ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์อุดรธานี จัดบุญกุ้มข้าวใหญ่ครั้งที่ 21 ระดมทุนสู้เหมืองแร่มากว่าสองทศวรรษ เดินหน้าสู้จนชีวิตหาไม่ ชี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปกป้องในบุญคุณของข้าว กับ เหมืองแร่โครงการที่ยังไม่สมควรเกิดขึ้นในพื้นที่
26 ก.พ.2566 – ที่วัดอรุณธรรมรังสี บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ประชาชนในนาม กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีและพี่น้องชาวบ้านตำบลใกล้เคียงโดยรอบ ได้ร่วมจัดงานพิธีบายศรีสู่ขวัญข้าวประจำปีบุญกุ้มข้าวใหญ่ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พี่น้องประชาชนเพื่อคัดค้านโครงการสัมปทานเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นการจัดครั้งที่ 21 นับเป็นการจัดมาอย่างต่อเนื่องทุกๆปี ตั้งแต่มีการรวมกลุ่มเพื่อคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี ซึ่งล่าสุดรัฐบาลไฟเขียวให้มีการดำเนินการได้ในพื้นที่ แต่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ก็ยังเดินหน้าต่อสู้ในพื้นที่ พร้อมกับมีการระดมทุน และจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง
โดยกิจกรรมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมคือชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆและสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฯ กว่า 100 - 150 คน ซึ่งในช่วงเวลา 10.40 น. ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูปมาสวดมนต์ประกอบพิธีในทางพุทธศาสนาเพื่อความศิริมงคลและทำพิธีบายศรีสู่ขวัญข้าวและทำการผูกข้อต่อแขนในช่วงต่อมา ก่อนจะมีการเรี่ยไรระดมทุนกองข้าวที่รวบรวมมาจากพี่น้องชาวบ้าน เพื่อสมทบเงินที่ไดัเข้ากองทุนในการต่อสู้เรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีและเสร็จสิ้นพิธีในช่วงบ่าย
นายถาวร มโนศิลป์ อายุ 74 ปี สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า การจัดบุญกุ้มข้าวใหญ่หากนับเฉพาะงานบุญเราจัดมา 21 ปี แต่การเริ่มต่อสู้ปีนี้ก็นับว่า 23 ปีแล้ว และความเป็นมาของงานบุญก็คือข้าวในแถวละแวกนี้นั้นข้าวคือของสำคัญ ที่คนเราควรจะนับถือหรือบูชาและเคารพเพราะบรรพบุรุษเราถือกันมาแบบนั้น เพราะบุญคุณที่หล่อเลี้ยงชีวิตเราไว้เป็นบุญคุณที่หาเปรียบเทียบไม่ได้ สำหรับบุญกุ้มข้าวก็เลยมาจัดเป็นวัฒนธรรมตามสืบทอดประเพณีมาให้มันเป็นประเพณีต่อไป
“เพราะคุณค่าของข้าวนั้นหาอะไรเปรียบไม่ได้ แต่มันมีโครงการเหมืองแร่โปแตชนี้เกิดขึ้นแล้วมันมองกันคนละด้านคือบวกกับลบ โดยประเพณีบุญกุ้มข้าวนั้นเป็นบวก แต่ถ้าตัวโครงการนั้นเข้ามามันก็จะเป็นลบทันที และบวกของเราหรือข้าวมันก็จะหายไป อันนี้ก็เลยทำให้เป็นกิจกรรมเป็นประเพณีให้ทุกคนได้มองเห็นความสำคัญของข้าวกับเหมืองที่จะเกิด อันนี้คือประเด็นที่จะเป็นภาพให้เราเห็นได้ชัดเจน แต่บางคนหรือรุ่นลูกรุ่นหลานจะไม่รู้ว่า”คุณ” คืออะไร “บุญ” คืออะไร อันนี้เลยเป็นหนึ่งในที่มาที่เรามาจัดให้เป็นประเพณีเพื่อให้ลูกหลานได้รู้จักและสืบทอดต่อกันไป นี่คือเรื่องการจัดบุญกุ้มข้าวเพื่อให้ทุกคนเห็นความสำคัญของข้าว” นายถาวร ระบุ
ส่วนแนวทางในการต่อสู้ของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฯ ในอนาคตนั้น นายถาวร กล่าวว่า เรื่องการต่อสู้อีกด้านหนึ่งเราก็มองในเรื่องของกฎหมาย ถ้ากฎหมายให้เราก็มีโอกาสได้ตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายไม่ให้เดินหน้าต่อไปเราก็คงยาก ซึ่งถ้าผู้ประกอบการหรือนายทุนมาในทางแบบนี้เราก็มีทางสู้ และเราก็จะสู้ต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ หรือจนกว่าข้าวจะไม่มีในโลก
” แต่เส้นทางการต่อสู้ของกลุ่มเราไม่ใช่ว่าจะหาอาวุธหาอะไรมาสู้นั้นมาฆ่าฟันเขานั้นเราไม่ทำ เพียงแต่เรารู้ระเบียบความเป็นมากับการที่โครงการนี้มันจะเกิดมันสมควรให้เกิดขึ้นไหม เราก็ยังจะสืบทอดการต่อสู้นี้ไปชั่วลูกชั่วหลานสืบไป ก็ยังสังเกตได้ว่าเด็ก ๆ เล็ก ๆ ก็ยังมีการรวมกลุ่ม และนั้นก็จะมาเป็นต้นกล้าที่จะต่อยอดไปในการต่อสู้” นายถาวร ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ขิง’ สั่งหยุดกิจการทันทีหลังชั้นลอยโรงงานถล่มในสวนอุตสาหกรรม 304 ปราจีนบุรี เสียชีวิต 5 ราย
30 ธ.ค.2567 - นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุแผ่นคอนกรีตชั้นลอยอาคารของโรงงานบริษัท ไทยยานากาวา จำกัด
'ลุงป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่
'ลุงป้อม' สดใส เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่ ย้ำพระราชเสาวนีย์พระพันปีหลวง ปกป้องป่าให้ลูกหลาน ด้าน ผบ.เหล่าทัพ ทยอยอวยพร 3 ป. วานนี้
กรมโรงงานฯลั่นจัดการ ‘โรงงานเถื่อน’ สุดซอยไม่กลัวผู้มีอิทธิพล
อธิบดีกรมโรงงานฯ ย้ำ เดินตามนโยบายรัฐมนตรีเอกนัฏ ตรวจสุดซอย ไม่กลัวผู้มีอิทธิพล โรงงานหรือผู้เกี่ยวข้อง รู้เห็น ร่วมทำความผิด เจอคดีถึงที่สุดทันที
โบว์แดง 'รทสช.' ผสานกำลัง 2 กระทรวงปลดล็อก 'โซลาร์รูฟท็อป'
ไทยเดินหน้าพลังงานสะอาด “หิมาลัย” เผย “พีระพันธุ์-เอกนัฏ” ผสานกำลังปลดล็อก “โซลาร์รูฟท็อป” สำเร็จ เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงพรรค