6 ธ.ค. 2564 – เมื่อเวลา 10.40 น. บรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเปิดด่านเป็นวันแรก ให้ทำการขนส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค ระหว่างชายแดนไทยและมาเลเซีย โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีการขนส่งสินค้าจากประเทศมาเลเซีย มีรถบรรทุกของผู้ประกอบการจากประเทศมาเลเซีย ขนสินค้าผ่านด่านพรมแดน ข้ามไปมาระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่ประเทศมาเลเซีย ยังไม่อนุญาตให้รถขนสินค้าของประเทศไทย เข้ามาส่งสินค้าในประเทศมาเลเซีย แต่หากต้องการส่งสินค้าเข้าประเทศมาเลเซีย สามารถให้รถบรรทุกสินค้าจากประเทศมาเลเซียเข้ามารับสินค้าที่บริเวณด่านพรมแดนเบตงได้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ ประจำด่านศุลกากรเบตง กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดด่านพรมแดนเบตง โดยเปิดให้ขนส่งสินค้าระหว่างชายแดนไทยและมาเลเซีย ซึ่งเข้มงวดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยจำกัดผู้ขับรถขนส่งสินค้าและผู้ติดตามได้ไม่เกิน 2 คน และหากทำการคัดกรองเรียบร้อยแล้ว จะมีมาตรการควบคุมโดยจะให้สายรัดข้อมือแก่ผู้ขับรถขนส่งสินค้าและผู้ติดตาม โดยสามารถอยู่ในพื้นที่เขตอำเภอเบตงได้ไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง
สำหรับการขนส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค ระหว่างชายแดนไทยและมาเลเซีย ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยผู้ขับรถขนส่งสินค้าและผู้ติดตาม เมื่อเข้ามาในบริเวณด่านพรมแดนเบตงแล้ว จะต้องเข้าทำการตรวจคัดกรองระหว่างประเทศ ซึ่งจะมีการซักถามข้อมูลเรื่องการการฉีดวัคซีนและผลสวอป ที่ต้องไม่เกิน 30 วัน จึงจะสามารถเดินทางผ่านเข้าไปประทับพาสปอร์ตที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้
ทั้งนี้ หากมีการเปิดจุดผ่านแดนบริเวณชายแดนไทย – มาเลเซีย ทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย จ.สงขลา ด่านสะเดา อ.สะเดา-ด่านบูกิตกายูฮิตัมรัฐเคดาห์ ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา-ด่านปาดังเบซาร์รัฐเปอร์ลิส ด่านบ้านประกอบอ.นาทวี ด่านบ้านดูเรียนบูรงอ.ปาดังเตอรับ รัฐเกดะห์, จ.นราธิวาส- ด่านสุไหงโกลกอ.สุไหงโก-ลก ตรงข้าม ด่านรันตูปันยังรัฐกลันตัน ด่านตากใบ(ท่าเรือ) อ.ตากใบ ตรงข้าม ด่านเป็งกาลันกูโบรัฐกลันตัน ด่านบูเก๊ะตา อ.แว้ง ตรงข้าม ด่านบูกิตบุหงา รัฐกลันตัน, จ.ยะลา-ด่าน เบตง อ.เบตง ตรงข้าม ด่านบูกิตบือราปิต รัฐเคดาห์ และ จ.สตูล-ด่านวังประจัน อ.ควนโดนตรงข้าม ด่านวังเกลียนรัฐเปอร์ลิส ด่านสตูล(ท่าเรือ) อ.เมืองสตูล -ท่าเรือกัวลาเปอร์ลิส รัฐเปอร์ลิส-ท่าเรือเจตตีกัวลังกาวีรัฐเคดาห์ ท่าเรือเทลกอีกวาลังกาวี รัฐเคดาห์
โดยจะช่วยให้มูลค่าการค้าไทย-มาเลเซีย เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 600 ล้านบาท และจะมีส่วนช่วยผู้ส่งออก นักธุรกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถส่งสินค้าไปยังมาเลเซียได้มากขึ้น ทั้งน้ำยางสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม ไก่ ปลา และอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศคู่ค้าชายแดนสำคัญเป็นลำดับที่ 1 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 239,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.47% คิดเป็นสัดส่วน 35.73% ของมูลค่าการค้าชายแดนรวมทั้งหมด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โควิดพุ่ง! ติดเชื้อใหม่รอบสัปดาห์ 3,039 ราย ดับ 1 คน 'เชียงใหม่' ป่วยสูงสุด
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 22 - 28 ธันวาคม 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่
ยะลาระอุ! โจรใต้ดักบึ้มยิงถล่มซ้ำ ตชด. พลีชีพ 1 นาย
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.ธารโต ได้แจ้งจาก ฉก.ตชด.44 เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ก่อเหตุลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง
'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
'เปิ้ล-นาคร'ปักหลักปัตตานี 'แชมป์-แบงค์'แชมป์โลก'ลงยะลา-ตากใบ นักกีฬาเจ็ตสกีผนึกกำลัง
นักกีฬาเจ็ตสกีทั่วประเทศผนึกกำลังกันอีกครั้ง สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์ล่าสุด ทีมนักกีฬาเจ็ตสกีจิตอาสา ของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ แบ่ง 2 ทีมปฏิบัติการ ทีมพี่เปิ้ล-นาคร น้องออก้า พี่ปู พี่อาร์ม เจ็ตสกี 6 ลำ ลงพื้นที่พร้อมท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี ส่วน ทีม “แชมป์” กษิดิศ “แบงค์แชมป์โลก” และพัทธดนย์ วัฒนศิลป์ เข้าช่วยเหลือที่ยะลาและพร้อมลำเลียงข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำ ยารักษาโรค ให้พี่น้องชาวตากใบ
ขอแค่พระคืน! 'บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์' ทำสร้อยทอง 5 บาท หล่นหายตอนช่วยน้ำท่วมภาคใต้
เพจเฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โพสต์ข้อความว่า "สวัสดีครับเพื่อนๆครับ ผมมีเรื่องรบกวนพี่ๆเพื่อนๆ ครับ คือเมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณเวลาห้าทุ่ม ผมได้ทำภารกิจ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่จนภารกิจเสร็จเรียบร้อย