หนุ่มบุรีรัมย์เครียด ถูกหลอกไปต่างประเทศ สูญเงินแสน แถมระแวงเมีย อุ้มลูก 3 ขวบ ขึ้นเก๋งหนี

หนุ่มวัย 35 ชาวบุรีรัมย์ ถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศสูญเงินเป็นแสนบาท แต่ไม่ได้ไป เครียดจัด แถมระแวงเมียคุยเฟซกับคนอื่น อุ้มลูกชาย 3 ขวบ ขึ้นรถเก๋งขับหายไปไม่ทราบชะตากรรม ภรรยาโร่แจ้ง ตร.ช่วยตามหาหวั่นสติหลุดทำอันตรายลูก

3 ก.พ.2566 - เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.วาสนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสุวรรณ ให้ช่วยเหลือ หลังจากนายอรรถพล หรือต้อม อายุ 35 ปี สามี ได้อุ้ม ด.ช.อาร์ก้อน ลูกชาย วัย 3 ขวบ ขึ้นรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า สีบอร์นเทา หมายเลขทะเบียน กธ-1366 บุรีรัมย์ ขับหนีหายไปในอาการเครียดสติหลุดเกรงจะประสบอุบัติเหตุ หรือทำอันตรายลูกชายของตัวเอง ส่วนโทรศัพท์มือถือก็ติดต่อไม่ได้ ต่อมามีคนแจ้งว่าพบโทรศัพท์มือถือถูกทิ้งไว้ข้างทางในพื้นที่อำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์

จากการสอบถามนางจรัส อายุ 60 ปี แม่ของนายอรรถพล และเป็นยายของนายอาร์ก้อน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายกับลูกสาวได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.โนนสุวรรณ กรณีที่ทั้งคู่ถูกหลอกจะพาไปทำงานต่างประเทศ โดยจ่ายเงินไปแล้ว 100,000 บาท แต่ไม่ได้เดินทางไปทำงานจริง จึงไปแจ้งความเพื่อเอาผิดกับคนที่หลอก โดยได้พาลูกชายวัย 3 ขวบไปที่โรงพักด้วย ส่วนตนอยู่ที่บ้าน กระทั่งช่วง 4 โมงเย็น ลูกสะใภ้โทรศัพท์มาบอกว่า นายอรรถพล ได้ขับรถเก๋งพาลูกหายออกไปจากโรงพักในสภาพที่เครียดจัด โดยไม่มีใครรู้ว่าจะพาลูกไปไหน ตนก็ตกใจก็ได้ให้ญาติช่วยกันออกตามหาและโทรศัพท์ไปเพื่อพูดคุยกับลูกชายแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ด้วยความเป็นห่วงจึงขอให้ตำรวจช่วยติดตามและสกัดรถของลูกชายเอาไว้ ก็เป็นห่วงทั้งลูกชายและหลาน คาดว่าที่ลูกชายทำแบบนั้นเพราะเครียดที่ถูกหลอกสูญเสียเงิน ประกอบกับดื่มเหล้าหนักด้วย ตอนนี้ก็ภาวนาขอให้ทั้งคู่ปลอดภัย

ด้าน น.ส.วาสนา ภรรยา บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยไปทำงานที่ไต้หวันด้วยกัน แต่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านสักพักแล้ว ก็มีคนมาติดต่อจะพาไปทำงานที่แคนาดา โดยเรียกเงินคนละ 5 หมื่น รวม 2 คน 100,000 บาท ได้จ่ายเงินไปแล้วแต่กลับไม่ได้เดินทางไปทำงานจริง ตนกับสามีจึงได้พากันมาแจ้งความ เพราะอยากได้เงินคืน แต่หากไม่คืนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ขณะที่ ตร.กำลังสอบปากคำตนเองอยู่ สามีก็ดูท่าทีผิดปกติมีอาการรนรานก่อนจะอุ้มลูกชายขึ้นรถเก๋งแล้วขับออกไปจากโรงพักโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน มือถือก็ติดต่อไม่ได้เป็นห่วงลูกชายมาก เพราะสามีเหมือนสติหลุดเพราะเครียดที่ถูกหลอก ทั้งยังเหมือนมีอาการหลอนระแวงว่าตนเองคุยเฟสกับคนอื่น ทั้งที่ตนไม่ได้คุยแต่เขาคิดไปเอง และเมื่อ 3 – 4 วันก่อน สามีก็ดื่มเหล้าหนักด้วย ตอนนี้เป็นห่วงลูกชายมาหากใครพบเห็นให้ช่วยแจ้งด้วย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสานไปยังตำรวจท้องที่ใกล้เคียง ให้ช่วยสกัดรถเก๋งของนายอรรถพล ไว้ก่อนตามที่ญาติแจ้งขอความช่วยเหลือ แต่ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่พบรถเก๋งคันดังกล่าว