งามหน้า! รองผกก. เมาขับรถยนต์ชนท้ายกระบะ ตกข้างทางชนอัดเสาไฟฟ้า ไม่ตรวจแอลกอฮอล์

งามหน้า! รอง ผกก.เมาขับรถยนต์ชนท้ายกระบะชาวบ้าน เสียหลักตกข้างทางแล้วชนอัดเสาไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับวงกว้าง 20 กม. บาดเจ็บเล็กน้อย พิรุธ ไม่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์

5 พ.ค. 2566 - ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.10 น. ศูนย์วิทยุนเรนทร 1669 ได้รับแจ้ง มีเหตุกระยนต์อเนกประสงค์ชนกับรถยนต์กระบะ เสียหลักตกข้างทาง แล้วชนกับเสาไฟฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในตัวรถ จึงประสานอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยสุรินทร์เร่งนำเครื่องตัดถ่างรุดพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนเส้นสุรินทร์ - ศีขรภูมิ ช่วงประมาณ กม.ที่ 7 ขาเข้าตัวเมืองสุรินทร์

ผู้สื่อข่าวรุดพื้นที่ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์อเนกประสงค์ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน กน. 512 สุรินทร์ ตกอยู่คูน้ำข้างทาง และชนอัดกับเสาไฟฟ้า สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในตัวรถเป็นชาย 1 ราย อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยสุรินทร์จึงได้เร่งนำเครื่องตัดถ่างช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกมา ตรวจสอบผู้บาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อย จากนั้นผู้สื่อข่าว และอาสาสมัครพยายามสอบถามข้อมูล แต่ผู้บาดเจ็บพูดจาวกไปวนมา พุดจาไม่รู้เรื่อง รวมถึงมีอาการคล้ายกับคนเมาสุรา อีกทั้งยังพูดจาต่อว่าผู้สื่อข่าว ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูล ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในตัวรถ พบเสื้อของข้าราชกาลตำรวจ จึงทำให้ทราบว่า ผู้บาดเจ็บที่ขับรถยนต์อเนกประสงค์ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน กน. 512 สุรินทร์ คันนี้คือ พ.ต.ท.ถาวร ฤทัยวัฒน์ อายุ 57 ปี มีตำแหน่งเป็นถึง รอง ผกก. ( สอบสวน ) สภ.เขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์

ห่างออกมาประมาณ 15-20 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ดสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บย 3940 ลำพูน สภาพท้ายด้านขวาพังเสียหาย ไฟท้ายแตก ล้อหลังด้านขวาแตก สอบถามนางอาธร ประไพพัก อายุ 43 ปี ( คนขับ ) เล่าว่า ตนเพิ่งจะเลี้ยวรถตรงจุดยูเทิร์นนี้มาได้ไม่ไกล อยู่ๆก็ถูกรถคู่กรณีพุงชนเข้าที่ท้ายรถของตน ตนยืนยันว่าก่อนที่ตนจะเลี้ยวออกมา ตนได้มองดูดีแล้วว่าไม่มีรถวิ่งมาทางตรง โชคดีที่ไม่มีใครในรถได้รับบาดเจ็บมาก มีเพียงลูกชายที่ศีรษะถูกกระแทก ทำให้หัวโนเล็กน้อย

จากกรณีดังกล่าวที่รถพุ่งไปชนอัดกับเสาไฟฟ้า ด้วยแรงกระแทกทำให้ที่บริเวณยอดของเสาไฟนั้นหัก จึงทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง รัศมีประมาณ 20 กม. ทางด้านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาเพื่อเร่งแก้ไขให้ประชาชนได้กลับมาใช้ไฟได้ปกติโดยเร็ว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อที่จะขอสอบถามข้อมูลจากทาง พ.ต.อ. วีรพันธ์ ณ ลำปาง ผกก. สภ.เมืองสุรินทร์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใน สภ.แจ้งว่า ผกก.จะเข้ามาอีกทีวันจันทร์ และผู้สื่อข่าวก็ได้พยายามโทรติดต่อไปที่เบอร์โทรของ ผกก. แต่ก็ไม่มีคนรับสาย

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลจากนายฉลองกรุง สุวรรณบุตร ( หัวหน้าอาสาสมัครแผนกบรรเทาสาธารณภัย สมาคมสุรินทร์นิวส์ ) เล่าว่า หลังจากที่ทีมได้รับแจ้งเหตุ ตนก็ได้นำกำลังรุดพื้นที่ พร้อมกับอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง พอไปถึงที่เกิดเหตุก็พบรถยนต์อเนกประสงค์ยี่ห้ออีซูซุ หน้าอัดอยู่กับเสาไฟฟ้า สภาพด้านหน้าพังยับเยิน พวงมาลัยอัดบี้มาที่คนขับ ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุก็มีประกระบะฟอร์ดอีกหนึ่งคัน จอดอยู่ใกล้กับจุดยูเทิร์น สภาพถูกชนท้ายด้านขวา จากนั้นทีมก็เข้าไปดูผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ในรถยนต์อเนกประสงค์ เป็นชายสูงวัย จากนั้นอาสาสมัครจากหลายๆหน่วยงานก็เร่งใช้เครื่องตัดถ่างนำตัวผู้บาดเจ็บออกมา

ตอนนั้นผู้บาดเจ็บยังมาสติ และก็พูดคุยตอบโต้กับอาสาสมัครได้ตลอด แต่จับใจความไม่ได้ พูดจาวกไปวนมา และตอนที่อาสาสมัครเร่งช่วยเหลือ ผู้บาดเจ็บเองก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะนำตัวผู้บาดเจ็บออกมาได้ หลังจากที่นำตัวออกมาจากรถได้แล้ว ตรวจสอบมีแผลถอกตามร่างกายเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังสามรถลุกขึ้นยืนได้ เต้นได้ และมีการใช้คำพูดวาจาไม่ค่อยดีกับนักข่าว และอาสาสมัคร

ทั้งนี้นายฉลองกรุง สุวรรณบุตร ยังเล่าว่า ในที่เกิดเหตุก็ได้มีชาวบ้านมามุมดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก มีบางคนเข้ามาถามว่า ผู้บาดเจ็บมีอาการเมาหรือป่าว อันนี้ตนไม่ขอยืนยัน เพราะดูจากในคลิปแล้ว ทุกคนน่าจะตัดสินได้เอง และหลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีภรรยาขับรถมารับออกไปจากที่เกิดเหตุทันที และได้ยินคราวๆว่าเป็นหมอ แต่ตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริง และไม่ทราบว่าอยู่โรงพยาบาลไหน และในช่วงที่ร้อยเวรมาถึงที่เกิดเหตุนั้นตนยืนยันว่าไม่มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เลย

จากนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามข้อมูลไปว่า ถ้าในกรณีที่ไม่ได้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอ ณ ที่เกิดเหตุเลย แล้วมาตรวจหลังจากนั้นข้ามวันอีกที ผลตรวจจะพบแอลกออล์ในร่างกายเลย แต่ถ้าตรวจเลือดก็อาจจะมีน้อย เพราะมันจะไม่เหมือนการตรวจสารเสพติดที่สะสมอยู่ในเลือดหรือร่างกายคนเราเป้นเวลานานๆ