31 ก.ค. 2566 – จากคดีคนร้ายใช้เชือกสีดำฆ่ารัดคอ น.ส.เกษร หรือต้อย ศรีจันทร์ อายุ 45 ปี แม่บ้านที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เสียชีวิตบนเตียงนอนคาห้องพักเลขที่ 15 ทุ่งใหญ่รีสอร์ต หมู่ 1 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบศพบ่ายวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากช่วงเย็นวันที่ 26 ก.ค. ผู้ตายได้เข้ามาเปิดห้องพักกับชายวัย 50 ปีเศษ ก่อนชายดังกล่าวได้เร่งรีบหนีออกไปตอนเที่ยงคืน ซึ่งตำรวจสันนิษฐานสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว มีปากเสียงทะเลาะกันก่อนถูกฆ่าหมกรีสอร์ตดังกล่าว ต่อมาตำรวจเชิญตัวนายไปรรุติ หรือไบร์ท เรืองรุก อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/39 หมู่ 3 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช มาสอบสวนปากคำในฐานะผู้ต้องสงสัยที่มีการติดต่อกับผู้ตายทางโทรศัพท์ แต่ต่อมาได้ปล่อยตัวไป เพราะไม่มีพยานหลักฐานว่าเป็นคนร้ายในคดีนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดค่ำวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สืบทราบว่าคนร้ายตัวจริงรายนี้คือนายเสรี หรือไข่ บุญปราบ อายุ 57 ปี และศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชได้อนุมัติออกหมายจับนายเสรี ตามหมายจับเลขที่ 216/2566 ลงวันที่ 30 ก.ค. 2566 เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วรรณชัย คชายนต์ สว.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร.ต.อ.สมชาย ขวดทอง รอง สว.กก.สส.ภ.จว. นศ. และ พ.ต.ท.ณัฐภัทร พุทธังกุโร สว.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายจับ เดินทางไปจับกุมตัวนายเสรีได้ขณะกบดานหลบซ่อนตัวที่บ้านเดิมเลขที่ 97 หมู่ 8 ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้อย่างละม่อม พร้อมรถจักรยานยนต์ (จยย.) ของกลางที่ใช้เป็นยานพาหนะหลบหนีในวันเกิดเหตุ
ในเบื้องต้นนายเสรีให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และอ้างว่าหลังก่อเหตุและขับรถ จยย. หลบหนีระหว่างทางได้เปลี่ยนเสือผ้าที่มักจะใส่ไว้ใต้เบาะรถ จยย. ส่วนชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุได้นำไปทิ้งโยนลงแม่น้ำตาปี ใน เขต อ.ฉวาง ก่อนหลบหนีไปอยู่ที่บ้านมาตลอดจนมาถูกจับกุมดังกล่าว
จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัวนายเสรีหรือไข่ ผู้ต้องหาเดินทางมายัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้ พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทำการสอบสวนปากคำในเบื้องต้น ซึ่งนายเสรีหรือไข่ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือฆ่า น.ส.เกษรหรือต้อย จนเสียชีวิตหมกรีสอร์ทจริง โดยที่ผ่านมาตนได้คบหากับ น.ส.เกษร มาประมาณ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งตนมีอาชีพเลี้ยงไก่ชนระดับเซียนที่รู้จักกันในวงการไก่ชนอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศในนาม “เซียนไข่” จนเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน ได้รับการว่าจ้างให้ไปเลี้ยงไก่ชนให้กับเซียนไก่ชนในประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ส่งเงินมาให้ผู้ตายใช้เป็นประจำทุกเดือนๆ ละ 10,000 บาทไม่ขาดเลย แถมยังจ่ายเงินค่าแชร์ให้อีก 30,000 บาทให้กับผู้ตายอีกด้วย เพราะรักผู้ตายมากจริงๆ นอกจากนี้ก่อนไปมาเลเซีย ยังนำที่ดินไปจำนองไว้ 50,000 บาท เอาเงินให้ผู้ตายที่อ้างว่ามีหนี้สินไปล้างหนี้สิน
วันเกิดเหตุ หลังจากเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย กลับมาจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้ไปพักอยู่บ้านแม่ใน อ.ฉวาง กระทั่งวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.เกษร หรือต้อย ผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาและนัดหมายให้ไปเจอกันที่รีสอร์ตดังกล่าว โดยตนขับรถ จยย. ไปเปิดห้องราวประมาณ 17.00 น. จากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ตายได้ขับรถ จยย.มา และเข้าไปในห้อง ก่อนมีเพศสัมพันธ์กันจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง
แต่หลังจากเสร็จกิจแล้ว น.ส.เกษร ผู้ตาย ได้บอกเลิกกับตน โดยอ้างว่ามีสามีใหม่แล้ว ตนเสียใจเป็นอย่างมาก จึงถามว่ามีสามีใหม่ตอนไหน ผู้ตายระบุว่าตอนที่ตนไปรับจ้างเลี้ยงไก่ชนที่มาเลเซีย เมื่อได้ยินประโยคนี้ทำให้ตนมีอารมณ์โกรธแค้นมากเ พราะที่ผ่านมาทุ่มเททำงานเลี้ยงไก่ชนที่ประเทศมาเลเซียส่งเงินมาให้ผู้ตายทุกเดือนไม่ขาด แต่กลับมาบอกเลิกกับตน ด้วยความโมโหจึงออกจากห้องไปหาท่อนไม้เพื่อจะมาทุบฆ่าผู้ตาย แต่หาท่อนไม้ไม่ได้ และพบว่ามีเชือกสายเชือกสีดำที่รัดอยู่ที่ตระกร้าหน้ารถ จยย. ของตน จึงแกะออกนำเข้าไปฆ่ารัดคอ น.ส.เกษรหรือต้อย จนตายคามือด้วยความแค้นและทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ หลังเกิดเหตุตนมีสติกลับคืนมาทำให้ตนเสียใจมาก และได้กอดศพผู้ตายด้วยความอาลัยอาวรณ์ โดยอยู่กับอยู่กับศพผู้ตายประมาณ 1 ชั่วโมง จึงออกมาขับขี่รถ จยย. ออกจากรีสอร์ตหลบหนีมากลับบ้านในพื้นที่ ต.ไม้เรียง อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จนมาถูกตำรวจตามจับกุมได้ดังกล่าว ซึ่งต้องขอโทษผู้ตายและครอบครัวของผู้ตายด้วย ที่ทำไปในครั้งนี้เพราะแค้นจริงๆ ที่ถูกบอกเลิก อย่างไรก็ตามจะไม่ไปขอเขมาศพผู้ตายที่จะมีการเผาในวันที่ 31 ก.ค. ทั้งนี้ยินดีรับโทษทัณฑ์ที่ก่อในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า คดีนี้ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่มัดตัวนายเสรี จนนำไปสู่การออกหมายจับและนำไปสู่การจับกุมได้โดยละม่อม ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ จึงคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหทายในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาต่อไป ส่วนกรณีนายไบร์ท ผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจเชิญตัวมาสอบสวนปากคำก่อนหน้านี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ต้องหาตามที่ออกข่าวไปตอนแรก เป็นแค่ต้องสงสัยและพยาน ทั้งนี้ตำรวจเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีการติดต่อกับผู้ตาย 5 – 6 คน มาสอบสวนอย่างละเอียดตามขั้นตอนการสอบสวน เมื่อไม่พบความผิดก็ปล่อยตัวไป ส่วนคดีนี้จะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ต้องหา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับ รองผบ.ตร.-ผบช. วาระประจำปี 2567
การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2567 ได้มีมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
'บิ๊กต่าย' สั่งสอบ 'พ.ต.ต.' อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ กระทำอนาจาร
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีเพจดังเผยแพร่ข้อมูลระบุว่า มีนักเรียนนายร้อยตำรวจ ถูกอาจารย์ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสารวัตร (สอบสวน) สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล
เคาะแล้ว! ก.ตร. แต่งตั้ง รองผบ.ตร.-ผบช. 'สยาม บุญสม' ม้ามืดผงาดนครบาล
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยวาระสำคัญ คือวาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 เป็นครั้งแรก
นายกฯ ถึงไทย ‘บิ๊กต่าย’ เข้ารายงานปมร้อน จัดโผแต่งตั้ง รองผบ.ตร- ผบช. 20 พ.ย.นี้
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เข้ารายงานนายกฯถึงการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่10/2567 ในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เวลา 14.30 น.
ตำรวจกองปราบ หิ้ว ‘เจ๊พัช’ ตบทรัพย์ดิไอคอน ฝากขังศาลทุจริตฯ พร้อมค้านประกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ผู้ต้องหาในข้อหา กรรโชกทรัพย์ และการเรียกรับสินบน
โผสีกากีป่วน! นักวิ่งโชว์ตัวเจ้าของร้าน มาม่า ผงาดเก้าอี้ใหญ่ สายอดีตนายกฯคุมไซเบอร์
การปรับโผแต่งตั้งนายพลโค้งสุดท้าย เกิดขึ้นภายหลังจากช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีอดีตรัฐมนตรีตัวอยู่พรรคหนึ่งใจอยู่อีกพรรคหนึ่ง นำ 3 ตำรวจที่ครองอาวุโสเพียง 3 ปี เข้าไปพบเจ้าของร้านมาม่าดูตัว ก