ชาวเลหลีเป๊ะเดือดขู่ปิดเกาะ-บุกทำเนียบ หลังเอกชนปิดถนนดั้งเดิม-ประตูทางเข้า ร.ร.วอนรัฐแก้ไขด่วน “บิ๊กโจ๊ก” แจงกำลังเร่งเพิกถอนเอกสารสิทธิภายใน 1-2 เดือน
17 ก.พ.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างชาวเลและนายทุนเอกชนบนเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง โดยผู้ที่อ้างกรรมสิทธิ์บนที่ดิน น.ส.3 แปลงที่ 11 ซึ่งเป็นแปลงที่กรมที่ดินและอุทยานฯ กำลังตรวจสอบ ได้ทำการก่อสร้างประตูปิดทางเดินเข้าสู่โรงเรียน ที่สำคัญเมื่อเวลา 06.00 น. เอกชนรายนี้ยังได้เชื่อมประตูที่สร้างไว้แล้วเพื่อปิดเส้นทางเข้า-ออกทางเดินดั้งเดิมที่ชาวเลได้ใช้ร่วมกันมานับร้อยปีเพื่อสัญจรขึ้น-ลงทะเล และขนส่งข้าวของต่างๆ ทำให้ชาวเลต่างเดือดร้อน แม้ผู้ใหญ่บ้านและปลัดอำเภอส่วนหน้าบนเกาะหลีเป๊ะพยายามเจรจา แต่เอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์ก็ไม่ยินยอมเปิดเส้นทาง
ทั้งนี้ชาวเลต่างรู้สึกโกรธและได้รวมตัวกันบอกเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านสื่อออนไลน์เพื่อแจ้งให้สังคมและหน่วยงานต่างๆได้รับทราบถึงความเดือดร้อนและเหตุการณ์ที่กำลังบานปลาย
นางสาวสลวย หาญทะเล ชาวอูรักลาโว้ยชุมชนเกาะหลีเป๊ะกล่าวว่า พวกตนพยายามเจรจาเพื่อไม่ให้นายทุนเอกชนปิดทางเดินแต่เขาไม่ยอมเจรจาและอ้างว่าเขามีเอกสารสิทธิถูกต้อง แม้เรื่องนี้เคยมีการไกล่เกลี่ยที่ศาล จ.สตูล แล้วเพราะเป็นทางเดินที่ใช้ร่วมกันของคนบนเกาะ แต่เขาไม่ยอมฟัง เขาประกาศว่าเมื่อกรมธนารักษ์ได้มารังวัดแผนที่แล้วเขาบอกว่าหากใครคัดค้านการปิดถนนก็จะโดนคดี การปิดถนนครั้งนี้ทำให้เราชาวเลเดือดร้อนสุดๆ เพราะเป็นการปิดประตูตาย โดยชาวบ้านออกความเห็นไม่ได้เลย แม้เราพยายามบอกว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารและข้อพิพาทแต่เขาไม่เชื่อเลย
“เขาทำกับเราเหมือนเราไม่ใช่คน ไม่มีหน่วยงานไหนที่เป็นตัวกลางมาเจรจาเลยแม้แต่ตำรวจ เขาเริ่มปิดประตูรั้วเมื่อเช้ามืดตั้งแต่เรายังนอนหลับ ถ้าบริสุทธิใจจริง ทำไมไม่คุยกับชาวบ้าน หากไม่มีใครแก้ไขปัญหานี้ให้พวกเราได้ เราจะชวนกันไปประท้วงที่ทำเนียบ และหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดสตูล ทำไมราชการยังปล่อยให้ชาวเลถูกรังแกอย่างเดียว เราก็มีศักดิ์ศรี แต่ทำกับเราเหมือนหมูเหมือนหมา ทั้งที่เราเป็นผู้บุกเบิกเกาะหลีเป๊ะ คุณทำธุรกิจแต่กลับมารังแกชาวเล มาปิดเส้นทางดั้งเดิมของเราทำไม ไหนๆเขาก็ฟ้องเราแล้ว ให้มาจับเราได้เลย ไหนๆ แล้วก็ให้มาจับพวกเราให้หมด เราไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย” นางสาวสลวย กล่าวด้วยความอัดอั้นตันใจ
“เขาเป็นเจ้าของเกาะหลีเป๊ะหรืออย่างไร เราพูดจนไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ เราอยู่กับวิถีชีวิตดั้งเดิม เราไม่เคยประกาศว่าเป็นเจ้าของเกาะ เราถือว่าทุกคนต่างเป็นมนุษย์เหมือนกัน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูว่าเราถูกรังแกอย่างไร พอเราจะสู้ก็โดนคดี หาว่าทำลายทรัพย์สินของเขา อยากให้ผู้ใหญ่เอาเครื่องบิน เอาเรือรบมากี่ลำก็เอามา ถ้าหน่วยงานยังไม่ดูแลเราจะไปประท้วงที่ทำเนียบ” นางสลวย กล่าว
นางสายใจ หาญทะเล ชาวเลกล่าวว่า พวกตนกำลังเดือดร้อนมากเพราะเขาปิดประตูตายจนชาวเลออกไม่ได้ ทั้งๆที่ เส้นทางเข้าโรงเรียนเป็นรั้วโรงเรียนและถนนสาธารณะทำไมเอกชนถึงมีอำนาจปิดถนนได้ หากภายใน1 สัปดาห์ไม่มีการแก้ปัญหาให้คืบหน้า พวกเราจะไปหน้าทำเนียบ เอาน้ำตาของชาวเลไปให้ดู
“เมื่อวานเด็กป่วยเป็นไข้เลือดออก กว่าจะไปถึงอนามัยต้องเดิทอ้อมไกลจนเลือดออกปาก วันนี้ต้องเอาไปรักษาบนฝั่ง เขายิ่งใหญ่มาก อยากให้บิ๊กโจ๊กมาในวันนี้เลย ถ้ามาเราจะไปรับทั้งหมู่บ้าน ตอนนี้สถานการณ์ร้อนมาก เราอยู่ไม่ไหวแล้ว”
ขณะที่ชาวเลหลายคนต่างเห็นตรงกันว่า หากหน่วยงานราชการยังเข้ามาแก้ปัญหาไม่ได้ พวกตนพร้อมที่จะปิดเกาะหลีเป๊ะเพื่อไม่ให้มีการเข้าออก
“ตอนนี้เกาะสวรรค์กลายเป็นเกาะนรก พวกเราทุกคนเกิดที่นี่ อยากหน่วยงานรัฐมาแก้ด่วน ตอนนี้เหมือนพวกเราโดนขัง ถ้าเราปิดเกาะ เขาจะได้รู้กันบ้างว่าการถูกขังเป็นอย่างไร เราเดือดร้อนแค่ไหนจากการกระทำของเขา” ชาวเล กล่าว
ขณะที่ผู้ชายชาวเลซึ่งเป็นชาวประมงกล่าวว่า เส้นทางนี้เหมือนเส้นเลือดใหญ่เส้นเดียวของชาวเล อยากวอนผู้มีอำนาจช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนเพราะเอกชนปิดถนนแบบถาวรแล้ว ชาวบ้านที่มีเรือและใช้เส้นทางนี้จึงเดือดร้อน เพราะต้องเดินอ้อม เราไม่รู้สภาพดินฟ้าอากาศเป็นอย่างไร หากมีคลื่นลมเราก็เป็นห่วงเรือมาก อยากให้คืนความสงบสุขให้พวกเราอย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พล.อ.สุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ว่าได้สั่งการให้ผู้การจังหวัดลงมาเจรจาแล้ว ได้เห็นตำรวจเข้ามาหรือไม่ ชาวบ้านหลายคนต่างช่วยกันตอบว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเจรจาเลย ในทางตรงกันข้าม เมื่อชาวบ้านไปแจ้งตำรวจกับไม่รับฟัง
ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการแจ้งสถานการณ์สู่สังคม ตัวแทนชาวเลได้อ่านแถลงการณ์ระบุว่า เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้วนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่นายทุนเอกชนซึ่งอ้างกรรมสิทธิในที่ดินพยายามใช้ราวเหล็กสร้างเป็นประตูปิดกั้นทางเข้าโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ และสร้างประตูปิดถนนกั้นเส้นทางเดินของชุมชนที่ใช้กันมานับร้อยปี พวกเราชาวเลอูรักลาโว้ยที่อาศัยอยู่บนเกาะหลีเป๊ะพยายามรวมตัวกันเพื่อต่อสู้คัดค้านมาโดยตลอด มิฉะนั้นคนบนเกาะไม่เฉพาะพวกเราที่เดือดร้อน ทั้งชาวบ้านที่เข้ามาทำมาหากินและนักท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะก็จะต้องได้รับความเดือนร้อนเช่นเดียวกัน จนเรื่องนี้ได้กลายเป็นข่าวแพร่หลายทางสื่อสารมวลชน
แถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ขึ้นมาโดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน โดยท่านและคณะได้ลงพื้นที่เกาะเกาะหลีเป๊ะเพื่อสำรวจและเก็บข้อมูลมาแล้ว 2 ครั้ง ทำให้พวกเราซึ่งเป็นคนดั้งเดิมรู้สึกอุ่นใจและมีความหวัง ในการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองที่รับผิดชอบเกาะหลีเป๊ะได้ประสานงานกับเอกชนเพื่อรื้อถอนประตูที่กั้นโรงเรียนทำให้พวกเรายิ่งรู้สึกคลายความกังวลและเบาใจลงไปได้อีก เพราะตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา พวกเราต้องคอยเฝ้าจับตามองเนื่องจากเกรงว่านายทุนเอกชนรายนี้จะก่อสร้างประตูกีดขวางถนนสาธารณะและทางเข้าโรงเรียน แต่ปรากฏว่าคล้อยหลังจากที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์และคณะออกไปจากเกาะหลีเป๊ะไม่กี่วัน นายทุนเอกชนรายนี้ได้ใช้รถแบ็คโฮขุดถนนเพื่อสร้างประตูกั้นเส้นทางสัญจรดั้งเดิมและรื้อบางส่วนของกำแพงและประตูกั้นโรงเรียนพร้อมทั้งสร้างประตูใหม่ แม้จะขยับห่างออกมาจากโรงเรียน แต่ก็เป็นการปิดกั้นไม่ให้เด็กๆได้เดินเข้าโรงเรียนในช่องทางสัญจรเก่าแก่นี้ได้อีก
“ที่ผ่านมาพวกเราพยายามใช้ความอดทนและอดกั้นต่อพฤติกรรมของนายทุนเอกชนรายนี้มาโดยตลอดเพราะมีการแสดงออกที่ยั่วยุและเสี่ยงต่อการเผชิญหน้าและเกิดเหตุบานปลาย แต่ขณะนี้พวกเรากำลังหมดความอดทน เพราะในเช้าวันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2566 ) นายทุนเอกชนรายนี้ได้ทำการปิดประตูกั้นเส้นทางสาธารณะที่ใช้สัญจร ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นข้อพิพาทที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาของคณะกรรมการฯ รวมทั้งการขอคำสั่งคุ้มครองจากศาล ขณะนี้ความเดือดร้อนของชาวบ้านกำลังถึงขีดสุด พวกเราจึงอยากรายงานข้อเท็จจริงให้สังคมและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงสถานการณ์ล่าสุด เพราะหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาแก้ปัญหาโดยด่วนที่สุด” แถลงการณ์ ระบุ
ขณะที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าทราบสถานการณ์แล้ว โดยทางเอกชนเจ้าของที่มองว่าตัวเองมีสิทธิในที่ดิน อย่างไรก็ตามทางกรมที่ดินกำลังทำการเพิกถอนอยู่ หากเพิกถอนแล้ว สิ่งปลูกสร้างต่างๆต้องรื้อทั้งหมด นอกจากนี้ได้สั่งการไปยังผู้การจังหวัดสตูลแล้ว ว่าการก่อสร้างได้มีการขออนุญาตหรือไม่ หากไม่ขออนุญาตก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีด้วย เช่นเดียวกับนายก อบต.หากปล่อยให้มีการก่อสร้างในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ต้องถูกดำเนินการตามมาตรา 157
“ตอนนี้กรมที่ดินกำลังประชุมกันอยู่ คาดว่าจะมีการเพิกถอนทั้งหมด ผมจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบอีก แต่ตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการร่วมกับกรมที่ดินและปลัดกระทรวงมหาดไทย หากเพิกถอนหมดก็ต้องเซ็ตซีโร กันใหม่ ตอนนี้เราทำเรื่องเอกสารอยู่ ขอให้ใจเย็นๆ การเพิกถอนน่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน 1-2 เดือนก็จบ เมื่อเซ็ตซีโรแล้ว รัฐจะเข้าไปจัดสรรให้ประชาชนเข้าไปทำกิน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! ศาลปกครอง ร่อนเอกสารชี้แจงปม 'บิ๊กโจ๊ก' ยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ
ศาลปกครอง เผยแพร่เอกสารชี้แจง กรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการไว้ก่อน นั้น
กูรูใหญ่ปูดข่าว 'บิ๊กโจ๊ก' ให้การ ปปช. ยืนยันชั้น 14 'ป่วยทิพย์'
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
ลุ้นองค์คณะฯอ่านคำพิพากษา ดับฝัน 'โจ๊ก-แมว9ชีวิต' กลับตร.
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" - พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อตรวจสอบความชอบธรรมของคำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งคดีนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทางปกครองในระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผบ.ตร. ไม่ขอก้าวล่วง ศาลปกครองสูงสุด ชี้ขาด 'บิ๊กโจ๊ก' ขอคุ้มครองชั่วคราว
พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องคุ้มครองชั่วคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ว่า ตนขอให้ความเห็นแบบกว้าง ๆ
ศาลปกครองสูงสุด ปิดเงียบผลชี้ขาดคดีบิ๊กโจ๊ก สั่งเก็บหลักฐานฟันสื่อละเมิดอำนาจศาล
นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
จบแล้วบิ๊กโจ๊ก! สะพัด ศาลปกครองสูงสุด ชี้คำสั่ง 'ให้ออกจากราชการ' ชอบด้วยกฎหมาย
ที่ศาลปกครองกลาง ถ.เเจ้งวัฒนะ มีการประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานการประชุม