำลังฉีดน้ำดับเพลิงที่ประตูไหม้ขนาดใหญ่บริเวณทางเข้าจุดไหว้เจ้าพ่อ โดยมีกลิ่นเหม็นของน้ำมันคละคลุ้งไปทั่ว ควันโขมงภายในศาลเจ้าพ่อ ประมาณ 30 นาทีก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยพบว่าบานประตูด้านในทั้งสองบานถูกไฟไหม้ แต่ด้านนอกที่เป็นภาพวาดเทพเจ้ารักษาประตู ไม่ได้ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจสอบรอบบริเวณศาลเจ้าพ่อ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะหรือบึงละเลิงหวาย ที่มีประชาชนมาออกกำลังกายกันจำนวนมาก ปรากฏว่าพบแกลลอนใส่น้ำมันขนาด 20 ลิตร ถูกทิ้งไว้ จำนวน 2 แกลลอน จึงรักษาจุดที่พบแกลลอนน้ำมันเอาไว้ จากนั้นได้ทำการประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจากพิสูจน์หลักฐาน4 ขอนแก่นมาตรวจหาลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของคนร้าย
พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผกก.สภ.พล กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจที่เกิดเหตุและเก็บหลักที่พบในจุดเกิดเหตุไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นนั้นสันนิษฐานว่า ไฟฟ้าลัดวงจร และวางเพลิง ซึ่งขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ใน 2 ประเด็นดังกล่าวทั้งไฟฟ้ารัดวงจร และวางเพลิง
"จากการตรวจสอบและสอบสวนคณะกรรมการรวมทั้งคนเฝ้าศาลเจ้าพ่อต่างก็ไม่มีใครที่มีศัตรูที่จะมาเผาทำลายศาลเจ้าพ่อ ซี่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวอ.พล จึงต้องทำการสืบสวนสอบสวนไปยังกลุ่มที่ติดยาเสพติด หรือคนที่เคยติดคุกแล้วพ้นโทษ กลุ่มอันธพาลที่เคยถูกทำประวัติ ว่า มีใครเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ การวางเพลิงในครั้งนี้ ส่วนเรื่องไฟฟ้ารัดวงจรนั้น เท่าที่ทราบ ศาลเจ้าพ่อใช้โซล่าเซล ด้านในก็ใช้หลอดไฟเพียงเล็กน้อย และไม่มีจุดที่ผิดปกติ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาจตรวจที่เกิดเหตุก็สามารถเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยไว้ได้ด้วย ซึ่งหลักฐานต่างๆนั้น ยังไม่สามารถจับกุมใครได้ จนกว่าจะได้ตัวบุคคลคนดังกล่าวมาสอบสวนก่อน จึงจะเอาหลักฐานมายืนยันความผิดได้"
ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ แคว้นคอนฉิม อายุ 52 ปี นักธุรกิจชาว อ.พล และคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย กล่าวว่า ศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และศูนย์รวมน้ำใจ ความรัก สามัคคีของชาวอ.พล ฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำพรวจติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ชาวอ.พลเชื่อว่า เป็นหชการกระทำของคนไม่ปกติที่เอาน้ำมันมาราดแล้วเผาศาลเจ้าพ่อ
"ศาลเจ้าพ่อละเลิงหวาย ก่อสร้างมานานไม่เคยมีเหตุร้ายเกิดขึ้น กระทั่งเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ และเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนไม่ดี ที่น่าเชื่อว่าจะปีนรั้วเอานมันมาราดที่ช่องประตูแล้วจุดไฟเผา เนื่องจากศาลเจ้าพ่อนั้น เปิดเวลา 08.00 น.ปิดเวลา 17.00 น.ของทุกวัน มีเพียงแม่บ้าน ทำความสะอาดเพียงคนเดียว เมื่อปิดศาลก็กลับบ้าน จึงไม่เข้าใจเจตนาของคนก่อเหตุว่าต้องการอะไร เพราะในบริเวณศาลเจ้าพ่อไม่มีสิ่งของมีค่า หรือคนที่ลักขโมยสิ่งของในศาลเจ้าพ่อออกไป ก็จะมีอันเป็นไป จึงไม่มีใครกล้าทำ ฉะนั้นคนที่วางเพลิงเผาศาลเจ้าพ่อครั้งนี้เชื่อว่า ต้องเป็นคนพิเศษ ที่ไม่กลัวเจ้าพ่อ ไม่กลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บุกจับ 2 หนุ่ม ซุกเฮโรอีนในพรมเช็ดเท้า 4 กิโล มูลค่า 12 ล้าน
พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด
รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ชี้พระรับเงิน 'บอสพอล' ไม่ผิด นำไปใช้พัฒนาวัดจริง
พระราชพัฒนวัชรบัณฑิต รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดธาตุ พระอารามหลวง เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวนั้นทราบจากทางเลขาเจ้าคณะจังหวัดฯ แต่ไม่ทราบว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางบอสพอล
รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ยันไม่มีพระสงฆ์ในปกครองร่วมลงทุนแชร์แครอท
พระราชพัฒนวัชรบัณฑิต,รศ.ดร.รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดธาตุ พระอารามหลวง รองอธิการบดีฯวิทยาเขตขอนแก่น เปิดเผยว่า กรณีที่มีพระสงฆ์ 2 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์ในบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เบื้องหลัง 'เรือไฟ' แชมป์เก่า อ.ปลาปาก ไหม้ก่อนไหลโชว์ สูญเกือบล้าน
เบื้องหลังเรือไฟ อ.ปลาปาก มูลค่าเกือบล้านบาท ไฟไหม้ก่อนไหลโชว์ ตะเกียงไส้ยาวจนลามไปอีกดวง กลุ่มผู้สร้างขอนำไปแก้ไข เพื่อทวงบัลลังก์แชมป์คืน เสียดายเงินเหมือนโยนทิ้งน้ำ
ตร. เร่งล่าตัวมือโพสต์ขู่กราดยิงห้างดัง ยังคุมเข้มต่อตลอดสัปดาห์
ผู้สื่อข่าวจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า บรรยากาศบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น (เซ็นทรัลพลาซ่า)
'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' บี้ถอดบทเรียนบัสมรณะ เร่งสร้างจิตสำนึกคนขับ-เข้มใช้กม.
'อดีตปธ.กมธ.คมนาคม' ชี้รายงานWHO ไทยครองอันดับ 1 อาเซียน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และอันดับ 9 ของโลก สาเหตุหลักคนขับรถประมาท แนะรัฐบาลถอดบทเรียนโศกนาฏกรรมบัสมรณะ