ระทึก! พบระเบิดลูกใหญ่กลางป่าชายแดนสงขลา สภาพดีเกิน 70% กั้นเป็นพื้นที่อันตราย

พบระเบิดขนาดใหญ่คาดเป็นชนิด MK82 ซึ่งเป็นระเบิดทางอากาศ สมัยสงครามคอมมิวนิสต์ เสียบปักอยู่บนเทือกเขาแก้วใน อ.สะเดา จ.สงขลา สภาพ 70 เปอร์เซ็นต์กั้นเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้ารอชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดีเข้าตรวจสอบและเก็บกู้

1 ธ.ค.2565 - ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ภายใต้การสั่งการของ พ.อ.ฐนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผบ.ร.5/ผบ.ฉก.ร.5 มอบหมายให้ ร.อ.รุจน์ เกลี้ยงช่วย หน.ฝยก และ หน.ฝขว ฉก.ร.5 ร่วมกับ ตชด.4304 ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ปาดังเบซาร์ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดาและเจ้าหน้าที่หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำคลองอู่ตะเภา ออกเดินเท้าขึ้นไปบนเทือกเขาแก้ว พื้นที่ป่าต้นน้ำผาดำ ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดนงาช้าง พื้นที่ ต.ปาดาเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อตรวจสอบวัตถุระเบิดขนาดใหญ่จำนวน 1 ลูก ซึ่งปักเสียบคาอยู่ในดินกลางป่า ส่วนหางโผล่ขึ้นมาครึ่งหนึ่ง

เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นระเบิดชนิด MK 82 ซึ่งเป็นระเบิดทางอากาศ และยังอยู่ในสภาพดีเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จึงกั้นพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นเขตอันตรายห้ามเข้าเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษในการเก็บกู้วัตถุระเบิดชนิดนี้เข้าตรวจสอบและเก็บกู้อีกครั้งเพื่อความปลอดภัย และประสานไปยังผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่แจ้งเตือนให้ประชาชนห้ามเข้าไปยังบริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย

สำหรับระเบิดลูกนี้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ลาดตระเวนไปพบจึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ โดยคาดว่าระเบิดลูกนี้น่าจะเป็นระเบิดที่ใช้ในช่วงสงครามคอมมิวนิสต์เนื่องจากบริเวณพื้นที่ป่าผาดำเคยเป็นพื้นที่การสู้รบมาก่อน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับเรือประมงเวียดนาม รุกล้ำน่านน้ำไทย ตั้ง 3 ข้อหาหนัก

พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงสัตหีบ ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยเวลา 11.15 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เรือหลวงสัตหีบ ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม

‘บิ๊กทิน’ ยันการข่าวไม่ล้มเหลว แม้บึ้มไล่หลัง ‘ผบ.ทบ.’ สั่งคุมเข้มไฟใต้

โฆษกรมว.กลาโหม เผย บิ๊กทิน สั่งติดตามไฟใต้ใกล้ชิด เชื่อการข่าวไม่ล้มเหลว แม้บึ้มไล่หลัง ผบ.ทบ. สั่งดูแลผู้บาดเต็มที่ ย้ำหน่วยงานความมั่นคง เสริมจุดบอด

คุมตัวผู้ต้องสงสัย เหตุคาร์บอมบ์หน้าแฟลตตำรวจบันนังสตา เค้นข้อมูล

ความคืบหน้าเหตุการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอมบ์) บริเวณหน้าแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา

ระเบิดไล่หลัง! 'ผบ.ทบ.' เยี่ยมทหารพราน 'บันนังสตา'

30 มิ.ย.2567 - พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมด้วย ผู้บังคับบัญชาจากกองทัพบก ยังคงตรวจเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่จังหวัดชายแดนใต้อย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ได้ไปตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 33 อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลารับฟังการบรรยายสรุปติดตามผลการปฏิบัติงาน พร้อมมอบของบำรุงขวัญเพื่อเป็นกำลังใจให้กับกำลังพล โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4และคณะให้การต้อนรับ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เสียสละ พร้อมทั้งเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานของทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ “ในทุกวันหยุดถ้าไม่ติดภารกิจอะไรผมได้บอกทีมงานของผมว่า ไปเยี่ยมลูกน้องและผู้ปฏิบัติหน้าที่กัน เพราะวันทำงานปกติก็มีภารกิจต่อเนื่องอยู่แล้ว พวกท่านที่ทำงานอยู่ในพื้นที่และในสนามก็แทบไม่มีวันหยุด เพราะฉะนั้นการที่ผมได้มาก็รู้สึกมีความสุขเพราะได้มีการ พบปะพูดคุย ให้กำลังใจ รับรู้ข้อมูลในพื้นที่ เห็นพื้นที่ปฏิบัติการ ความเป็นอยู่ เพื่อนำไป แก้ไข เติมในสิ่งที่ขาด ผมมาที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 33 เป็นหน่วยสุดท้ายพวกท่านอย่าได้น้อยใจเพราะเราเชื่อมั่นว่า ท่านปฎิบัติหน้าที่ด้วยเข้มแข็ง ประสานงานกับ ทางจังหวัด อำเภอ เจ้าหน้าที่ ตร. ทำงานได้ และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่น่ากังวล แต่ที่บอกว่าหน่วยสุดท้าย คือใกล้ทำงานครบ 1 ปีหน่วยนี้คือหน่วยสุดท้ายในพื้นที่ แต่ยังยังเหลือกองกำลังชายแดนที่ต้องไปอีก” ผู้บัญชาการทหารบก ระบุ จากนั้นผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิดใกล้ในพื้นที่ บ้านไอร์ตืองอ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้ จ่าสิบเอก เจริญ เพ็ชรภิมล กำลังพลในหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49ได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้เยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมาที่ยังคงพักรักษาตัวอีกด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบกได้เดินทางกลับ ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดโรงพักบันนังสตา โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 1 ราย.