ขอคำสั่งศาลรังวัด ตรวจสอบที่ดินทุกแปลงบนเกาะหลีเป๊ะ 'บิ๊กโจ๊ก' เชือดนายก อบต.

ขอคำสั่งศาลรังวัด-ตรวจสอบที่ดินทุกแปลงบนเกาะหลีเป๊ะ “บิ๊กโจ๊ก” ลงดาบเชือด นายก อบต. ฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่หลังปล่อยให้เอกชนสร้างประตูกั้นถนน-ทางเข้า ร.ร. เผยคำสั่งกรมที่ดินเดินหน้ายกเลิกเอกสารสิทธิแปลง 11

23 มีนาคม 2566 - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% โดยวันนี้กรมที่ดินได้มีคำสั่งที่จะออกคำสั่งตามมาตรา 61 เพื่อเพิกถอนที่ดิน นส.3 เลขที่ 11 ทั้งแปลง ได้เข้าสู่กระบวนการเพิกถอนแล้วตามขั้นตอน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นปัญหา คาดว่าจะสามารถเพิกถอนได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งจะเป็นกรอบเวลาสุดท้าย ไม่ล่าช้าหรือขยายเวลาไปมากกว่าเดือนพฤษภาคมนี้แล้ว เพราะมีเอกสารทุกอย่างรับรอง ทั้งคำพิพากษาของศาล แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ เอกสารทางวิทยาศาสตร์ ความเห็นของนักวิชาการ รับรองข้อมูลแล้วทั้งหมด ไม่มีทางบิดพลิ้วเป็นอื่นได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเพิกถอนที่ดินทั้งแปลงซึ่งเป็นเนื้อที่กว่า 81 ไร่ จะเป็นไปได้หรือไม่ เพราะมีการใช้ประโยชน์ทำธุรกิจโรงแรม มีมูลค่ามหาศาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าทำได้ เพราะคณะกรรมการฯดำเนินการภายใต้เอกสารของรัฐ ไม่มีใครสู้เอกสารรัฐได้ อยู่ที่เจ้าหน้าที่รัฐจะทำจริงหรือไม่จริงโดยที่ประชุมมีมติให้กรมอุทยานฯ และกรมที่ดิน ร่วมกันรังวัดที่ดินทั้งเกาะหลีเป๊ะ โดยยื่นคำร้องขอคำสั่งศาลจังหวัดสตูล สำรวจแนวเขตของที่ดินทุกแปลงบนเกาะ หากพบว่าที่ดินแปลงไหนไม่ถูกต้องจะมีการดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิอีก ซึ่งจะดำยื่นคำร้องต่อศาลภายในสัปดาห์หน้า

พล.ต.อ.สุเชษฐ์กล่าวว่า ศาลจังหวัดสตูลได้มีคำสั่งบังคับคดีทั้งหมด 8 คดีที่มีการรุกล้ำพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาแล้ว ซึ่งได้นัดหมายกับกรมบังคับคดีไปดำเนินการปักป้ายให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในวันที่ 31 มีนาคม ที่ศาลได้มีคำสั่งไปแล้วว่ารุกล้ำที่ดินของอุทยาน ส่วนกรณีโรงแรมบนเกาะไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมกว่า 95 แห่งนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมดและสุดท้ายต้องรื้อถอนทั้งหมด ไม่สามารถจะอยู่ได้เพราะผิดกฎหมาย โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหลายส่วนเป็นนอมินีต่างชาติ ทำให้รายได้ไม่เข้าสู่ประเทศอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเดือนร้อนของชาวเลในพื้นที่พิพาท หลังเอกชนที่อ้างสิทธิ์ได้สร้างรั้วปิดทางลงหาดจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถใช้ทางได้ ส่งผลกระทบต่อการทำประมงมามากกว่า 1 เดือนแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนนี้เป็นความล่าช้าของ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะสาหร่าย ซึ่งตนได้ดำเนินคดี ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว โดยได้นำเสนอเรื่องนี้ต่อปลัดกระทรวงมหาดไทย และวันนี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งถึงจังหวัดให้ย้ายนายก อบต. ไปช่วยราชการแล้ว เพราะการเป็นนายก อบต. มีอำนาจหน้าที่แต่ไม่ทำหน้าที่ เป็นการสร้างโดยไม่มีการข้ออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และทางตำรวจได้มีหนังสือไปถึง 5 ครั้ง ว่าเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งท้องถิ่นต้องดำเนินการรื้อถอน แต่ไม่ดำเนินการรื้อถอนและพยายามบ่ายเบี่ยง ก็ต้องถูกดำเนินคดีฐานละเว้นฯ

“เมื่อสร้างโดยไม่ขออนุญาตก็ต้องรื้อถอน คุณต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง สุดท้ายเมื่อเกิดการเพิกถอนทั้งแปลงทุกอย่างก็จบหมด เรื่องนี้ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ที่เดิมหมด เจ้าของที่แท้จริงคือกรมอุทยานแห่งชาติฯ หลังจาก set zero แล้ว กรมอุทยานฯ จะเป็นคนจัดสรรว่าจะให้ประชาชนส่วนไหนเป็นผู้ใช้ เป็นการรักษาสมดุลระหว่างประชาชนชาวอูรักลาโว้ย และนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาสู่เกาะ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการดำเนินการของคณะกรรมการฯ หลังนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ถือว่ามีความล่าช้าจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐในระดับปฏิบัติการ ในท้องที่ จ.สตูล ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าแทบทั้งหมด แต่เมื่อเกิดการเพิกเฉย ตนก็พร้อมดำเนินคดีอาญา แล้วจะทำให้การทำงานเร็วขึ้น อีกปัจจัยคือเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยงาน ต่างหน่วยต่างอยู่ ตนจึงต้องทำที่ กทม. และเดินทางลงพื้นที่ด้วย เพื่อเร่งให้แล้วเสร็จ

“ที่ผ่านมา ผมรู้อยู่แล้วว่าต้องคิดว่าเหมือนเดิม คือลงพื้นที่มาแล้วก็จบ ก็เพิกเฉยได้เหมือนเดิม แต่ไม่เป็นไรเมื่อเพิกเฉยผมก็ดำเนินคดีเสีย เมื่อดำเนินคดีกับนายก อบต. ก็ตื่นตัวเอง เมื่อเห็นการบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกคนตื่นตัว วันนี้ก็ตื่นตัวหมด เดี๋ยวผมลงพื้นที่ ใครไม่ทำอีกก็ดำเนินคดีอีก เดี๋ยวก็เร็วเอง” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ในวันที่ 24 มีนาคม 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะจะเดินทางลงพื้นที่เพื่อไปเร่งรัดสำนวนการสอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชาที่บุกรุก และรีสอร์ตต่างๆที่รุกล้ำ รวมถึงการแก้ปัญหาลักลั่นของชาวประมงพื้นบ้าน เกิดจากการทับซ้อนของกฎหมายการประมงแห่งชาติและกฎหมายอุทยานฯ ทำให้ประชาชนได้รับปัญหามาโดยตลอด พร้อมนำผู้แทนทุกหน่วยงานมาปรึกษาหาทางออกให้ชาวบ้านสามารถประกอบอาชีพได้อย่างสมดุล ระหว่างการรักษาธรรมชาติ การท่องเที่ยว และการทำมาหากิน

อนึ่ง นายกอบต.เกาะสาหร่าย คือนายณัฐพันธุ์ อังโชติพันธุ์ เป็นลูกชายของนายบรรจงและนางดารา อังโชติพันธุ์ เจ้าของที่ดินแปลงที่ 11 ซึ่งได้แบ่งที่ดินเป็นมรดกให้ลูกๆ โดยนางดาราเป็นลูกสาวของโต๊ะฆีรี บรรพบุรุษของชาวเลที่บุกเบิกเกาะหลีเป๊ะ อย่างไรก็ตามลูกๆ ของนางดาราที่ครอบครองที่ดินได้เกิดข้อพิพาทกับชาวเลที่ตั้งหมู่บ้านอยู่กันมาเนิ่นนาน และมีการฟ้องขับไล่ชาวเล อย่างไรก็ตามล่าสุดศาลได้มีคำวินิจฉัยว่าไม่มีสิทธิขับไล่ชาวเลที่อยู่กันมาดั้งเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญธรรม หอไพบูลย์สกุล รองอธิบดีกรมที่ดิน ได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเนื้อหาบางส่วนระบุว่า จากการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(อีเอสไอ) และกรมอุทยานแห่งชาติฯ เกี่ยวกับที่ดินเลขที่ 11 ต.เกาะสาหร่าย จ.สตูล พบว่าตำแหน่งที่ดินข้างเคียงไม่สอดคล้องสัมพันธ์กัน มีการแจ้งระยะที่เพิ่มขึ้น มีเนื้อที่ครอบครองเกินจากหลักฐาน ส.ค.1 และไม่ปฎิบัติตามระเบียบคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ

นอกจากนี้ผลการแปล-ตีความ ภาพถ่ายทางอากาศพบว่า ที่ดินแปลงนี้มีการทำประโยชน์ไม่เต็มแปลง พื้นที่บางส่วนยังมีสภาพเป็นป่าชายหาด ป่าดิบชื้นและทุ่งหญ้าธรรมชาติ ประกอบกับปรากฏข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลจังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566

สรุปว่านางแบอ๊ะและนางดารา อังโชติพันธุ์ ไม่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินตามที่ขอออกเอกสาร น.ส.3 แต่เป็นชาวอูรักลาโว้ยครอบครองทำประโยชน์ และมีโรงเรียนบ้านเกาะอาดังซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ในที่ดินตามหลักฐาน การยื่นคำขอออกเอกสาร น.ส.3 เลขที่ 11 จึงเป็นเท็จ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแล้ว! กมธ.ที่ดิน จ่อเรียก 'มท.1-รมว.คมนาคม' แจงปมที่ดินเขากระโดง

ที่รัฐสภา นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและ

กรมที่ดิน ยืนยัน ไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง ดำเนินการตาม คณะกรรมการสอบสวน มาตรา 61 ของคำพิพากษาศาลยุติธรรม ศาลปกครองกลาง และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วน เป็นไปด้วยความรอบคอบ และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมแจ้งให้ รฟท.พิสูจน์สิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางศาล ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมที่ดิน ได้ออกเอกสารชี้แจง กรณี คณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง

จับตาฟ้อง 9 บิ๊กมท.คดีที่ดินเขากระโดง แค่ประเดิมเท่านั้น ยังมีผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดอีกมาก

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย นักวิจารณ์การเมือง โพสต์เฟซบุ๊ก กรณีนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ฟ้องข้าราชการ กระทรวงมหาดไทย รวม 9 คน ในคดีที่ดินเขากระโดง ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ว่า

เอาแล้ว!เรื่องถึงศาลฯ 'ณฐพร' ฟ้องกราวรูด 'บิ๊กขรก.มหาดไทย' เซ่นที่ดินเขากระโดง

นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า "วันนี้ยื่นฟ้องคดีที่ดินเขากระโดง ต่อ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดตรวจฟ้องและพยานหลักฐานวันที่ 9 ธันวาคม เวลา09.30 น."

มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ

ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น

'ณฐพร' ซัด 'มหาดไทย' ยุค 'ศรีธนญชัย' ฟันธง 'ที่ดินเขากระโดง' จะถูกโทษเช่นเดียวกับคดีจำนำข้าว

ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยแพร่ข้อความกรณี กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ว่า