18 ก.ย. 2566 – ผู้สื่อข่าวประจําจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ได้เดินทางไปที่บ้านของนางพัน ช่อทอง อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 117/1 หมู่ 2 ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ และบ้านของนางจัน ช่อทอง อายุ 85 ปี บ้านเลขที่ 117 หมู่ 2 ตําบลรัตนบุรี แม่เฒ่าสองพี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับน้ำท่วมขังมานานกว่า 2 ปี สภาพทางเดินเข้า – เดินออก ในซอย และบริเวณบ้านย่ำแย่ พื้นดินชื้นแฉะ เดินทางเข้าออกลําบาก เพราะมีรอยซึมไหลของน้ำเสีย ผ่านกําแพงรั่วเพื่อนบ้าน จึงทําให้ช่องทางเดินเข้าออกชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำและคราบตะไคร่น้ำ เสี่ยงต่อกําแพงพังทับ และอีกทั้งรอบๆ บ้านยังมีน้ำท่วมขังส่งกลิ่นเหม็นมานาน ยิ่งช่วงฤดูฝนมวลน้ำจากหมู่บ้านไหลผ่านท้องถนน ไหลมาลงผ่านช่องทางเดินเข้า-ออก ไหลมาลงบริเวณบ้านจนเกิดการท่วมขัง เพราะน้ำเสียต่างๆ ไม่สามารถไหลผ่านท่อระบายลงสู่คลองสาธารณะได้เหมือนเดิม หลังเจ้าของที่นาเพื่อนบ้านไม่ยอมให้น้ำไหลผ่านที่นาสู่ท่อระบายน้ำได้ โดยเอาดินมาถมปิดปากท่อระบายน้ำ
นางพัน ช่อทอง อายุ 63 ปี ยังเล่าว่า มีอาชีพรับจ้างล้างจานในร้านขายอาหารตามสั่งในหมู่บ้าน โดยอาศัยอยู่บ้านคนเดียว จึงขอวินวอนหน่วยงานภาครัฐลงมาช่วยตนและพี่สาวด้วย ตอนนี้ลําบากหนัก เพราะบริเวณบ้าน ห้องน้ำ เล่าไก่ และส่วนหลังบ้านทางเดินเข้าออกมีน้ำซึม มีน้ำท่วมขังมานานกว่า 2 ปี หลังเพื่อนบ้านที่มีที่นาติดบ้านของตน ไม่ยอมให้น้ำไหลผ่านท่อระบายน้ำลงคลองสาธารณะที่ติดกับที่นาของเพื่อนน้ำ จึงทําให้น้ำเอ่อท่วมขังมานาน ตนและพี่สาวนางจันเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะความเป็นอยู่แสนลําบาก ต้องมาคอยระวังงูเข้าบ้าน ตะขาบ ปลิง และสัตว์มีพิษต่างๆ น้ำก็ส่งกลิ่นเหม็นแสบจมูก บ้าน 2 หลังก็อาศัยเพียง 3 คน มีตนอาศัยอยู่คนเดียว ส่วนพี่สาวนางจันก็อาศัยอยู่กับลูกชายที่พิการ จึงวอนหน่วยงาน เทศบาลรัตนบุรี หรือทางอําเภอ มาช่วยทีเถอะไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว
ทางด้านนายทวีพงษ์ เครือยา อายุ 40 ปี ลูกชายของนางพัน ช่อทอง ที่หอบลูกเมียไปเช่าบ้านในตัวอําเภอ เล่าว่า แวะมาเยี่ยมแม่ตลอด เพราะแม่มีโรคประจําตัวหลายโรค และแม่เคยวูบล้มสาเหตุมาจากโรคความดัน ก่อนหน้านั้นแม่เดินลุยน้ำเข้าออกบ้านมานานกว่า 2 ปี เสี่ยงถูกปลิงกัด ตะขาบ งู และสัตว์มีพิษต่างๆ มากัด และเมื่อวานได้นําเศษไม้มาทําสะพานให้แม่เดินเข้าออก โดยแม่ไม่ต้องเดินลุยน้ำอีกต่อไป จึงขอวินวอนให้หน่วยงานเทศบาลหรือทางอําเภอฯ ออกมาช่วยไกล่เกลี่ยให้เพื่อนบ้าน ยอมเปิดท่อระบายน้ำไหลผ่านที่นาได้ไหลลงคลองสาธารณะด้วย เพราะแม่และป้าเดือดร้อนหนักมาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทศบาลนครศรีธรรมราช ปักธงเหลือง มวลน้ำจากคีรีวงไหลเข้าตัวเมือง หลังฝนตกหนัก
มวลน้ำจากพื้นที่คีรีวงกำลังไหลเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราชและเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช หลังจากที่ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (25 พฤศจิกายน 2567) ส่งผลให้พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเริ่มมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น
พยากรณ์ 10 วันล่วงหน้า ตั้งแต่ 27 พ.ย. ลมหนาวพัดแรงขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น. วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น มีหมอกบางตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้น ใต้ฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง
ศปช. ส่งจนท.-เครื่องจักร เร่งช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อุทกภัย 3 จังหวัดใต้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง
ผอ.ศปช. สั่งเกาะติดฝนถล่มภาคใต้สัปดาห์นี้ เสี่ยงวาตภัยน้ำท่วมฉับพลันใน 10 จังหวัด
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า หลังวานนี้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.เมือง และ ศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
โฆษกศปช. เผยกรณี 'น้ำผุด' อ.เชียงดาว มอบหน่วยงานลงพื้นที่ศึกษาแนวทางใช้ประโยชน์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศปช. ได้เคยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เฝ้าระวังฝนตกหนักในพื้นที่ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ย.ไปแล้วก่อนหน้านี้