พบวัดร้างกลางป่า มีเจดีย์ พระพุทธรูป วัตถุมงคล สถาปัตยกรรมสวยงามถูกทิ้งไว้จำนวนมาก ชาวบ้านในพื้นที่เผยไม่เคยรู้มาก่อน วอนฟื้นฟูอนุรักษ์เป็นศูนย์ศึกษาธรรม และแหล่งท่องเที่ยว เพราะมีทิวทัศน์สวยงามร่มรื่น
หลังมีชาวบ้านไปพบเห็นวัดร้างแห่งหนึ่งอยู่กลางป่าในพื้นที่ จ.ชุมพร มีพระพุทธรูป เจดีย์ กุฎิ ศาลา และวัตถุล้ำค่าเก่าแก่ ถูกทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรมมานานหลายปีอย่างน่าเสียดาย แล้วนำภาพมาโพสต์ลงสื่อโชเชี่ยล จนมีผู้คนสนใจแชร์ต่อกันจำนวนมาก
17 พ.ย.65 จากกรณีดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพิสูจน์ยังวัดร้างดังกล่าวท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร ทางเข้ามีถนนคอนกรีตตัดผ่าน อยู่ห่างจากถนนเอเชีย 41 ประมาณ 600 เมตร จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นไปยังเนินเขาอีกประมาณ 200 เมตร โดยทางขึ้นไปยังวัดร้างดังกล่าวมีป้ายขนาดใหญ่เขียนบอกว่าเป็น “เขตพื้นที่ป่าชุมชน หมู่ 1 ตำบลวิสัยเหนือ มีเนื้อที่ 93 ไร่ ห้ามมิให้ผู้ใดตัดไม้ทำลายป่า และทำสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆโดยเด็ดขาด นอกจากได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการชุมชน” ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบชาวบ้านในพื้นที่หลายคนที่เพิ่งจะรู้ว่ามีวัดร้างอยู่บริเวณดังกล่าวกำลังจะขึ้นไปดูด้วยเช่นกัน และมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ก็ได้เดินทางขึ้นไปสำรวจพร้อม ๆกันด้วย
ปากทางขึ้นไปยังวัดร้างดังกล่าวมีซุ้มประตูตกแต่งด้วยลายกนกสวยงามสูงประมาณ 4-5 เมตร ระบุชื่อ “วัดเขาเจดีย์วิสัยไตรรัตนาราม” ทางขึ้นปกคลุมด้วยไม้เถาและกิ่งไม้จนรกรุงรัง เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนเนินเขาเป็นที่ตั้งของวัดร้าง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางปฐมเทศนา ขนาดหน้าติด 2 เมตร ประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัว อยู่ใกล้กับเจดีย์ทรงระฆังฐานทรงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 4-5 เมตร ที่ประตูเจดีย์มีป้ายระบุว่า “ธรรมเจดีย์ มะ 8 พ่อหลวงแม้นโชติปาโล สร้าง พ.ศ.2517 ” ภายในเจดีย์มีช่องเก็บพระแก้วมรกตสีเขียวหยก ขนาดหน้าตัก 6 นิ้ว จำนวน 6 องค์ พระพุทธรูปสีดำ 1 องค์ และวัตถุมงคลอีกหลายรายการ มีฝุ่นตะกอนและยักใย่เกาะจับจนมองดูเก่ามีคุณค่าอย่างมาก
ส่วนด้านบนเป็นกุฎิของเจ้าอาวาส 1 หลัง สร้างด้วยปูนพื้นยกสูง และกุฎิพระลูกวัดอีก 3 หลัง สร้างด้วยไม้ยกเสาสูงทั้ง 4 หลังห่างกันประมาณ 4-5 เมตร แต่ละหลังสภาพเก่าผุพังทรุดโทรม มีสิ่งของเครื่องใช้ถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่หลายจุด และมีเก้าอี้ม้าหินอ่อนที่ญาติโยมนำมาถวายให้ ระบุปี พ.ศ. 2514 และใกล้กับกุฎิทั้ง 4 หลัง มีศาลาที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปสีทองปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก 1 เมตร ห่างออกไปไม่มากมีพระพุทธรูปปางนั่งสมาธิ ขนาดหน้าตัก 1 เมตร ประดิษฐานอยู่ใต้ต้นไม้กลางป่า ที่ฐานพระมีชื่อชาวบ้านระบุสร้างอุทิศถวาย ปี พ.ศ.2514 และบริเวณรอบ ๆ มีประติมากรรมพุทธประวัติปางตัดพระเมาลี รูปปั้นเสือโคร่ง และรูปประติมากรรมตามประวัติพระพุทธศาสนาอีกหลายจุด โดยสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดอยู่บนพื้นที่มากกว่า 10 ไร่ ได้ถูกปล่อยทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรอย่างน่าเสียดาย และถูกปกคลุมไปด้วยไม้เถา ต้นไม้เล็กใหญ่ จนมองแทบไม่รู้ว่าอดีตเคยเป็นวัดที่สวยงามของหมู่บ้านมาก่อน
นางสาวเกวลิน กาลาม อายุ 20 ปี นักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร สาขาอักษรศาสตร์ เอกประวัติศาสตร์ กล่าวว่าเมื่อตนทราบข่าวจากโชเชียลก็อยากจะขึ้นมาดูให้เห็นกับตา เพราะตนกำลังศึกษาเรืองประวัติศาสตร์อยู่ และพอมีความรู้ด้านนี้ จึงชวนเพื่อนมาด้วยกัน จากการตรวจดูสภาพเนื้อไม้ และวัตถุปลูกสร้างต่างๆ ก็ยังถือว่าวัดแห่งนี้ไม่เก่ามากและไม่ใหม่มาก ตนคิดว่าน่าจะมีอายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป เมื่อมาเห็นแล้วรู้สึกเสียดายว่าทำไมถึงถูกทิ้งให้เป็นวัดร้าง
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เพชรรักษ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวว่าตนมีบ้านอยู่เชิงเขาแห่งนี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีวัดร้างอยู่แถวนี้ เมื่อเห็นข่าวจากทางออนไลน์ได้โทรศัพท์ไปสอบถามแม่ ซึ่งแม่ก็บอกว่ามีวัดอยู่จริงและแม่บอกด้วยว่าสมัยก่อนตอนตนอายุ 2-3 ขวบ แม่เคยมาบวชชีอยู่ที่วัดแห่งนี้ เมื่อตนรู้จากที่แม่บอกจึงขึ้นมาดูให้เห็นกับตาครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดว่าจะมีวัดแห่งนี้อยู่จริง รู้สึกเสียดายมากไม่น่าจะปล่อยทิ้งร้างอย่างนี้ ตนอยากให้มีการปรับปรุงบูรณะซ่อมแซมให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม หรือใช้ทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา เพราะมีทิวทัศน์สวยงามสงบร่มรื่น และไม่ไกลจากแหล่งชุมชน
ด้ายนายฤทธิ์ เพ็ญสมบูรณ์ อายุ 83 ปี ส.อบต.วิสัยเหนือ กล่าวว่าวัดร้างดังกล่าวยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์เท่านั้น ซึ่งบริเวณพื้นที่หมู่ 1 ตำบลวิสัยเหนือ จะมีที่สำนักสงฆ์อยู่ 3 แห่ง อยู่พื้นที่ป่าเดียวกันแต่อยู่ห่างไกลกัน ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าวัดเขาเจดีย์ หรือวัดพระใหญ่ แต่ละแห่งก็จะมีพระสงฆ์ดูแลอยู่
นายฤทธิ์กล่าวต่อว่าวัดที่ถูกปล่อยทิ้งร้างมานานนั้นจำไม่ได้กีปีแล้ว แต่ยุคแรกๆมีพ่อหลวงแม้น เป็นผู้ดูแลสร้างสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ยุคนั้นก็ถือว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่ว ต่อมาพ่อหลวงแม้นได้มรณภาพ ก็มีพระอาจารย์เมธา ชาตเมโธ มาเป็นผู้ดูแล หลังจากนั้นไม่นานพระอาจารย์เมธาได้ย้ายไปอยู่ที่วัดอื่น ทำให้วัดแห่งนี้ไม่มีพระอยู่ ช่วงแรก ๆก็จะมีชาวบ้านขึ้นไปพัฒนาปีละครั้ง พอมาระยะหลังๆก็ไม่มีการพัฒนาจึงถูกปล่อยทิ้งร้างมาจนถึงทุกวันนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดินตามแนวพระราชดำริ...ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมชุมพร
ในช่วงวันที่ 13-15 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงได้พัดปก คลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคใต้ตอนล่างเคลื่อนลงสู่ทะเลอัน
ภาคใต้เป็นอัมพาต! ชุมพรจ่อน้ำท่วมใหญ่ทั้งจังหวัด ถนน-ทางรถไฟถูกตัดขาด นักท่องเที่ยวอลหม่าน
มีรายงานด่วนว่าได้เกิดน้ำท่วมรางรถไฟระหว่างสถานีวิสัย และสถานีรถไฟสวี โดยทางสถานีรถไฟชุมพรได้ ออกประกาศแจ้งขอปิดทางระหว่างสถานีวิสัย-สวี โดยรถไฟทุกขบวนที่ลงมาจากกรุงเทพมหานคร
ศปช. สั่งเร่งเคลียร์พื้นที่ถนนสายเอเชีย 41 จมบาดาล หลังชุมพร-นครศรีฯฝนตกหนัก
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ชุมพรอ่วม! ฝนถล่มหนัก ดินถล่มทับบ้าน ถนนสายหลักฝั่งอ่าวไทยถูกตัดขาด
จากสถานการณ์ฝนตกหนักครอบคลุมในพื้นที่ จ.ชุมพร ทั้ง 8 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร
สาวขับบีเอ็มชนดับ 3 ศพแม่ลูก ชิ่งไกล่เกลี่ย
สาวคนขับบีเอ็มเสยท้าย จยย.แม่ลูกดับ 3 ศพ อ้างป่วยไม่มาไกล่เกลี่ยตามนัดหมาย พ่อยืนยันไม่เผาศพจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ ได้รับความเป็นธรรม
ญาติเหยื่อชน 3 แม่ลูกดับ จี้ตรวจสารเสพติดเพิ่ม
ญาติยืนยันไม่เผาศพจะเก็บไว้จนกว่าจะได้รับความยุติธรรม พบกล้องวงจรปิดจับภาพเดินอุ้มแมวข้ามถนนไปฝั่งขาเข้าคาดเดินเข้าซอยไปซุ่มรอคนมารับ ขณะที่น้องสาวผู้ตายขอตำรวจตรวสารเสพติดเพิ่ม