รวมพลังค้านโครงการโขงเลยชีมูน เสนอมาตรการเร่งด่วน 4 ข้อ

3 ธ.ค.2565 - ที่ศูนย์อบรมอาชีพชนบทจังหวัดหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย ได้มีการจัดงานเวทีประชุมเครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำโขงอีสานเป็นวันที่สอง ซึ่งทางเครือข่ายภาคประชาชนได้มีการเชิญตัวแทนจากภาครัฐคือสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน รองเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน ตัวแทนพรรคการเมือง อาทิ พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย เจ้าหน้าที่Pact Thailand และผู้แทนสถานทูตสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย เข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ ได้นำเสนอปัญหาของแม่น้ำโขงภาคเหนือตอนบนที่ประสบกับผลกระทบทางความมั่นคงของอาหารโดยระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันล้วนมาจากการสร้างเขื่อน ถึง 12 เขื่อนตอนบนประเทศจีน อีกทั้งยังมีอีก 11 เขื่อนที่รอสร้างในอนาคตซึ่งอยู่ในส่วนของแม่น้ำโขงตอนล่างในภาคอีสานยาวจนถึงกัมพูชา ปัญหาจากการสร้างโครงการเขื่อนใหญ่ ๆ นี้มันก่อให้เกิดปลาหายไป ระบบนิเวศน์พัง ยิ่งมีข่าวจะสร้างเขื่อนปากแบงจะทำให้เกิดน้ำท่วมและเกาะแก่งจมหายกระทบต่อพรมแดนร่องน้ำลึกระหว่างประเทศ และตนเองได้มีข้อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการแก้ระเบียบกฎหมายสิ่งแวดล้อมปี 2535 เพราะมีความล้าสมัย อีกทั้งกระบวนการ PNPCA ที่ยังเป็นปัญหาจากการไม่พยายามหยุดยั้งโครงการเขื่อน หรือแม้กระทั่งต้องแก้ไขและทบทวนวิธีการทำของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง

นายศิริศักดิ์ สะดวก กลุ่มลุ่มน้ำชี-มูนกล่าวว่าปัญหาเก่ายังไม่แก้ ปัญหาใหม่จะมาแล้วเพราะวิธีคิดของรัฐนั้นต่างจากคนในพื้นที่ โดยชาวบ้านมองน้ำเป็นวิถีชีวิตที่มีคุณค่าต้องรักษา แต่รัฐมองน้ำเป็นทรัพยากรที่พยายามควบคุมและจัดการทั้งภาคกฎหมาย ระบบนิเวศน์ในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกันต้องดูแลแตกต่างกัน เพราะเขื่อนทำให้น้ำท่วมตอนนี้ไม่ได้มุ่งสู่การพัฒนา แต่นำมาซึ่งปัญหา

"การที่ภาคประชาชนเรียกร้องสิทธิ์เนื่องจากการที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจจัดการบริหารทรัพยากรน้ำร่วมกับภาครัฐ จึงมีข้อเสนออยากให้รัฐศึกษาความเหมาะสมปัญหาในแต่ละท้องที่ เคารพสิทธิ์ในการจัดการน้ำของชุมชน และหยุดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาเดิมให้เรียบร้อยเสียก่อน”นายศิริศักดิ์ กล่าว

นายวทัญญู ทิพยมณฑา รองผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า รู้สึกกังวลต่อปัญหาเรื่องการสร้างเขื่อนสานะคาม ยืนยันว่าเรื่องของชาวบ้านและเครือข่ายที่ร้องเรียนเข้ามาจะได้รับการรวบรวมข้อมูลและจะนำเสนอต่อ คณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี ในวันข้างหน้า

นางสาววชิราภรณ์ กำเนิดเพชร จากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวถึงการพยายามยื้อโครงการเขื่อนสานะคามโดยไม่รับข้อมูลเก่าของทางลาว ว่าเพราะมองเห็นถึงปัญหาผลกระทบทางพรมแดนและได้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น พี่น้องประชาชน 8 จังหวัดที่ติดแม่น้ำโขง ปัญหาเรื่องการใช้ทรัพยากรนั้นตนเองเข้าใจดี แต่การมีเขื่อนพลังงานไฟฟ้านั้นมาจากการร่วมมือของประชาชนในประเทศ หากอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของสถานการณ์ในอนาคตข้างหน้าเรื่องการสร้างเขื่อน พี่น้องประชาชนจะต้องจัดการประหยัดและใช้ทรัพยากรให้เพียงพอต่อความต้องการโดยทั่วกันทั้งหมด โดยจะต้องทำให้ประชาชนทั่วไปรับรู้และเข้าใจถึงการใช้พลังงานให้เหมาะสมและพอดีจะได้ไม่เกิดความต้องพลังงานเพิ่มมากขึ้น

นายไพโรจน์ เตชะเจริญสุจีระ จากกรมชลประทาน ได้กล่าวว่าโครงการผันน้ำโขงเลยชีมูนนั้นไม่ได้ผันเข้ามาเพียงแค่เขื่อนอุบลรัตน์เพียงอย่างเดียว แต่ผันเข้ามาเพื่อกระจายให้แก่เขื่อนและแหล่งน้ำอื่น ๆ อีกด้วย กรมชลประทานดำเนินการตามแผนโครงการ 20 ปี พัฒนา 8.13 ล้านไร่มีการจัดเวทีรับฟังความเห็นอย่างจากทั้งโครงการขนาดกลางและใหญ่

หลังการประชุมเครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำโขงได้ไปรวมตัวกันใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว เพื่ออ่านแถลงการณ์ และส่งตัวแทนประมาณ 10 คน ขึ้นไปบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว และปล่อยแผ่นผ้าที่มีข้อความว่า “เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำโขง ไม่เอาโครงการผันน้ำโขง เลย ชี มูน” เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านโครงการผันน้ำโขง เลย ชี มูน โดยตัวแทนอ่านแถลงการณ์

แถลงการณ์ระบุว่า โครงการผันน้ำ โขง เลย ชี มูน เป็นโครงการบริหารจัดการน้ำขนาดใหญ่ของรัฐบาลไทยเมื่อ 30 ปีก่อน ที่พยายามนำเสนอภาพฝันของการขจัดปัญหาความแห้งแล้งในภาคอีสานแบบถาวร โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความ แห้งแล้งในพื้นที่สำคัญอย่างลุ่มน้ำชี-ลุ่มน้ำมูน แต่เวลาที่ล่วงเลยมาถึงปัจจุบันโครงการทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบนักวิชาการและประชาชนทั่วไป วิพากษ์วิจารณ์กันอย่าง กว้างขวาง ถึงปัญหาการบริหารจัดการน้ำที่ล้มเหลวของรัฐและความไม่คุ้มค่ากับการลงทุนในหลากหลาย มิติ

แถลงการณ์ระบุว่า จากวันนั้นจวบจนวันนี้โครงการ โขง ชี มูน เดินทางมานานกว่า 30 ปี และหลายลุ่มน้ำ ในภาคอีสาน ภาพฝันกับความจริงกลับไม่เป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจกล่าวอ้างไว้ เพราะการรวมศูนย์อำนาจ การจัดการน้ำ และอำนาจการตัดสินใจทางนโยบายถูกกำหนดอยู่ภายใต้ผู้มีอำนาจที่ไม่ได้เข้าใจภูมินิเวศ ประชาชนไม่มีส่วนร่วม

แถลงการณ์ระบุข้อเสนอเร่งด่วนคือ 1) ยกเลิก นโยบาย โครงการพัฒนา “เก่า” และ “ใหม่” 2) ทบทวนบทเรียนโครงการพัฒนา “เก่า" ก่อนดาเนินโครงการพัฒนา “ใหม่” 3) การเยียวยาและฟื้นฟูเชิง นิเวศ สังคม และเศรษฐกิจ 4) การประเมินศักยภาพเชิงพื้นที่เพื่อเปิดพื้นที่การถกเถียงร่วมกัน

แถลงการยังระบุถึงข้อเสนอเชิงนโยบายว่า 1) พัฒนากฎหมายการมีส่วนร่วม 2) ทบทวนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำ และนโยบายการพัฒนาพลังงาน 3) การแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎหมายน้ำให้ครอบคลุมประเด็นปัญหาข้ามพรมแดน 4) การกระจายอำนาจการจัดการทรัพยากรให้ท้องถิ่น/ชุมชน 5) การส่งเสริมการพัฒนานโยบายการจัดการน้ำขนาดเล็กโดยท้องชุมชน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการแนะทางแก้ 'ปลาหมอคางดำ' เชื่อแพร่พันธุ์ภาคอีสานยาก

ผศ.ดร.พรเทพ เนียมพิทักษ์ หัวหน้าสาขาวิชาประมง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้ยังคงไม่พบการแพร่พันธุ์ของปลาหมอคางดำในภาคอีสาน

ชาวบ้านริมแม่น้ำโขง 8 จังหวัด ยื่นจดหมายถึงนายกฯ หวั่นผลกระทบเขื่อนปากแบง

นายทองสุข อินทะวงศ์ อดีตผู้ใหญ่บ้านห้วยลึก อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย นายนิวัตน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ และเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ได้ส่งจดหมายถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

นายกฯ รับฟังปัญหาชลประทาน ที่ดินทำกิน อ.เชียงแสน ชาวบ้านขอผ่อนปรนคนจีนข้ามแดน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบชลประทาน เพื่อการอุปโภคบริโภค และพบปะประชาชน ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง

ยึดรายวันยาบ้าริมโขง ทหารพรานสกัดได้กว่า 2 แสนเม็ด

ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ร้อย ทพ.2101 ฉก.21 กกล.ฯ) บ้านปากห้วยม่วง ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม พ.อ.อินทราวุธ ทองคำ ผบ.กรม ทพ.21/ผบ.ฉก.ทพ.21 ร.ท.วันชาติ

เหิมเกริม! แก๊งค้ากัญชาข้ามชาติ ยกพวกกว่า 30 คน รุมทำร้าย นรข.นครพนม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สภ.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม จ่าเอกปรเมษฐ์ ปุราชะโน อายุ 27 ปี หรือต๋อง พร้อมบัดดี้คือ จ่าเอก วรพิทูร เดชาเสถียร อายุ 30 ปี หรือเชฟ ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ปุญวัตน์ สุริยกุล ณ อยุธยา สว.สอบสวน สภ.บ้านแพง