ตะครุบคาริมโขง กรรมกรก่อสร้างขนไอซ์กว่า 21 กก. รับจ้างแค่ 5 พันบาท ใช้หนี้ค่าเหล้า+เติมน้ำมันเหลือ 800 บาท มูลค่าของกลางกว่า 10 ล้าน
30 ม.ค.2566 - เวลา 10.00 น. ณ กองร้อยทหารราบ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี วัดกันตะศิราวาส บ้านสองคอน ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ.อ.วรวุฒิ สำราญ ผู้บังคับการ กองบังคับควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.กองพิสูจน์หลักฐานนครพนม พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม น.อ.กริช กองศรี หัวหน้าสถานีเรือ นรข.ธาตุพนม นายทหารยุทธการและการข่าว พ.ต.ท.เกษมสันต์ ราชโสภา สารวัตร สถานีตำรวจ 2 อ.ธาตุพนม กองกำกับการ 10 กองบังคับการตำรวจน้ำ พ.ต.ต.พัฒนา เสาวกุล ผบ.ร้อย ตชด.235 ร.อ.ธนโชติ ณ นคร ผู้บังคับกองร้อยทหารราบ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี รวมถึงเจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่ปกครอง อ.ธาตุพนม แถลงการณ์จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ
โดยจับกุม นายสมพิศ บำรุงวงค์ อายุ 55 ปี อาชีพกรรมกรก่อสร้าง ชาว อ.เมืองมุกดาหาร ยึดของกลางยาไอซ์ จำนวน 21 ห่อ น้ำหนัก ประมาณห่อละ 1 กิโลกรัม ตรวจสอบเป็นยาไอซ์แพคเกจใหม่ ที่บรรจุในห่อชาจีนชื่อดัง เป็นภาษาจีน และภาษาอังกฤษชื่อ กวานยินหวาง ส่วนแพจเกจเป็นลักษณะห่อด้วยถุงพลาสติกสีทอง มีตราสัญลักษณ์ดาวแดงห้าแฉก 5 ดวง พร้อมตัวเลข 888 ภายในถุงชาจีนพบยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกใส เชื่อว่าเป็นแพคเกจใหม่ ที่บรรจุออกมาเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และเลี่ยงการจับกุมสะดวกในการขนส่ง
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดรถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ แค็ป สีเทา ทะเบียน 820 มุกดาหาร ที่ใช้สำหรับลำเลียงจากริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตพื้นที่ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อนำไปส่งขายพื้นที่จังหวัดตอนในของไทย ส่วนมูลค่าของกลางจากข้อมูลของ ปปส. มีราคาซื้อขายตามแนวชายแดนตกประมาณกิโลกรัม 2.5-3 แสนบาท หากส่งขายในพื้นที่ตอนในของไทย จะมีราคาเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 5 บาทขึ้นไป คิดมูลค่าเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 11 ล้านบาท
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ร.อ.ธนโชติ ณ นคร ผู้บังคับกองร้อยทหารราบ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ประสานงานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ลงพื้นที่ตรวจสอบสกัดกั้นปราบปรามจับกุม การลักลอบขนส่งยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ เพื่อนำส่งต่อไปขายตอนในของไทย จนกระทั่งสามารถสกัดจับกุม ผู้ต้องหาได้ขณะไปรอรับยาไอซ์ของกลางดังกล่าว บริเวณริมฝั่งน้ำโขงบ้านนาคำ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
ก่อนถูกจับกุมในวันที่ 28 มกราคม 2566 ตามการข่าวภาคประชาชน แจ้งข้อมูลว่าขบวนการค้ายาเสพติดเตรียมลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้าน พิกัดระหว่าง อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร กับรอยต่อ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม จึงประสานหน่วยความมั่นคงวางจุดซุ่มเฝ้าระวังตามพิกัดที่แหล่งข่าวแจ้งไว้ กระทั่งเวลาพลบค่ำพบเรือประมงหาปลาพายมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เทียบท่ายังริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านนาคำ ต.น้ำก่ำ พบชายในเรือจำนวน 2 คน แบกกล่องกระดาษมาวางไว้ที่ริมฝั่ง จากนั้นก็รีบเบนหัวเรือกลับไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
ต่อมามีรถยนต์กระบะขับเข้ามายังจุดดังกล่าว แล้วถอยหลังรถเปิดฝาท้าย เดินลงไปยกกล่องกระดาษขึ้นมาวางที่ท้ายรถ ชุดปฏิบัติการจึงจู่โจมเข้าจับกุมตัว ซึ่งคนร้ายพยามยามขัดขืน แต่ถูกชุดเฝ้าซุ่มอีกชุดดักตะครุบตัวไว้ได้ ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนขยายผลที่กองร้อยทหารราบ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ นายสมพิศผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุน จำนวน 5,000 บาท เพื่อขนส่งยาไอซ์จากริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ลักลอบมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปพักในพื้นที่ จ.มุกดาหาร โดยอ้างทำไปเพราะตกงาน ไม่มีรายได้ และหย่าร้างกับภรรยามานานกว่า 20 ปี อดีตเคยมีอาชีพขับรถบรรทุก ภายหลังหันมารับจ้างทั่วไป การรับจ้างครั้งนี้หวังนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายไปหางานทำที่ กทม. รู้ว่าผิดกฎหมายแต่ยอมเสี่ยงถูกจับกุม โดยนายทุนจ่ายเงินให้ก่อน 2 พันบาท นำไปจ่ายค่าเหล้า 700 บาท และเติมน้ำมันใส่รถอีก 500 บาท จึงเหลือเงินอยู่ในกระเป๋าเพียง 800 บาทเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ในช่วงนี้จากการข่าวของหน่วยงานความมั่นคง พบว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีการเปลี่ยนเส้นทางจากทางชายแดนภาคเหนือ เนื่องจากมีการสกัดจับกุมบ่อยครั้ง ทำให้มีการเปลี่ยนเส้นทางเลี่ยงเข้ามาในพื้นที่อีสาน รวมถึง จ.นครพนม โดยมีชายแดนติดกับแม่น้ำโขง จึงเป็นอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ในช่วงงานบุญประเพณีสำคัญ เชื่อว่าจะมีการฉวยโอกาส ลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น จึงต้องมีการบูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคง เพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปรามจับกุมให้ได้มากที่สุด
สำหรับยาเสพติด(ไอซ์)ของกลาง ที่ตรวจยึดครั้งนี้ ภายหลังมีการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน ทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าเป็นสารเสพติดประเภท 1 ชนิดเดียวกันกับยาบ้า เชื่อว่านำไปเสพออกฤทธิ์กดประสาทลักษณะเดียวกันกับยาบ้า แต่จะมีฤทธิ์รุนแรงกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระอุ! เลือกตั้ง นายก อบจ.นครพนม ‘พท.’ ขนทัพหน้าช่วยผู้สมัคร สู้ลูกสาวครูแก้วแชมป์เก่า
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนคพนมรายงานความคืบหน้าการเลือกตั้ง นายก อบจ.นครพนมว่า ยังไม่ทันถึงวันจับสลากได้เบอร์ เพื่อใช้ในการหาเสียงนายก อบจ.นครพนม
อลังการ! อุโมงค์ไฟดาวล้านดวง ชมแสงหลากสีระยิบระยับริมโขงรับลมหนาว
ลานกินลมชมวิว ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นางสงวน มะเสนา รอง ผวจ.นครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศบาลเมืองนครพนม นางสางนงนุช สีทาน้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม
'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว
ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
จนท.ตรึงกำลัง ล่ามือยิงประธานสภา อบต. คนร้ายมีปืนอาก้า ระเบิดมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนจาน บ้านต้าย หมู่ 7 (ส.อบต.ฯ ม.7) ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์