'ตรัง' เอาจริง ไล่ออก ผอ.กองสวัสดิการสังคมเทศบาลนครตรัง นำรถหลวงไปบ้านเมีย เบิกน้ำมันหลวงเดือนละ 100 ลิตร ยาวนานกว่า 8 ปี
8 ธ.ค.2564 - ผู้สื่อข่าวรายงานตามคำสั่งเทศบาลนครตรัง ที่ 1447/2564 ลงนามโดย นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ลงโทษไล่ออกจากราชการนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง พนักงานเทศบาล ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครตรัง (นักบริหารงานสวัสดิการสังคม ระดับกลาง) เงินเดือน 55,840 บาท ได้กระทำผิดวินัยกรณีนำรถยนต์ส่วนกลางของทางราชการหมายเลขทะเบียน กง 5459 ตรัง ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว และเบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการใช้รถยนต์คันดังกล่าวจากทางราชการโดยมิชอบ ตั้งแต่เดือน ต.ค.2552 ถึง เดือน พ.ค.2559 เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเอง หรือบุคคลอื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจไม่ปฏิบัติกฎหมาย กฎ ระเบียบ ของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงตามข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 5 วรรคสอง และข้อ 6 วรรคสอง แห่งประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลนครตรัง เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย พ.ศ.2558 และคณะกรรมการพนักงานเทศบาลนครตรังในการประชุมครั้งที่ 10/2564 วันที่ 26 ต.ค.64 มีมติให้ลงโทษไล่ออกนายรณรงค์ออกจากราชการ อาศัยอำนาจตามมาตรา 15 มาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 และข้อ85 แห่งประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลนครตรัง เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย พ.ศ.2558
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำ จ.ตรัง ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาในกรณีดังกล่าว ป.ป.ช.จึงมีมติครั้งที่ 72/2564 ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า นายรณรงค์ได้ใช้อำนาจครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของตนเองโดยมิชอบ แล้วนำรถไปใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไป -กลับ ระหว่างบ้านพักเลขที่ 80/3 ซอย 4 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง กับสำนักงานเทศบาลนครตรังเป็นประจำทุกวัน เดินทางไปร่วมงานสังคมต่างๆ เช่น งานศพ งานบวช งานแต่งงาน และงานประเพณีต่างๆ และเดินทางไปบ้านของมารดาของภรรยานายรณรงค์ ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง บ่อยครั้ง เสมือนว่าเป็นรถส่วนบุคคล และในการใช้รถยนต์คันดังกล่าว ได้เบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากเทศบาลนครตรังทุกครั้งเดือนละประมาณ 100 ลิตร อันเป็นการเบียดบังน้ำมันเชื้อเพลิงของเทศบาลนครตรัง รวมทั้งได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดเก็บรักษาไว้ที่บ้านพักของตนเองตลอดมาโดยไม่มีเหตุผลความจำเป็น และไม่มีการขออนุญาตจากนายกเทศมนตรีนครตรังเพื่อประโยชน์ของตนเอง
การกระทำของนายรณรงค์ยังคงมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดย มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 และมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา127/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561มาตรา 192 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดตรัง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ พ.ศ.2554 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 5 วรรคสอง และข้อ - วรรคสอง และประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดตรังเรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย พ.ศ.2558 ข้อ 10 วรรคสอง
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยกับนายรณรงค์ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งเทศบาลนครตรัง ดำเนินการทางละเมิดกับนายรณรงค์เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไปด้วย.
ในขณะที่ ผอ. ป.ป.ช.ตรัง ชี้ชัด ผอ.สวัสดิการสังคม นครตรัง มีความผิดชัดเจน จึงมีมติให้ไล่ออกจากราชการ และยังพบว่ายังมีหลายหน่วยงาน พบว่ายังมีการนำทรัพย์สินทางราชการไปใช้ส่วนตัว แม้ว่าระยะหลังจะดีขึ้นบ้างก็ตาม
นายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ตรัง กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการ ปปช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง อดีตผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคมเทศบาลนครตรัง ในกรณีนำรถยนต์ของทางราชการไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวและมีการเบิกค่าน้ำมันหลวงด้วยในการใช้รถไปในการส่วนตัว โดยรถยนต์ราชการตามหลักการต้องนำไปใช้ในเรื่องของทางราชการเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการชี้มูลไปในช่วงประมาณ 3 เดือนที่แล้ว คณะกรรมการชี้มูลเสร็จ ทาง ปปช.จังหวัดในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็ส่งเรื่องให้นายกเทศบาลนครตรังในฐานะผู้บังคับบัญชาของอดีตข้าราชการดังกล่าวเพื่อทำการลงโทษทางวินัย ซึ่งทาง ปปช.ชี้มูลผิดทางวินัยร้ายแรงโทษปลดออกหรือไล่ออก ก็เข้าใจว่าหลังจากนั้นเทศบาลนครตรังเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการเทศบาลระดับจังหวัดที่มีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อเสนอความเห็นชอบในการปลดหรือไล่ออกจากราชการ ซึ่งหลังจากที่คณะกรรมการเทศบาลจังหวัดตรังได้มีมติเห็นชอบตามสำนวนของ ปปช. เทศบาลนครตรังออกคำสั่งเพื่อไล่ออกข้าราชการดังกล่าว เท่าที่ตนทราบทางเทศบาลนครตรังได้ไล่ออกข้าราชการดังกล่าวแล้วตามที่กล่าวข้างต้น
สำหรับการร้องเรียนการนำรถส่วนราชการไปใช้ในเรื่องส่วนตัวในอดีตมีให้เห็นกันอยู่เนืองๆ แต่พอมา ณ ปัจจุบันตนมองว่าน่าจะดีขึ้น เพราะจากการชี้มูลของ ปปช. และบทลงโทษหลาย ๆ อย่าง มองเห็นภาพว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องเป้นความผิด เป็นความเบียดบังของทางราชการอย่างหนึ่งในการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ทำให้ราชการส่วนหนึ่งเกิดความกลัว เกิดความเกรงใจ และอีกส่วนหนึ่งมีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งอนาคตมองว่าการใช้ทรัพย์สินของทางราชการไปในการส่วนตัวจะลดลง ผอ.ป.ป.ช.ตรัง กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย
ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม
ป.ป.ช. ฟัน '2 บิ๊กนักการเมืองท้องถิ่น' ร่ำรวยผิดปกติ
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นางเรณู พลเสน
'เลขาฯ พท.' ย้ำยึดตาม 'อุ๊งอิ๊ง' ไม่ขับ 'เฉลิม' หวังเวลาช่วยเยียวยา
'สรวงศ์' ย้ำยึดตามหัวหน้าเพื่อไทย ไม่มีนโยบายขับ 'เฉลิม' ยันไร้ปัญหาภายในพรรค สมาชิกมุ่งมั่นทำงาน หวังเวลาช่วยเยียวยา
รู้แล้ว! ทำไม 'เฉลิม' กับ 'อุ๊งอิ๊ง' ยังเปิดศึกไม่เลิก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทั้ง อุ๊งอิ๊ง และ เฉลิม ต่างก็หวงเก้าอี้ สส.