ผู้การฯนราธิวาส เผยกล้องวงจรปิดเห็นพฤติกรรม 3 คนร้าย ขี่ จยย.วางระเบิดทหาร รปภ.และพระสงฆ์ ออกบิณฑบาท ที่ อ.รือเสาะ เร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี
12 ธ.ค.2564-ความคืบหน้าเหตุคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุด รปภ.พระสงฆ์เดินบิณฑบาต สังกัดกรมทหารพรานที่ 46 ที่บริเวณถังใส่ขยะข้างตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ซึ่งเป็นข้างบนเลขที่ 153 ถนนรือเสาะสนองกิจ ม.10 ต.รือเสาะจ.นราธิวาส เมื่อเวลา 06.27 น.ของวันที่ 11 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ อส.ทพ.อนันต์ รัตนบุรี และ อส.ทพ.ฤทธิพร ทองแก้ว ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรือเสาะ นั้น
พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า จำนวน 2 จุด จากเส้นทางตลาดรือเสาะมุ่งหน้าไปยังจุดเกิด สามารถบันทึกพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายเอาไว้ได้ โดยเสาไฟฟ้าจุดแรกที่ติดตั้งไว้บริเวณถนนฟาดทางรถไฟของสถานีรถไฟรือเสาะ สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ ในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. 64 มีคนร้าย จำนวน 3 คน ขี่รถ จักรยานยนต์แบบผู้หญิง 2 คัน โดยคันนำหน้าเป็นผู้ชายขี่คนเดียว คันหลังคนขับเป็นผู้ชาย ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายเป็นผู้ชายแต่อำพรางสวมใส่ชุดสุภาพสตรี หรือ ฮิญาบ ซึ่งในมือทั้ง 2 ข้างมีลักษณะประคองถุงพลาสติกสีดำ ขับขี่วนเวียนอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุ เหมือนลักษณะคล้ายกับหาจุดวางระเบิด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไล่กล้องวงจรปิดที่บริเวณจุดเกิดเหตุระเบิด และพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ทั้ง 3 คน ในเวลา 18.28 น.ของวันเดียวกัน โดยคนร้ายทั้ง 3 คน ได้จอดรถแล้วให้ผู้ชายที่แต่งกายในชุดสุภาพสตรี หรือ ฮิญาบ ลงจากเบาะนั่งของรถคันที่ 2 ถือถุงพลาสติกสีดำไปวางพิงไว้ข้างถังใส่ขยะขนาดบรรจุ 200 ลิตร ในการปะปนกับขยะมูลฝอยที่วางเกลื่อนกลาดรอบถัง จากนั้นเมื่อวางถุงพลาสติกสีดำซึ่งมีระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่ภายใน คนร้ายทั้ง 3 คน ต่างพากันขี่รถ โดยมุ่งหน้าหลบหนีเข้าไปในซอยบาเร๊ะ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 40 เมตร ที่มีสภาพเป็นถนนซอยมีผู้คนอาศัยอยู่น้อย แถมยังมีป่าที่รกทึบทั้ง 2 ข้างทาง ซึ่งง่ายต่อการหลบหนีหลังวางระเบิดแล้วเสร็จ
“ภาพกล้องวงจรปิดทั้ง 2 จุด ที่สามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญในการนำภาพให้คมชัด เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของกลุ่มบุคคลที่อยู่ในทำเนียบก่อเหตุคดีความมั่นคง รวมไปถึงบุคคลที่เคยก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ อ.รือเสาะ พร้อมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ชุดนอกเครื่องแบบ ในการแกะรอยพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัยในทางลับ เพื่อนำข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เมื่อพบว่ามีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่ก็จะเชิญตัวมาทำการสอบสวนปากคำ ซึ่งเป็นแนวทางในการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย”
แหล่งข่าวความมั่นคง ระบุว่า หลังจากคนร้ายลอบก่อเหตุจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุด รปภ.พระสงฆ์วัดราษฎร์สโมสร ในช่วงบ่ายของวันเกิดเหตุ ได้มีเจ้าหน้าที่กองกำกลัง 3 ฝ่าย ใช้กฎอัยการศึกในการปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านสะโล ม.7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ แต่พบว่าบุคคลต้องสงสัยคนดังกล่าวไม่ได้อาศัยอยู่บ้านพัก ซึ่งคาดว่าไหวตัวหลบหนีไปได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุกอาจ! คนร้ายบุกยิง นายกเทศมนตรี ตำบลรือเสาะ เสียชีวิตในห้องประชุม
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้รายงานเหตุ กรณีได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิง นายวิเชษฐ์ นายกเทศ
คดีตากใบ หมดอายุความ วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด กับผลการเมืองระหว่างประเทศ
ชื่อ "จักรภพ เพ็ญแข" คงไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากว่าเป็นใคร มาจากไหน มีบทบาททางการเมืองอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา เพราะชื่อนี้ถือเป็นคนดังในแวดวงการเมืองอยู่แล้ว
เฝ้าระวังพื้นที่3จ.ชายแดนใต้ หลังรัฐไทยทำคดีตากใบ หมดอายุความ จำเลยลอยนวล
หลัง คดีตากใบ หมดอายุความไปเมื่อเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา-ปัตตานี-นราธิวาส
'ทวี' สวมบท สส. รับ 'คดีตากใบ' ไม่เป็นธรรม ไร้เงาผู้ต้องหา
'ทวี' ชี้ 'ตากใบ-ไฟใต้' ทุกภาคส่วนต้องร่วมหาทางออก ย้ำสังคมขาดความยุติธรรมมีความแตกแยก ผู้มีอำนาจอาจอยู่ไม่ได้ เร่งเยียวยาจิตใจคนชายแดนใต้
ชวน 'นายกฯอิ๊งค์' ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปาก 'เหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต'
'อังคณา' ชี้รัฐบาลพท.-แพทองธาร ปฏิเสธความรับผิดชอบคดีตากใบไม่ได้ ชวนนายกฯ ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปากเหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต เตือนระวังคนรู้สึกไม่เป็นธรรม อาจเข้าร่วมขบวนการก่อเหตุ
แนะ 'นายกฯอิ๊งค์' ลงพื้นที่ตากใบ ขอโทษต่อหน้าญาติผู้เสียชีวิต
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แนะ อุ๊งอิ๊ง ไปตากใบ จัดพิธีขอโทษอย่างเป็นทางการ