ครูสาวที่ถูกครูชายเมาคลั่งทำร้ายในโรงเรียนที่บุรีรัมย์ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมในการตั้งกรรมการสอบระดับพื้นที่ เรียกร้องกระทรวงร่วมตรวจสอบ เพราะครูเคยใช้มีดทำร้ายและขู่ยิงครูอีกคนต่อหน้านักเรียน ยังแค่ว่ากล่าวตักเตือน ขณะ ผอ.เขต ลงพื้นที่เกิดเหตุ ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
11 พ.ย.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอครูผู้ชายซึ่งมีอาการคล้ายมึนเมาอาละวาดโวยวายหาเรื่องครู และถือมีดดาบสปาร์ต้าจะเข้าทำร้ายครูผู้หญิงในโรงเรียนเดียวกัน ทั้งพยายามใช้มีดฟัน ตบหน้า และกระชากผมต่อหน้าครูผู้หญิงอีก 2 คนที่เห็นเหตุการณ์และพยายามเข้าไปช่วย เหตุเกิดบริเวณโรงจอดรถภายในโรงเรียน เวลาประมาณ 16.20 น. วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยครูผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์และร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา จนนำไปสู่การตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง
ล่าสุดวันนี้ ครูเพ็ญ ซึ่งเป็นครูผู้เสียหายให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ยังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะยังไม่มีการดำเนินการใดๆกับคู่กรณี
ทั้งนี้ ครูเพ็ญขอชี้แจงกรณีที่ ผอ.โรงเรียนให้ข้อมูลกับสื่อบางสำนักว่า ตนเป็นญาติกับครูเขียวก็ขอยืนยันว่าตนเองไม่ใช่ญาติ และตนไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นญาติอะไรกับครูเขียวเลย เพราะครูเป็นคน จ.ศรีสะเกษ แต่ไปเป็นครูอยู่ที่นั่นและได้สามีอยู่ที่นั่นเท่านั้น และยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องชู้สาว เพราะตัวครูเพ็ญ และครูเขียวคู่กรณีต่างมีครอบครัวแล้ว ส่วนที่ครูเขียวพูดในคลิปว่า “มึงจะเลิกมั้ย จะหยุดมั้ย” ตนไปคิดทบทวนดูแล้วเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับ ผอ.โรงเรียนคนปัจจุบันเรื่องการกระทำทุจริต จนทาง ปปช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ผอ. หรือไม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้องเรียน แต่ในเมื่อ จนท.ที่เข้ามาตรวจสอบมีการเรียกครูหลายคนเข้าไปให้ข้อมูล ตนและครูในโรงเรียนก็ต้องไปให้ข้อมูลตามหน้าที่ จึงคาดว่าอาจจะสืบเนื่องมาจากประเด็นดังกล่าวหรือไม่
หากมีการตรวจสอบเกี่ยวกับการกระทำทุจริตในโรงเรียน ครูเขียวซึ่งเดิมมีตำแหน่งเป็นครูการเงิน และปัจจุบันถูกเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าบริหารงานงบประมาณ อาจจะร้อนตัวกลัวถูกตรวจสอบด้วยหรือไม่ จึงเกิดความไม่พอใจ แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ร้อง และขอยืนยันตนไม่เคยทำงานเกี่ยวกับการเงินหรือยุ่งเกี่ยวกับการเงินเลย
จากกรณีที่เกิดขึ้นจึงอยากเรียกร้องให้ทางกระทรวงลงมาตรวจสอบด้วยตัวเอง เพราะตนเองไม่มั่นใจกระบวนการตั้งกรรมการสอบในระดับพื้นที่ กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเมื่อปี 63 ครูเขียวเคยใช้มีดสปาร์ต้าทำร้ายร่างกายครูอีกคน และอดีตนักการภารในโรงเรียน ทั้งฟันประตูห้องที่มีเด็กนักเรียนอยู่ ผลการสอบกลับแค่ว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น กระทั่งมาเกิดเหตุกับตนเองก็กลัวว่าเรื่องจะเงียบอีก
ล่าสุดนายทวี ทะนอก ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ได้ลงไปดูพื้นที่สภาพจริงที่โรงเรียนสะแกโพรงอนุสรณ์ ที่ปรากฏในคลิปครูผู้ชายถืออาวุธมีดพยายามจะทำร้ายครูผู้หญิงว่ามันเกิดขึ้นลักษณะไหนอย่างไร และดูสิ่งแวดล้อมประกอบ ส่วนการดำเนินการทางวินัยก็อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริง โดยตั้งรอง ผอ.โรงเรียนเป็นประธานกรรมการสืบข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ยังได้เน้นย้ำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ที่สำคัญอยากให้ครูทุกคนได้ดูแลเด็กนักเรียนให้ได้รับความรู้อย่างเต็มศักยภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ยังไม่พบครูเขียวเข้าไปที่โรงเรียนแต่อย่างใด ส่วนครูผู้เสียหายก็ยังลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ไก่ตายปริศนา คืนเดียว 12 ตัว พบพฤติกรรมคล้ายพังพอน ป้ายังเชื่อฝีมือผีกระสือ
ปศุสัตว์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมปศุสัตว์อำเภอละหานทราย กำนัน และ ผญบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบไก่ตายปริศนาคืนวันพระคืนเดียว 12 ตัว
ชาวนารับจ้างอัดก้อนฟางข้าว โกยรายได้งามช่วงหาซื้อยาก ราคาแพง
ชาวนาที่ จ.บุรีรัมย์ นำรถไถนาขนาดใหญ่ มาดัดแปลงติดตั้งเครื่องอัดฟาง ออกบริการรับจ้างอัดก้อนฟางข้าว จากชาวนาเพื่อนบ้าน
ชาวนาต้นทุนกระฉูด! ปุ๋ยคนละครึ่งไม่ตอบโจทย์
บุรีรัมย์ ชาวนา เรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละพัน แบ่งเบาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยังขายได้ราคาต่ำ
สนธิกำลังจับแก๊งขนยาบ้า ลอบขายช่วงลอยกระทง ยึดของกลาง 2.5 แสนเม็ด
ตำรวจ ทหาร ปกครอง จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมตำรวจ จ.สุรินทร์ ตามไล่ล่าติดตามจับกุม ทีมขนลำเลียงยาเสพติด ที่จะขนมาขายช่วงเทศกาลลอยกระทง ได้ยกแก๊ง 9 คน ยึดของกลางยาบ้า กว่า 2.5 แสนเม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง กระสุนปืนอีก 14 นัด