กกล.ผาเมือง เพิ่มกำลังตรึงเข้มชายแดนคุมหนีเข้าเมือง แฉขบวนการนำพารับทรัพย์อื้อ

2​ ธ.ค.2564 - พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยถึงสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตามแนวชายแดน​ว่า จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวที่กองกำลังผาเมืองสามารถจับกุมได้ทุกครั้งทราบว่า​ แรงงานส่วนมากจะได้รับคำชักชวนจากญาติพี่น้องของตนที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย และกลุ่มนายจ้างเดิมที่ต้องการแรงงาน รวมถึงกลุ่มขบวนการนำพาที่แจ้งข้อมูลเท็จและหลอกลวงประชาชนชาวเมียนมา เพื่อมาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีแนวโน้มในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด - 19 ได้เป็นอย่างดี

 

ประกอบกับในการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากและให้ค่าแรงสูงกว่าปกติ​ ซึ่งที่ผ่านมากองกำลังผาเมืองได้วางมาตรการในพื้นที่เฝ้าระวังตามแนวชายแดน รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนแรงงานในพื้นที่ไม่ให้หลงเชื่อรับคำชักชวนจากกลุ่มนายจ้างที่ต้องการแรงงานและกลุ่มขบวนการนำพาว่าสามารถนำพาแรงงานเข้ามาทำงานในพื้นที่ตอนในของประเทศไทยได้​ ทั้งนี้ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเท่านั้น  

 

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวอีกว่า​ ปัจจุบันกองกำลังผาเมืองได้จัดกำลังเพิ่มเติมในการลาดตระเวนเฝ้าระวังปัญหานี้และสิางผิดกฎหมาย​ ยาเสพติด​ ทั้งทางบกและทางน้ำ การเฝ้าตรวจ และการจัดตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด, การวางลวดหนามในพื้นที่เพ่งเล็ง การติดตั้งระบบ ไฟส่องสว่าง เพื่อช่วยในการตรวจการณ์ และใช้เครื่องมือพิเศษ ในการเสริมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาง พร้อมร่วมกับฝ่ายปกครอง ปิดล้อม/ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย และรีเอ็กซเรย์ (Re X – ray) ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อตรวจสอบตามสถานประกอบการ, สถานบันเทิง, บ้านเช่า หอพัก, โรงงานอุตสาหกรรม, พื้นที่ทำการเกษตร และประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านตามแนวชายแดน ให้ความร่วมมือทั้งการแจ้งเบาะแส และกระจายข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง

 

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า​ ขบวนการผู้นำพายังไม่สามารถขยายผลถึงผู้บงการได้ส่วนมากจับได้เพียงผู้นำพาในพื้นที่แนวชายแดนที่รับหน้าที่ด่านแรก​ซึ่งแรงงานที่เข้ามาต่างต้องเสียค่านำพาหัวละ​ 20,000-23,000บาท​ เป็นเงินจำนวนมากหากคำนวนตามแรงงานที่จับได้กว่าพันรายในช่วง​ 1-2​ เดือนนี้