![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/07/1-11.jpg)
7 ก.ค. 2566 – ที่ จ.พิจิตร นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดพิจิตร เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่สืบเนื่องมาจากมีเกษตรกรร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนว่า โครงการสร้างแพสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้า งบปี 64/65 มี 2 แห่ง สร้างเสร็จเบิกเงินเรียบร้อย แต่ใช้งานไม่ได้ โดยพบว่า โครงการแรกเป็นโครงการจ้างก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านย่านยาว ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร งบประมาณ พ.ศ. 2564 ของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด งบประมาณ 20,021,000 บาท ราคาที่จัดซื้อจัดจ้าง 15,743,210 บาท มีห้างหุ้นส่วนจำกัด ดี อาร์ ที เทรดดิ้ง เป็นผู้รับจ้าง วันที่เริ่มต้นสัญญา วันที่ 5 มีนาคม 2564 วันที่สิ้นสุดสัญญา 27 กันยายน 2564 มีโครงการชลประทานพิจิตร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ เป็นการใช้งบประมาณเท่านั้น
แห่งที่ 2 คือ สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านคลองตามี ต.บ้านน้อย อ.โพทะเล จ.พิจิตร โดยวิธีคัดเลือก เป็นโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของจังหวัด/กลุ่มจังหวัด งบประมาณ 32,541,000 บาท ราคาที่จัดซื้อจัดจ้าง 32,530,000 บาท มีห้างหุ้นส่วนจำกัด วงศ์สระหลวงก่อสร้าง เป็นผู้รับจ้าง วันที่เริ่มต้นสัญญา 19 มกราคม 2565 มีโครงการชลประทานพิจิตร เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการ
ซึ่งทั้ง 2 โครงการ สร้างเสร็จแต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ตามวัตถุประสงค์ เนื่องจากติดปัญหาส่วนราชการ คือ จังหวัดพิจิตร-กรมธนารักษ์-องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขาดการบูรณาการในการทำงานร่วมกัน ซึ่งความจริงเป็นปัญหาที่เล็กน้อยมากถ้าได้ประชุมพูดคุยกันก็น่าจะหาข้อยุติได้ จึงได้มีการดำเนินการประชุมรับฟังลงพื้นที่และแก้ญหาโดยมี นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯพิจิตร เป็นประธานและได้ข้อยุติถึงแนวทางแก้ปัญหา
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/07/2-7.jpg)
ล่าสุดวันนี้ นายเอกฉัตร อี่ยมตาล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิจิตร พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของแพสูบน้ำทั้ง 2 แห่ง จึงได้ร่วมกันกับทีมงานของ ป.ป.ช. พิจิตร และชมรม Strong จิตพอเพียง ตรวจสภาพการใช้งานของสถานีสูบน้ำทั้ง 2 แห่ง ว่ามีคุณภาพสมบูรณ์ใช้งานได้จริงตามสัญญาจ้างหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่าแพสูบน้ำดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างดีสูบน้ำไหลแรงส่งไปช่วยนาข้าวฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำยมของพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง ได้เป็นอย่างดี
![](https://storage-wp.thaipost.net/2023/07/3-8.jpg)
หลังจากนี้ก็จะให้ทุกฝ่ายดำเนินงานด้านธุรการและเอกสารเพื่อให้ อบต.รังนก อ.สามง่าม และ อบต.บ้านน้อย อ.โพทะเล ดำเนินการประชุมสภา เพื่อขอมติในการรับแพสูบน้ำจากจังหวัดพิจิตรไปบริหารจัดการเพื่อสูบน้ำช่วยเหลือเกษตรกรให้มีน้ำทำนาบนพื้นที่เกือบ 5 พันไร่ ของทั้ง 2 ตำบล ซึ่งเป็นภารกิจหน้าที่ที่ อบต. ทั้ง 2 แห่ง ควรต้องรับโอนเพราะเป็นภารกิจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อความเจริญรุ่งเรือง ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่นคงของเกษตรกรที่ล้วนเป็นประชากรภายใต้การปกครองของท้องถิ่นนั้นนั่นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีหนาว! ‘เรืองไกร’ ร้อง ปปช. ตรวจสอบจนท.ของรัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
วันนี้ผมจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 8 รายดังกล่าว
เดือด 'โฆษกรัฐบาล' แบกปลาหมอคางดำ โยนบาปให้เกษตรกร
'ณัฐชา' อัด 'โฆษกรัฐบาล' แบก 'ปลาหมอคางดำ' โยนบาปให้เกษตรกร ขอ อย่าลอยตัวอยู่ในห้องแอร์ ต้องระดมแก้ปัญหาช่วยเหลือ
'รพ.ตำรวจ' เตะถ่วง! ไม่ยอมส่งเวชระเบียน 'ทักษิณ' ให้ ป.ป.ช.
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ชวนคุยเรื่องคุณทักษิณ กับกระบวนการยุติธรรม
'ภูมิธรรม' ยันยังไม่เลิก 'ไร่ละพัน' แจง 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' หวังช่วยชาวนาอีกทาง
'ภูมิธรรม' แจงไม่ได้ยกเลิกไร่ละพัน พร้อมดึงกลับมาใช้ถ้าราคาข้าวตก ย้ำคนละส่วนกับปุ๋ยคนละครึ่ง ชี้ สส. รุมค้าน เหตุไม่เข้าใจถ่องแท้ไปฟังเกษตรกรมา
ผวากระทบฐานเสียงรัฐบาล! หลังครม.เลิกไ่ร่ละ 1 พัน ดัน 'ปุ๋ยคนละครึ่ง' แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาการประชุมครม.ได้หารือวาระต่างๆเสร็จสิ้นแล้ว นายกรัฐมนตรี ได้มีการสอบถามขึ้นมากลางวงประชุม ถึงกรณีโครงการของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือชาวนาผ่านโครงการปุ๋ยคน