'ทหาร-ชาวบ้านแม่เมาะ' ถกเครียด เจรจาหาข้อยุติ คดีบุกรุกป่าสงวน

อบต.บ้านดง ร่วมเจรจาหาข้อยุติ หลังชาวบ้าน-ทหาร พิพาทคดีจับชนเผ่ากะเหรี่ยงแม่เมาะรุกป่า ทหารค่ายประตูผาร่วมเจรจาหาข้อยุติชนเผ่ากะเหรี่ยง อ.แม่เมาะ หลังพิพาทกรณีชาวบ้านบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน เหตุเกิดตั้งแต่เดือนมี.ค. ล่าสุด อบต.บ้านดง เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถกเครียดกว่า 2 ชั่วโมง

6 มิ.ย.2566 - ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านท่าสี ,บ้านปงผักหละ บ้านห้วยตาด บ้านจำปุย หมู่ 4 และ ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ลำปาง ประมาณ 300 คน เดินทางมาร่วมประชุมกับตัวแทนทหารจากกองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 3 ค่ายฝึกการรบพิเศษประตูผา (ร้อย ฝรพ.3) ,ตัวแทนจากกรมอุทยานป่าไม้, นายอำเภอเมืองงาว และ ผู้บริหาร อบต.บ้านดง เพื่อหาข้อยุติ กรณีพบว่ามีการบุกรุกป่าในเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จนนำไปสู่การให้ชาวบ้านลงนามยอมรับการรุกล้ำเขตพื้นที่ฝึกทางยุทธวิธีพร้อมยึดเอกสารประจำตัวไปด้วย

ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งกรณีดังกล่าวทหารได้นำภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ปี 2562 มาเทียบพิกัดในชุมชนหมู่ที่ 4 พบที่ดินทำกินของชาวบ้าน 6 แปลงรุกล้ำป่า คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุชาวบ้านรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม กังวลว่าทหารจะส่งต่อเอกสารให้ตำรวจเข้าทำการจับกุมในเร็วๆนี้

นายสมชาติ หละแหลม ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านกลาง ต.บ้านดง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านที่มาร่วมประชุมทุกคนไม่อยากกระทบกระทั่งกับทหาร และอยากให้ปัญหาที่ดินทำกินได้รับการแก้ไขร่วมกันทุกภาคส่วนท้องถิ่น

“สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมี 3 ข้อ คือ อยากได้เอกสารส่วนตัวที่ทหารนำไปด้วยกลับคืน เพราะไม่สบายใจที่เอกสารถูกยึดไปเก็บในค่ายทหาร แม้ทหารจะบอกว่าไม่นำไปแจ้งความกับตำรวจ และยังไม่เคยมีการแจ้งความใดๆกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านต้องการนำเอกสารส่วนตัวมาเก็บไว้เอง” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว

นายสมชาติกล่าวว่า ภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศที่ทหารใช้อยู่นั้นเป็นภาพถ่ายในปี 2545 ซึ่งเทียบวัดไม่เหมือนของชาวบ้าน จึงอยากให้มีการทำแผนที่ใหม่โดยชาวบ้านมีส่วนร่วม พื้นที่ต่างๆจะได้เข้าใจตรงกันทั้งทหารและชาวบ้าน ซึ่งถ้าเทียบวัดไม่ตรงกันปัญหาก็ไม่จบ

นายสมชาติ กล่าว อยากให้ทหารอนุโลมที่ดินทำกินในพื้นที่ที่ชาวบ้านเคยปลูกข้าว ข้าวโพด กลับเข้าไปทำไร่ไม่เช่นนั้นจะต้องอดตายอย่างแน่นอน

“ที่บุกรุกเราไม่ติดใจ นั่นแค่ 5-6 คนเท่านั้น แล้วชาวบ้านที่เหลือเขาไม่ได้บุกรุกอะไร ทหารไม่ให้เราเข้าไปทำไร่ปลูกข้าว ชาวบ้านขอแค่กลับเข้าไปทำไร่ในที่ทำกินเดิมเท่านั้น เมื่อทหารบอกว่าชาวบ้านรุกล้ำพื้นที่อุทยาน 200 ไร่ เรายอมรับว่าที่ทั้ง 6 แปลง ชาวบ้านบุกรุกจริงแต่สอบถามแล้วไม่ถึง 200 ไร่ มีกันแค่คนละ 2-3 ไร่ บางคนมีไร่เดียว 6 คนยังไงก็ไม่ถึง 200 ไร่ เราไม่ติดใจพื้นที่ 6แปลงนั้นบุกรุก ยินดีคืนให้ แต่ในระหว่างนี้ขอให้เราได้เข้าไปปลูกข้าว ข้าวโพดในที่ดินทำกินของเรา เนื่องจากหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทหารห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปในพื้นที่บุกรุก ทำให้ไม่รู้ว่า 200ไร่นั้นอยู่ตรงไหน"ผู้ใหญ่บ้านกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมหาทางออกร่วมกันระหว่างทหารกับชาวบ้านครั้งนี้ นายศุกร์ ไทยธนสุกานต์ นายก อบต.บ้านดง ได้เข้ามาร่วมรับฟังและให้คำแนะนำ โดยมีว่าที่ ร.อ.ชัยทัศน์ ศรีปันชัย ปลัด อบต. คอยไกล่เกลี่ยหาข้อยุติให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีความพอใจร่วมกัน ทั้งนี้ ตัวแทนทหาร ร้อย ฝรพ.3 ได้เปิดประชุมด้วยการพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยนำมาตรา 17 พรบ.ป่าสงวน ปี 2507 ซึ่งระบุว่า ให้กองทัพบกสร้างค่ายและฝึกการต่อสู้ปราบปรามผู้ก่อการร้าย ด้วยการใช้พื้นที่ 45,156 ไร่ 1 งาน ครอบคลุมเขตบ้านท่าสี หมู่ 3 ,ปงผักหละ ห้วยตาด และบ้านจำปุย หมู่4 โดยพื้นที่ทำกินของชาวบ้านเมื่อปี 2545 มี 2 พันกว่าไร่ แต่พอวัดพื้นที่ในปี 2562 พบว่ามี 4 พันกว่าไร่ เพิ่มขึ้นมาประมาณ 2 พันไร่

“ทางร้อย ฝรพ.3 ร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.13 แต้มท่าสี พบการรุกล้ำพื้นที่ฝึกทางยุทธวิธี กองทัพภาค 3 จำนวน 6 แปลง จึงให้เจ้าของพื้นที่เซ็นรับทราบ ซึ่งหนังสือการรุกล้ำพื้นที่ฝึกเมื่อให้เซ็นรับทราบแล้วทหารก็ไม่ได้ส่งไปที่ไหน ไม่ดำเนินคดี ส่วนเรื่องที่พิจารณาคืนพื้นที่ป่าซึ่งต้องใช้ภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศปี 2545 หรือ 2562 รองแม่ทัพภาค 3 ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการ จ.ลำปางแล้ว และเรื่องนี้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ยังไม่สั่งมา ต้องรอว่าจะใช้แผนที่ปี 2545 หรือ2562 เป็นหลักในการเทียบวัดพื้นที่เขตป่าสงวนกับพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ทหารไม่อยากไปจับแต่ต้องขอร้องชาวบ้านว่าอย่าขายที่ เพราะถ้าขายเมื่อไหร่แสดงว่าคุณไม่อยากทำกินแล้ว อย่างนี้เราต้องยึดเอาคืน" ตัวแทนทหารจากค่ายประตูผา กล่าว

ตัวแทนจากทางทหาร ยังย้ำด้วยว่าวันที่เข้าไปเอาใบรับทราบบุกรุกพื้นที่ฝึกให้ชาวบ้านเซ็น ไม่เคยข่มขู่ชาวบ้าน ไม่ได้จับมือใครบังคับให้เขียน แล้วทหารก็ไม่สามารถไปจับชาวบ้านได้ ต้องสนธิกำลังกับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เท่านั้น

ด้านนายสมนึก ณคำมูล ชาวบ้านบ้านแม่ตาด กล่าวว่า ในปี 2562 ได้เข้าร่วมกับทหารและป่าไม้ทำการตรวจวัดพื้นที่จริง แต่พอไปถึงก็มีแค่คนชี้เท่านั้น แล้วบอกว่าวันนี้เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยววันหลังแจ้งใหม่ แล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จา สิงห์ชัย' ร่วมบายศรีสู่ขวัญ ก่อนส่งน้องชายก้าวสู่กรมทหาร

นับเป็นข่าวดีสำหรับครอบครัว ของ ศิลปิน “จา สิงห์ชัย” ที่มีน้องชาย ได้เกณฑ์ทหารจับได้ใบแดง ถือเป็นเกียรติของครอบครัว ก่อนส่งน้องชายเข้ากรม ทางครอบครัวซึ่งจะมี คุณยาย (คุณแม่พี่ไผ่ พงศธร) คุณพ่อ คุณแม่ และญาติผู้ใหญ่มาตุ้มมาโฮมกัน ได้เชิญหมอสู่ขวัญหรือสูตรขวัญ (หมอพราหมณ์) ทำพิธี ส่งขวัญน้องชาย

'ผบ.ฉก.ทพ.43' นำกำลังปิดล้อมตรวจค้น จับมือบึ้มกลางเมืองปัตตานี

พันเอกปรเมธ ศานุพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้นำเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการร่วม จำนวน 30 นาย บังคับใช้กฎหมาย เข้าปิดล้อมตรวจค้น

'ภูมิธรรม' ยอมรับทูตสหรัฐ เข้าพบคุย 'เอฟ-16' ย้ำไทยเลือก 'กริพเพ่น'

ที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นาย โรเบิร์ต โกเด็กเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเข้าพบ เมื่อ 16 ต.ค.ที่ผ่า

‘ผบ.ทบ.’ ลงพื้นที่ปทุมธานี ประสานความร่วมมือ รับมวลน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น

พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานกองทัพบก เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ

อดีตบิ๊กข่าวกรอง อึ้ง! ถามนักการเมือง สด.43 ปลอมแก้อย่างไร ตอบให้เลิกเกณฑ์ทหาร

นักวิชาการและนักการเมืองบางคนตั้งคำถาม ทหารมีไว้ทำไม ตอบง่ายๆ ถ้าไทยไม่มีทหาร คงไม่มีประเทศไทยให้นักการเมืองและนักวิชาการ มาตีฝีปากอวดศักดาอย่างทุกวันนี้

'7 บิ๊กขรก.' พึงสังวร! หนีคดีตากใบ ต้องอยู่กับรอยเปื้อนใหญ่ตลอดชีวิต

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผู้ต้องหาที่หลบหนีในคดีตากใบ ล้วนเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงทั้งสิ้น อาทิ