'ทิพานัน' โชว์ผลงาน 'บิ๊กตู่' วางรากฐานเศรษฐกิจยั่งยืนให้คนเมืองเหนือ

'ทิพานัน' โชว์ผลงาน 'พล.อ.ประยุทธ์' บอกปี 2568 เชียงรายจะมีศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภาคเหนือแบบครบวงจร หลังรัฐบาลอนุมัติโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ

09 ก.พ.2566 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายเร่งขับเคลื่อนพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ภายในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอาเซียน โดยได้ผลักดันโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย เพื่อเป็นสถานีปรับเปลี่ยนการขนส่งระหว่างประเทศไปสู่ภายในประเทศ รวมถึงเชื่อมต่อระบบการขนส่งจากถนนไปสู่ทางรถไฟ โดยเป็นศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ที่สามารถดำเนินพิธีการที่เกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกได้ในจุดเดียว โดยตั้งอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (ข้ามแม่น้ำโขง) แห่งที่ 4 ประชิดด่านพรมแดนเชียงของ จังหวัดเชียงรายฝั่งเหนือเนื้อที่รวมประมาณ 335 ไร่

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โครงการนี้แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ จากปี 2561 ได้เปิดตัวโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของจังหวัดเชียงราย ระยะที่ 1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ม.ค.2561 และได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วตั้งแต่เดือน ธ.ค.2563 และเปิดให้เอกชนเข้ามาเช่าพื้นที่ เพื่อเก็บสินค้าแล้วตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 ต่อมาคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2564 ได้อนุมัติหลักการโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย โดยให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐเป็นผู้ลงทุนค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่เอกชนเป็นผู้ลงทุนค่าอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้า อุปกรณ์สำนักงานและส่วนประกอบและงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์และเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) ทั้งหมด รวมทั้งเป็นผู้รับความเสี่ยงทางต้านรายได้และจ่ายค่าสัมปทานให้ภาครัฐตลอดระยะเวลา 15 ปี นับจากปีเปิดให้บริการ

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า สำหรับระยะที่ 2 นี้ ได้รับจัดสรรงบประมาณในปี 2566 จำนวน 690 ล้านบาท จะเริ่มดำเนินงานในปีงบประมาณ 2566 โดยจะเป็นการพัฒนาพื้นที่ลานที่เก็บตู้คอนเทนเนอร์ทั้งตู้เปล่า และตู้ที่บรรจุสินค้าแล้ว (Container Yard) สำหรับการวางตู้คอนเทนเนอร์ รวมทั้งเป็นพื้นที่การก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าระหว่างประเทศ ประกอบด้วย อาคารคลังสินค้าขาเข้า-ออก อาคาร CFS หลังที่ 2 อาคารสำนักงานฝ่ายปฏิบัติการ ลานกองตู้คอนเทนเนอร์ โรงอาหารส่วนปฏิบัติงาน อาคารซ่อมบำรุงเครื่องจักรกล อาคารเอกซเรย์และอาคาร CCA ซึ่งเป็นการก่อสร้างขยายในส่วนพื้นที่ปฏิบัติงาน เช่น อาคารเปลี่ยนถ่ายและบรรจุสินค้า และลานกองเก็บตู้สินค้า เป็นต้น รองรับรองรับการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศบนเส้นทางสาย R3A เชื่อมต่อการขนส่งระหว่างไทย-สปป.ลาว-จีนฝั่งตะวันตก (นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน) และสอดคล้องกับการเปิดบริการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่งเป็นศูนย์ที่ครบวงจรในการขนส่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568

“ถือเป็นอีกหนึ่งผลงาน ที่มีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศไว้ ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญ เร่งรัดและติดตามความคืบหน้าโครงการ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยโครงการนี้หากแล้วเสร็จ จะเป็นศูนย์กลางทางด้านโลจิสติกส์ของภาคเหนือแบบครบวงจรช่วยลดต้นทุนการขนส่ง และโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน เพิ่มรายได้ประชาชน ในพื้นที่จ.เชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง ต่อยอดธุรกิจภายในและระหว่างประเทศ รวมทั้งส่งผลถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ”รองโฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์' ยัน รทสช.หนุนแคนดิเดตจากเพื่อไทยแต่ต้องไม่มีเรื่อง 112

'รทสช.' ยันจุดยืนหนุนแคนดิเดตเพื่อไทยเป็นนายกฯต่อ แต่ต้องไม่แก้ ม.112 ยังไม่เคาะชื่อ 'ชัยเกษม นิติสิริ' หลังถามเรื่องสุขภาพ ลั่นไม่มีข้อตกลงบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้านนโยบายเงินหมื่นรอ 'พท.' ชี้แจง

รัฐบาลชวนเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ 16-25 ส.ค.นี้

รัฐบาลเชิญชวนเที่ยวงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2567 ภายใต้แนวคิด 'Future Science Community for All' ระหว่างวันที่ 16 - 25 ส.ค. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

อึ้ง! ยอดแจ้งความออนไลน์เสียหาย 111 ล้านบาทต่อวัน

'คารม' เผย สถิติแจ้งความออนไลน์ 1 – 31 กรกฎาคม 67 มูลค่าความเสียหายรวม 3,471,379,963 บาท เฉลี่ย 111,979,999 บาทต่อวัน ยอดขออายัด 13,538,325,287 บาท อายัดได้ 1,491,864,525 บาท

รัฐบาลแนะประชาชนหมั่นดูแลตัวเองหวั่นสารพัดโรคช่วงน้ำท่วม!

รัฐบาลห่วงประชาชน เกิดโรคที่มากับน้ำท่วมในพื้นที่อุทกภัย แนะหากมีอาการเจ็บป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที หรือขอคำแนะนำได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422