นายทุนอิทธิพลลุยตัดไม้สักทอง อายุนับร้อยปี ใหญ่ขนาด 3 คนโอบ ยาวกว่า 40 เมตร จำนวน 11 ต้น ห่างถนนสาย 323 แค่ 200 เมตร ชาวบ้านเห็นสุดสะเทือนใจแจ้งเจ้าหน้าที่ นายอำเภอพร้อมป่าไม้ อุทยานฯ บุกยึดคาตอ 9 ต้น ส่วนขบวนการมอดไม้ขับรถ18ล้อ บรรทุกไม้ 2 ต้น หลบหนีไปก่อน
26 ธ.ค.2565 - เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หน.หน่วยป้องกัน และพัฒนาป่าไม้ไทรโยค กจ.1 นายสุพล คำเสนาะ หน.อุทยานฯไทรโยค นายกิตติ แสงหล่อ หน.สายตรวจอุทยานฯ พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ป่าสักทอง ตรงข้ามร.พ.พระปิยมหาราชรมณียเขต ม.7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีผู้มีอิทธิพลเข้ามาตัดโค่นต้นสักทอง ขนาดใหญ่อายุนับร้อยปี และใช้รถเครนยกไม้ท่อนขึ้นรถบรรทุก18ล้อ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
กำลังเจ้าหน้าที่ เดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับรพ.พระปิยมหาราชรมณียเขต ห่างจากถนนสาย323กาญจนบุรี-สังขละบุรี 200 เมตร พบบ้านก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว มีรั้วเหล็กด้านหน้า แต่ไม่พบผู้ใด ด้านข้างบ้านและหลังบ้าน พบว่าเป็นดงต้นสักทองขนาดใหญ่ ถูกตัดโค่นลงมาคาตอ กองกับพื้นกระจายทั่วจำนวน 9 ต้น และพบตอต้นสักทองขนาดใหญ่ 2 ตอ ที่ถูกกลุ่มขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ตัดโค่นและนำออกไปได้2ต้น
เจ้าหน้าที่กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ บริเวณพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดงไม้สักทองขนาดใหญ่ ห่างจากเขตอุทยานฯไทรโยค 50 เมตร และอยู่ในเขตราชพัสดุแปลงใหญ่ ตามพรฎ.2481 ในพื้นที่ป่าดังกล่าว เต็มไปด้วยต้นสักทองขนาดใหญ่ ละลานตา แต่ถูกขบวนการมอดไม้ตัดโค่นกระจายเกลื่อน เห็นแล้วเป็นที่น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง พบว่าไม้สักที่ถูกตัดโค่น กิ่งใบยังเต็มต้นทั้ง9ต้น ทั้งพบร่องรอยกวาดใบไม้ออกจากโคนต้น เป็นวงกลมเพื่อเตรียมตัดโค่น รวมทั้งยังพบร่องรอยมอดไม้ใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ตัดโค่นต้นสักทองไปได้เพียงครึ่งต้น ทั่วบริเวณมีแต่กองขี้เลื่อยกระจายไปทั่ว บริเวณรอบที่เกิดเหตุไม่พบผู้ใด พบร่องรอยรถเครนและรถบรรทุกขนาดใหญ่ เชื่อว่ากลุ่มผู้กระทำผิดใช้รถเครนยกไม้ท่อนขึ้นรถบรรทุก18ล้อ นำไม้ออกจากป่า หลบหนีไปได้หวุดหวิด ก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่จะไปถึง
จากการตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดงไม้สักทองขนาดใหญ่ ห่างจากเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค เพียง 50 เมตร และอยู่ในเขตราชพัสดุแปลงใหญ่ ตาม พ.ร.ฎ.2481 ในพื้นที่ป่าดังกล่าว เต็มไปด้วยต้นสักทองขนาดใหญ่ ปลูกเรียงรายจำนวนมากแต่ถูกขบวนการนายทุนตัดโค่น ยังพบว่าต้นไม้สักที่ถูกตัดโค่นมีกิ่งใบเต็มต้นทั้ง 9 ต้น ยังพบร่องรอยกวาดใบไม้ออกเป็นวงรอบโคนต้นเตรียมตัดโค่น รวมทั้งยังพบร่องรอยขี้เลื่อยจากการใช้เลื่อยโซ่ยนต์กระจายไปทั้ว ต้นสักทองบางต้นถูกตัดแต่ยังไม่ล้มโค่น ไม่พบผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน หรือผู้กระทำผิด มีแต่ร่องรอยล้อรถบรรทุกที่วิ่งออกไปก่อนที่กำลังเจ้าหน้าที่จะไปถึง
เบื้องต้น 1.พิกัดที่เกิดเหตุ 485648 E 1586496 N (2.ที่ดิน ภบท.5 ในพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 (กำลังตรวจสอบละเอียดว่าอยู่ในพื้นที่ตามพระราชกฤษฎีกา 2481 หรือไม่ (3.พบไม้สักถูกตัดฟัน 11 ต้น 4.ไม่พบตัวผู้ลักลอบตัดฟันต้นไม้ในที่เกิดเหตุ โดยไม้สักทองแปลงนี้คาดว่ามีการปลูกไว้ก่อน พ.ศ.2497 มีขนาดใหญ่2-3 คนโอบ อายุเกือบร้อยปี ทำให้นายทุนกลุ่มขบวนการตัดไม้ค้าไม้สัก ลักลอบตัดโค่นไม้สักทอง ที่มีราคาสูงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยไม้ทั้งหมดที่ถูกตัดโค่น มีมูลค่ากว่าหนึ่งล้านบาท
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมด พร้อมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โลกร้อน-โลกเดือด'! กระทบ 'พะยูน' เข้าใกล้จุดสูญพันธุ์
เป็นที่รับรู้กันมานานแล้วว่า พะยูนเป็นสัตว์ทะเลหายาก มีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ แต่สถานการณ์ปัจจุบันยิ่งทำให้พะยูน ก้าวข้าม
อำเภอเดียว เจอ 2 ศพในเวลาไล่เลี่ยกัน รายแรกดับปริศนา อีกรายใช้ปืนยิงตัวตาย
พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ บัวโพธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุมีคนพบศพผู้เสียชีวิต
ร้องเรียน 4 ปียังไม่แก้ไข! ผู้ประกอบการดูดทรายแม่น้ำหลังบ้าน ดินทรุดเสี่ยงบ้านถล่ม
ชาวบ้านตำบลกลอนโด เดือดร้อนหนัก ผู้ประกอบการท่าทราย นำเรือดูดทรายเข้ามาดูดทรายจากแม่น้ำด้านหลังบ้านจนเกิดดินทรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเต็มพื้นที่ ล่าสุด ลามถึงเสาหลังบ้าน เสี่ยงบ้านถล่ม ร้องไปหลายหน่วยงานนานกว่า 4 ปี แต่ยังไร้การแก้ไข