ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดมาตรา 157 นายกอบต.เขาไม้แก้ว จ.ตรัง ออกหนังสืออนุญาตให้บริษัทฯ สร้างถนนบุกรุกป่าชายเลน กว่า 13 ไร่ ส่งผลให้รัฐเสียหายนับ 1.5 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯและพวกรวม 4 ราย ไม่มีมูลความผิดถูก ป.ป.ช. ตีตก เตรียมส่งสำนวนไต่สวนให้ผู้ว่าฯ แต่งตั้งถอดถอนออกจากตำแหน่ง ภายใน 30 วัน และดำเนินการทางแพ่งชดใช้ค่าเสียหายต่อไป
9 ม.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง นายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ชำนาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้มูลความผิด นายพีรพนธ์ ลังเมือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง สืบเนื่องจาก สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรังได้รับเรื่องจากพนักงานสอบสวน กรณี นายพีรพนธ์ ออกหนังสืออนุญาต ให้แก่ บริษัท ปัญจะพัฒนาวิศวกรรมและพาณิชย์การ จำกัด เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าได้อนุญาตให้ใช้ที่ดินเขตถนนสายช่องราโพธิ์ – ทุ่งขี้เหล็ก - ถนนต้นม่วง เพื่อก่อสร้างถนนหรือปรับปรุงถนน โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ทำการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวง ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามที่กล่าวหา และได้การประชุม ครั้งที่ 104/2565 พิจารณาแล้ว มีมติว่าการที่นายพีรพนธ์ ลังเมือง ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ออกหนังสืออนุญาตให้บริษัท ปัญจะพัฒนาวิศวกรรมและพาณิชย์การ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ใช้ที่ดินเขตถนนสายช่องราโพธิ์ - ทุ่งขี้เหล็ก - ถนนต้นม่วง ระยะทาง 1,130 เมตร ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกะลาเส ป่าคลองไม้ตาย และอยู่ในพื้นที่จำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน เป็นการขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี ที่ให้ระงับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนโดยเด็ดขาดและห้ามมิให้อนุญาตการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนในทุกกรณี และการก่อสร้างและปรับปรุงถนนสายช่องราโพธิ์ - ทุ่งขี้เหล็ก – ถนนต้นม่วง ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของบริษัท ปัญจะพัฒนาวิศวกรรมและพาณิชย์การ จำกัด ในการใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อขนดินไปถมบ่อกุ้ง บริเวณท่าเรือต้นม่วง หมู่ที่ 6 การอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ใช้ที่ดินดังกล่าว จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเหตุให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับความเสียหาย เนื่องจากป่าชายเลนถูกบุกรุก เนื้อที่ 13 - 0 - 17.5 ไร่ มูลค่า 1,543,466.94 บาท
การกระทำของนายพีรพนธ์ ลังเมือง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จึงมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ส่วนบริษัท ปัญจะพัฒนาวิศวกรรมและพาณิชย์การ จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางโสภา กาญจนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นางสาวกานสินี โอภาสรังสรรค์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 และนางไพจิตร สิทธิสุวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี กับนายพีรพนธ์ ลังเมือง ส่งสำนวนการไต่สวน และเอกสารหลักฐานพร้อมความเห็น ไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้ง ถอดถอนเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับ นายพีรพนธ์ ลังเมือง ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณีต่อไป โดยให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน นายพีรพนธ์ ลังเมือง พิจารณาโทษ ตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีก หากผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนหรือผู้ใดไม่ดำเนินการตามมาตรา 98 โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนจงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อกฎหมายหรือกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงตาม มาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ประกอบกับเพื่อให้สอดคล้องกับหนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นที่ มท 0804.3/ว 711 ลงวันที่ 7 เมษายน 2564 และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทราบด้วย
ทั้งนี้ ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางละเมิด และให้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการทางแพ่งตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ต่อไป อย่างไรก็ตาม การไต่สวนคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
‘หมอวรงค์‘ ให้กำลังใจ ‘แพทยสภา’ ลุยสอบจริยธรรมแพทย์ช่วยนักโทษชั้น 14
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ให้กำลังใจแพทยสภา
'ชัยชนะ' ลั่นทักษิณไม่ผิด แต่เป็นผู้ได้รับผลของการกระทำนำตัวไปรักษาชั้น 14
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราชและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
พวกเรารอพวกท่านอยู่! หวด ‘กกต.-ปปช.’ เร่งทำงานเพื่อประเทศชาติให้เต็มที่
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กดังนี้
'โรม' ชี้ ป.ป.ช. ทำคดีจนท.รัฐ เอื้อ 'ทักษิณ' นอนชั้น 14 หลักฐานเยอะไม่ต้องใช้เวลานาน
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)รับพิจารณาคดีเจ้าที่รัฐเอื้อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ