ชาวเลอันดามัน ร้องผู้ว่าฯภูเก็ต ทบทวนให้เอกชนเช่าที่สร้างโรงแรมริมหาดไม้ขาว

เครือข่ายชาวเลอันดามัน รวมตัวกันยื่นหนังสือ เรียกร้องให้ผู้ว่าภูเก็ตทบทวนการอนุญาตให้เอกชนเช่าที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงแรม ให้แก้ไขภายใน 15 วัน

11 ส.ค.2566 - เครือข่ายชาวเลอันดามันและเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง รวมตัวกัน กว่า 20 คน รวมตัวกันยืนถือป้ายข้อความว่า " ชาวเล และ เต่าทะเลอยู่คู่หาดไม้ขาวมายาวนาน,รวมใจSAVE หาดไม้ขาวฯ และ ยื่นหนังสือแก่นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และยื่นหนังสือแก่ ว่าที่ ร้อยตรึ สมชาติ เตชถาวรเจริญ ส.ส.เขต 1 จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกล โดยมี นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ บริเวณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

นางสาวอรวรรณ หาญทะเล เครือข่ายชาวเลอันดามัน กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และส.ส.จังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบพื้นที่ ตำบลไม้ขาวอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ประกอบกิจกรรมนอนหาดของชาวเลและเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเลชนเผ่ามอร์แกนเป็นพื้นที่ประเพณีตั้งแต่บรรพบุรุษที่ยังดูแลรักษาร่วมกับ อุทยานแห่งชาติสิรินาถ แต่ เมื่อต้นปี2566 มีการปักเขตลวดหนาม ระบุว่าเป็นพื้นที่ของราชพัสดุและให้ เอกชนเช่าที่ดิน เพื่อทำโรงแรม ซึ่ง พวกเรา ขอให้ พิสูจน์สิทธิ์ที่ดินดังกล่าว ให้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุหรือพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ต้องพิสูจน์สิทธิ์การถือครองที่ดินที่ชัดเจนให้กับชาวเลรับรู้ด้วยและให้คำนึงวิถีชีวิตของชาวเลการทำประมงพื้นบ้านและการวางไข่ของเต่าทะเล

จากนั้น แกนนำ เครือข่ายชาวเลอันดามัน อ่านคำแถลงการณ์ ปกป้องหาดไม้ขาวให้เต่ามะเฟืองและพื้นที่นอนหาดชาติพันธุ์ชาวเลผืนสุดท้าย โดยยื่นข้อเสนอรวม 4 ข้อ ดังนี้

ข้อ 1. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเร่งทบทวนการอนุญาตให้เอกชนเช่าที่เพื่อสร้างโรงแรมเพราะจะส่งผลกระทบกับพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรวมถึงพื้นที่วางไข่ของเต่ามะเฟือง และเขตพื้นที่นอนหาดตามวิถีวัฒนธรรมชาวเลผืนสุดท้าย และมีคำสั่งให้โรงแรมที่ได้เช่าพื้นที่ที่ต้องรื้อถอนเสารั้วลวดหนามออกและชะลอการดำเนินการใดๆจนกว่าการจะมีแนวทางการแก้ปัญหาเสร็จสิ้น

ข้อ 2.ให้กระทรวงการคลังยุติการดำเนินการอนุญาตให้เช่าที่ดินเพราะท่านจะถือเป็นผู้ทำลายล้างพื้นที่วางไข่ของเต่าและทำลายวิถีวัฒนธรรมชาวเลอันดามัน

ข้อ 3 .ให้กระทรวงวัฒนธรรมเร่งประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลประเพณีนอนหาชาวเล

ข้อ 4. ขอให้สื่อมวลชนและสังคมร่วมจับตาติดตามร่วมสื่อสารช่วยเรียกร้องไม่ให้รัฐเอื้อที่ดินชายหาดแห่งนี้ให้ทุนข้ามชาติให้เกิดความเป็นธรรมทางนโยบายกฎหมายและหยุดการใช้อำนาจทั้งจากรัฐและนายทุนผู้มีอิทธิพล

เครือข่ายชาวเลอันดามันและเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.จังหวัดภูเก็ต)จะร่วมกับภาคีเครือข่ายและคนในสังคมที่ยังต้องการหาดไม้ขาวให้เต่าทะเลจะสู้ยืนหยัดบนหลักการสิทธิและกฎหมายที่สร้างสรรค์สันติและเป็นธรรมเพื่อรักษาแผ่นดินชายหาดไม้ขาวให้ชาวไทยชาวต่างชาติได้มาพักผ่อนให้ชาวเลได้ดำรงวิถีวัฒนธรรมให้สัตว์และพืชโดยเฉพาะเต่าทะเล ได้คงอยู่อย่างยั่งยืนสืบไปแต่หากไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่เรียกร้องภายใน 15 วันพวกเราจะไปเรียกร้องกับหน่วยงานรัฐส่วนกลางที่กรุงเทพฯ ต่อไปด้วยศรัทธาในพลังประชาชนและความเป็นธรรม พวกเราเชื่อมั่นว่าในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้จังหวัดภูเก็ตและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อวางแผนพัฒนาพื้นที่หาดไม้ขาวให้ยั่งยืน

นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เรื่องนี้ จังหวัดภูเก็ตจะต้องได้รับรายงานจากนายอำเภอถลางและ จากธนารักษ์พื้นที่จังหวัดภูเก็ตในการเช่าที่ดิน ว่าให้ผู้ใดเช่าไปทำประโยชน์ใด และเรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร โดยในระดับจังหวัด จะดูแล ประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่ง นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รับความเดือดร้อนของประชาชนทุกภาคส่วนทุกเรื่อง โดยตนจะสืบสวนข้อมูลและเสนอให้ผู้ว่า ฯภูเก็ตพิจารณาดูแลช่วยเหลือ ในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ถ้าได้ข้อมูลเร็วก็จะเร่งดำเนินการและโชคดีที่ส.สจังหวัดภูเก็ตได้เข้ามารับทราบในเรื่องนี้ด้วยจะได้ช่วยกันในระดับนโยบายระดับชาติ ซึ่ง จังหวัดภูเก็ตสามารถดำเนินการได้ในอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยจะหาทางออกที่ดีให้กับทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องดูแลระเบียบกฎหมายดำเนินการในอำนาจตัดสินใจของผู้ว่าฯ

ด้าน ว่าที่ ร้อยตรี สมชาติ เตชถาวรเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต หลังจากรับเรื่องจากพี่น้อง ประชาชนจะนำเรื่องนี้ไปตั้งกระทู้ในสภาผู้แทนราษฎร และน่าจะเกี่ยวข้องกับ 2 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงการคลังเพราะเป็นพื้นที่ราชพัสดุที่เกี่ยวข้องกับกรมธนารักษ์ โดยจะทำงานร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ต ที่มีเป้าหมายคือช่วยเหลือประชาชนและเป็นพื้นที่ที่ต้องอนุรักษ์ไว้ คุ้มครองวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาติพันธุ์ชาวเลมอร์แกนและชาติพันธุ์อูรักลาโว้ย

จากนั้น เครือข่ายชาวเลอันดามันและเครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง ได้ยุติการรวมตัวกัน ในเวลา 15.30 น ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อย ของหน่วยงานความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองภูเก็ต

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

น้ำท่วมภูเก็ตเริ่มคลี่คลาย 2 อำเภอประสบภัยเสียหายหนัก เร่งฟื้นฟูพื้นที่

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าสถานการณ์น้ำท่วมขังในจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ได้คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติสามารถเดินทางสัญจรได้ทุกพื้นที่

เร่งค้นหานักท่องเที่ยว ถูกคลื่นซัดจมทะเลหาดในหานภูเก็ต

นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เปิดเผยว่า "จากเหตุนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน อายุ 49 ปีถูกคลื่นซัดหายจมลงไปในทะเลบริเวณชายหาดในหาน ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อเย็นวานนี้(9 มิ.ย.) หลังเกิดเหตุ

ตำรวจน้ำ แถลงยุทธการฟ้าสางที่อันดามัน จับกุมเรือนำเที่ยวเอี่ยวยาเสพติด

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. พ.ต.อ.ราม รสหอม รอง ผบก.รน. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รองผบก.รน. พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก 8 บก.รน. พ.ต.อ.กมลศักดิ์ วันประดุง ผกก.9บก.

รวบแล้ว! คนร้ายบุกแทงเจ้าอาวาสในวัดดังภูเก็ต

สถานีตำรวจภูธรถลางจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ด้วยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 23.20 น ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 1 คนใช้อาวุธมีดแทง เจ้าอาวาสวัดพระทองได้รับบาดเจ็บและหลบหนีไปสถานที่เกิดเหตุ บริเวณหน้ากุฏิภายในวัดพระทอง หมู่ 1

นายกฯ เชื่อมั่นผลักดันภูเก็ต ส่งเสริมให้เศรษฐกิจสะพัดมหาศาลกว่า 3 แสนล้านบาท

นายกฯ เชื่อมั่นผลักดันภูเก็ต ส่งเสริมให้เศรษฐกิจสะพัดมหาศาลมากกว่า 3 แสนล้านบาท จากปี 2566 ล่าสุดเว็บไซต์ Bounce ยกให้ “ภูเก็ต” เป็นอันดับ 1 ของเกาะน่าท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2567

คดีถึงที่สุด ชาวเลราไวย์ชนะคดีพื้นที่หน้าหาด ศาลฎีกาชี้อยู่มานาน

นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดี นายสมศักดิ์ เจริญทรัพย์ และพวกรวม 10 คน เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ นางสาวอ้อมใจ กันเสนาะ, นายเจริญ ดำรงเกษตร