ระทึก! ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาชี้ขาดคดีโรงงานท่าเรือขนส่งสินค้าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธายา หลังศาลชั้นต้นสั่งกรมเจ้าท่าเพิกถอนคำสั่งแล้ว แต่เอกชนขออุทธรณ์
27 ก.ย.2566 - ในเวลา 10.30 น. ณ ห้องพิจารณาคดี 8 ชั้น 3 ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ส.35/2561 คดีหมายเลขแดงที่ ส.36/2562 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 47 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 1 กับพวกรวม 8 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
โดยคดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า อุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 8 คน อนุญาตให้ผู้ประกอบการต่างๆ เข้ามาดำเนินกิจการโรงงานท่าเรือขนส่งสินค้าในท้องที่เขตความรับผิดชอบแล้วปล่อยปละละเลยให้บริเวณท่าเทียบเรือเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากผู้ประกอบการคลังสินค้าและท่าเทียบเรือเป็นเหตุให้เกิดฝุ่นละออง น้ำเสีย และส่งเสียงดังกระทบกระเทือนต่อชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม
ศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมเจ้าท่า (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ที่อนุญาตให้บริษัท เอจีอี เทอร์มินอล จำกัด (ผู้ร้องสอด) เปลี่ยนวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส ให้สามารถใช้เทียบเรือขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอสได้ จำนวน 2 ท่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2558 ตามใบอนุญาต เลขที่ 007/2555 ลว. 27 มิ.ย.2555 และใบอนุญาตเลขที่ 066/2538 ลว. 27 พ.ย.2538 โดยให้มีผลย้อนหลังนับแต่วันที่อนุญาต เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ต้องกำกับดูแลการประกอบกิจการโรงงานของผู้ร้องสอดให้เป็นไปตามกฎหมาย หากตรวจสอบพบว่าผู้ร้องสอดมีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ย่อมมีอำนาจสั่งให้ผู้ร้องสอดระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือแก้ไขหรือปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสมภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ ทั้งนี้ ตามมาตรา 35 ประกอบกับมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 แต่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนคดีว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้เข้าไปตรวจสอบโรงงานของผู้ร้องสอด หรือเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สงสัยเกี่ยวกับคุณภาพมาตรวจสอบหรือดำเนินการใดๆ ตามอำนาจหน้าที่แต่อย่างใด อีกทั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ยังรับในคำให้การว่า การประกอบกิจการของผู้ร้องสอดไม่ได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรือความเสียหายแก่ประชาชน เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ไม่เคยได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการประกอบกิจการของผู้ร้องสอด อันแสดงให้เห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ไม่มีการใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ในการกำกับดูแลและติดตามผลการประกอบกิจการของผู้ร้องสอดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต
ดังนั้น จึงฟังได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ละเลยต่อหน้าที่ตามที่พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 กำหนดให้ต้องปฏิบัติในการกำกับดูแลการประกอบกิจการของผู้ร้องสอด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 เป็นผู้มีอำนาจให้ความเห็นชอบในการเปลี่ยนประเภทการใช้ท่าเทียบเรือ ตามระเบียบระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยการขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส ให้สามารถใช้เทียบเรือขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส ได้ พ.ศ.2557 จึงต้องแจ้งให้ผู้ร้องสอดจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามที่กฎหมายกำหนดก่อนจึงจะพิจารณาอนุญาต แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ให้ความเห็นชอบให้ผู้ร้องสอดเปลี่ยนวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอส ให้สามารถใช้เทียบเรือขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส โดยไม่ปรากฏว่าผู้ร้องสอดได้จัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องสอดไม่ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการ อันเป็นสาระสำคัญตามที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกฟ้องคดี และผู้ร้องสอด จึงยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
ชาวบ่อทอง ชลบุรี เฮ!ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานยางพาราแล้ว
ที่ศาลปกครองสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ชาวบ้านบ้านหนองใหญ่-ทับสูง ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย
ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม
'กูรูใหญ่' จับตา ป.ป.ช. อาจจะติดคุกทั้งคณะ หากศาลอาญาทุจริตรับฟ้อง ปม 'วีระ' ฟ้องหลายกระทง
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า