ไทย-มาเลเซียฝึกผสมทางทะเลปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล

ไทย-มาเลเซีย ฝึกผสมฝึกผสม SEAEX THAMAL ครั้งที่ 67 ที่ภูเก็ต สร้างความร่วมมือปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล

20 ก.ค.2566 – พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 /ผู้อำนวยการศรชล.ภาค3 พร้อมด้วย พล.ร.จ.ROSLEE BIN MOHAMAD ISA ผู้บัญชาการ ภาคทหารเรือที่ 3 (เกาะลังกาวี) เป็นประธานร่วม ในพิธี เปิด - ปิด การฝึกฯ การจัดกำลังเข้าร่วมการฝึกผสม SEAEX THAMAL ครั้งที่ 67/2023 โดยมี คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ทัพเรือภาคที่ 3 ศรชล.ภาค 3 คณะทหารเรือมาเลเซียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองประเทศเข้าร่วมฯ ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

พล.ร.ท.อาภากรกล่าวว่า การฝึกผสม SEAEX THAMAL นั้นเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 (ค.ศ.1979) เป็นต้นมา โดยเป็นการฝึกปฏิบัติการร่วมกัน ระหว่าง หน่วยงานความมั่นคงทางทะเลของ ไทย – มาเลเซีย ปัจจุบันได้มีการพัฒนาและเพิ่มหน่วยงานเข้ามาร่วมการฝึกฯ มากขึ้น ประกอบด้วย กองทัพเรือ กองบังคับการตำรวจน้ำ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลมาเลเซีย (MMEA) หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลของไทย (ศรชล.) ซึ่งจะทำการฝึกร่วมกันทุกปีใน 2 พื้นที่ ได้แก่ ฝั่งอ่าวไทย (ด้าน นราธิวาส - กลันตัน) มี ทัพเรือภาคที่ 2 เป็นหน่วยรับผิดชอบ และฝั่งอันดามัน (ด้าน สตูล -เปอร์ลิส) มี ทัพเรือภาคที่ 3 เป็นหน่วยรับผิดชอบ

สำหรับการฝึกผสม SEAEX THAMAL ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 67 ฝั่งอันดามัน (ด้าน สตูล - เปอร์ลิส) กำหนดห้วงเวลาการฝึกฯ ระหว่างวันที่ 15-21 ก.ค.66 โดยจัดพิธีเปิดการฝึกฯ เมื่อวันที่ 17ก.ค.2566 ณ กองบัญชาการ ภาคทหารเรือที่ 3 (เกาะลังกาวี) ประเทศมาเลเซีย และ พิธีปิดการฝึกฯ ในวันที่ 20 ก.ค.2566 ณ กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 3 (จังหวัดภูเก็ต) ฝ่ายไทยจัดกำลังทางเรือ จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงแกลง (กองทัพเรือ) เรือตรวจการณ์ 996 (ศรชล.) และ ตรน.809 (กองบังคับการตำรวจน้ำ) ฝ่ายมาเลเซีย จัดกำลังทางเรือ จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือ KD TERENGGANU (กองทัพเรือมาเลเซีย) เรือ KD PERKASA (MMEA มาเลเซีย) และ PA 50 (ตำรวจน้ำ มาเลเซีย) โดยมีหลักการฝึกที่สำคัญ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การตรวจค้นเรือต้องสงสัย การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล และการปฏิบัติการร่วมในการรักษากฎหมาย

การฝึกครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจของกำลังพล หน่วยงานความมั่นคงทางทะเลของ ไทย – มาเลเซีย ในการปฏิบัติการทางเรือและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทางทะเล เช่น การลักลอบลำเลียงสินค้าผิดกฎหมาย การทำประมงผิดกฎหมาย การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ยาเสพติด การค้ามนุษย์และการกระทำอันเป็นโจรสลัด เป็นต้น

การฝึกผสม SEAEX THAMAL ถือว่าเป็นกลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ความมั่นคงทางทะเล ไทย – มาเลเซีย ให้มีการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยปฏิบัติการในระดับพื้นที่ ก่อให้เกิดความร่วมมือ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ให้มีความรวดเร็ว และลดความขัดแย้ง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ดังนั้น การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกที่สำคัญ โดย พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศรชล. ให้ความสำคัญในเรื่องการฝึกและให้เพิ่มหน่วยรักษาความมั่นคงทางทะเล ฝ่ายไทยและมาเลเซีย เข้าร่วมในการฝึกฯ โดยมีเรือของตำรวจน้ำของทั้งสองประเทศเข้าร่วมฝึกครั้งนี้ด้วย ถือว่าประสบผลสำเร็จตามที่ได้วางไว้

“ที่ผ่านมา ช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การฝึกอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ไม่ดีนัก แต่ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 แล้วการฝึกกลับมาเหมือนเดิมและดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ตามแนวชายแดนเป็นปกติทุกพื้นที่จะมีปัญหายาเสพติดและปัญหาค้ามนุษย์ เมื่อได้ประสานงานร่วมกันแล้วทำให้การปราบปรามในเรื่องการทำผิดกฎหมายทางทะเลรวมทั้ง มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การทำงานร่วมกันระหว่างไทยกับมาเลเซียมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”พล.ร.ท.อาภากร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวเบตง-มาเลย์ ประสานสามัคคี วิ่งสู้มะเร็งซื้ออุปกรณ์การแพทย์

ชาวอำเภอเบตง นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ร่วมกิจกรรมวิ่งสู้มะเร็ง นำรายได้จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์โรงพยาบาลเบตง

จับเรือประมงเวียดนาม รุกล้ำน่านน้ำไทย ตั้ง 3 ข้อหาหนัก

พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงสัตหีบ ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยเวลา 11.15 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เรือหลวงสัตหีบ ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม

OR เปิดคาเฟ่ อเมซอน 2 สาขา ณ ประเทศมาเลเซีย ส่งมอบประสบการณ์และรสชาติกาแฟที่มีเอกลักษณ์แบบไทยสู่ต่างประเทศ

นางสาว ลิม ฮุย ยิง (YB Lim Hui Ying) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประเทศมาเลเซีย และ นายรัชฎา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง พร้อมด้วย นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ร่วมกับผู้แทน บริษัท คาเฟ่ ฮับ จำกัด (Café Hub Sdn. Bhd.)