'นครพนม' ผู้สมัครนายก อบต.นาคู่ ยื่นหนังสือคัดค้านผลคะแนน หลังผีจับยัดคะแนนคู่แข่งพลิกชนะ ชี้เจ้าหน้าที่ลำเลียงหีบวางตัวไม่เป็นกลาง
08 ธ.ค.2564 - บริเวณทางขึ้นศาลากลางจังหวัดนครพนม มีชาวบ้านจากตำบลนาคู่ อ.นาแก ประมาณ 20 คน นำโดยนายเล่ห์ วงศ์ศรีชา อายุ 48 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาคู่ (อบต.นาคู่) ยื่นหนังสือคัดค้านผลการนับคะแนนนายก อบต.นาคู่ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ซึ่งนายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งฯนครพนม (ผอ.กกต.) เป็นผู้รับมอบหนังสือฉบับดังกล่าว
นายเล่ห์เผยว่า ผลการนับคะแนนนายก อบต.นาคู่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2564 มีพิรุธหลายอย่าง กล่าวคือตนเป็นผู้สมัครฯ หมายเลข 1 ผลการนับคะแนนได้ 1,619 ขณะที่คู่แข่งเป็นอดีตนายก อบต.นาคู่ ได้เบอร์ 3 ได้คะแนน 1,630 ซึ่งห่างกันแค่ 11 แต้ม เชื่อว่าการนับคะแนนไม่เป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม มีข้อพิรุธหลายๆอย่าง คือ ผลการนับคะแนนที่ปรากฏนั้น จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ตรงกับจำนวนบัตรลงคะแนน โดยเมื่อนำบัตรดีจำนวน 3,465 ใบ ไปรวมกับบัตรเสีย 77 ใบ และบัตรผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนอีก 22 ใบ เท่ากับ 3,564 ใบเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ได้ลงจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็น 3,684 คน และมีบัตรหายไป 120 ใบ โดยทีมงานมีภาพถ่ายผลรวมคะแนนก่อนมีการแก้ไขเป็นหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ลงจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็น 3,684 คนนั้น เป็นการแก้ไขชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พอมีการทักท้วงเจ้าหน้าที่ได้ไล่ตะเพิดให้ไปฟ้องร้องเอาเอง
ประเด็นต่อมาในหน่วยเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นหมู่บ้านของผู้สมัครนายกฯ หมายเลข 3 และอยู่ห่างจากจุดรวมคะแนนทั้ง 11 หมู่บ้านคือ อบต.นาคู่ เพียง 1,500 เมตรหรือ 1 กิโลเมตรครึ่ง หลังเวลา 17.00 น.ปิดหีบเลือกตั้งแล้ว การนำส่งหีบเลือกตั้งมาที่ อบต.นาคู่เป็นเวลา 20.31 น. เป็นหมู่บ้านเดียวที่ส่งหีบเลือกตั้งล่าช้าที่สุด นอกจากนี้หีบบัตรใบเลือกนายก อบต.ฯ ไม่มีการปิดด้วยเทปกาว และไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งเดินทางควบคุมการส่งหีบลงคะแนน ที่สำคัญหน่วยเลือกตั้งที่ 1 นี้ มีการลบแก้ไขตัวเลขในตารางคะแนนเลือกตั้งอีกด้วย
นายเล่ห์กล่าวต่อว่า มีข้อพิรุธที่มีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอและภาพถ่ายว่า ผลการนับคะแนนนายก อบต.นาคู่ ไม่มีการแสดงผลคะแนนของแต่ละหน่วยให้ประชาชนทราบ มีเพียงผลคะแนนของผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลฯ (ส.อบต.) ของแต่ละหมู่บ้านเท่านั้น อีกทั้งการรวมคะแนนของหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดก็งุบงิบทำเป็นความลับ โดยไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณะ
ประเด็นที่ชวนฉงนของหน่วยเลือกตั้งทั้ง 11 หน่วย ชาวบ้านที่ร่วมสังเกตการณ์ล้วนทราบผลการนับคะแนนแต่ละหน่วยหมดแล้วว่า ผู้สมัครนายก อบต.นาคู่ หมายเลข 1 คือตนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง แต่พอนำคะแนนมารวมที่ อบต.นาคู่ ปรากฏว่าคะแนนขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง เพราะคะแนนผู้สมัครฯหมายเลข 3 พลิกนำกลายเป็นผู้ชนะอย่างเหลือเชื่อ
“ผมได้โต้แย้งคัดค้านต่อเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่นับคะแนนรวมแล้วแต่ไม่เป็นผล เพราะเจ้าหน้าที่แสดงตัวไม่เป็นกลางไม่ยอมรับเรื่องร้องเรียน และนอกจากการรวมคะแนนของหน่วยเลือกตั้งทั้งหมดกระทำไปโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ มีการแก้ไขผลคะแนนของผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่มีข้อพิรุธสงสัยหลายประการ เชื่อว่าการเลือกตั้งดังกล่าวไม่โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม จึงยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านผลคะแนนนายก อบต.นาคู่ เพื่อให้ทางจังหวัดพิจารณาตามข้อเท็จจริง โดยมีคลิปวีดีโอและภาพถ่ายเป็นหลักฐานประกอบการคัดค้านในครั้งนี้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘สนธิญา’ ยื่น กกต.สอบ ‘ทักษิณ’ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกม.เลือกตั้งท้องถิ่น
สนธิญา ยื่น กกต.สอบ ทักษิณ ถือสัญชาติไทย-มอนเตฯ หรือไม่ เสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น-พรรคการเมือง-รธน. ห้ามคนต่างชาติเอี่ยวการเลือกตั้งทุกระดับ พ่วงร้องสอบหาเสียงหยาบคาบ เป็นเท็จ อาจทำเลือกตั้ง อบจ.อดุรฯ โมฆะ
เปิดหนังสือ ‘หมอวรงค์’ ร้อง กกต. สอบ 4 ประเด็นใหญ่ ฟัน ‘ทักษิณ’ ปราศรัยอุดรฯเข้าข่ายผิดกม.
ในการปราศรัยที่อุดรที่ผ่านมา จริงอยู่คุณมีสิทธิ์เสรีภาพที่จะพูด อยากจะปราศรัย เป็นเรื่องของคุณ แต่คุณต้องรับรู้นะครับว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้าคุณทำให้สงสัยได้ว่า มีความเสี่ยงที่ทำผิดกฏหมาย
‘เรืองไกร’ สบช่องร้อง ป.ป.ช. เช็คบิล ‘กิตติรัตน์’ ว่าที่ปธ.บอร์ดธปท.
เรืองไกร ร้อง ป.ป.ช. ตรวจ กิตติรัตน์ ป.กมธ.งปม.2555 เข้าข่ายมีความผิดแบบ สมหญิง หรือไ
‘แทนคุณ’ ร้อง ‘ปธ.สภาฯ’ สอบสภาทนายความ เหตุมีทนายสร้างความแตกแยก
แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ยื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบการทํางานของสภาทนายความฯ
‘ผู้การจ๋อ’ ส่งทนายยื่นหนังสือ ‘ผบ.ตร.’ ยัน ป.ป.ช.ไม่ชี้มูล คดี ‘อัจฉริยะ’ ร้องเรียน
ทนายความของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำมติ ป.ป.ช.ที่ไม่ชี้มูลความผิด กรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องทุกข์กล่าวโทษ
เครือข่ายชาวเลอันดามัน ยื่น 3 ข้อ ขอรัฐบาลแก้ไขปัญหา ฟื้นฟูวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล
เครือข่ายชาวเลอันดามัน นำโดย นายวิทวัส เทพสง ผู้ประสานงานฯ พร้อมตัวแทน 10 คน ยื่นหนังสือถึงนายกฯ