28 ต.ค.2565 - จากกรณีที่ชาวบ้านในตำบลบุกระสัง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความ ร้องทุกข์ และร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.หนองกี่ กรณีผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมดื่มเหล้าเมาแล้วใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ โดยการพกพาอาวุธปืนบุกเข้าไปในบ้านชาวบ้านในยามวิกาล แล้วตะโกนถามหาผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยมีเรื่องบาดหมางใจกัน ก่อนจะชักอาวุธปืนจี้หน้าอกหลานชายของหญิงคนดังกล่าวแล้วโวยวายขู่จะยิงตายให้หมด จนชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องช่วยกันแย่งปืนจากมือของผู้ใหญ่บ้าน จนปืนเกิดลั่น 1 นัด แต่เคราะห์ดีที่กระสุนไม่ได้โดนใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเด็กเพราะตกใจกลัว เหตุเกิดเวลาประมาณ 20.30 น. คืนวันที่ 19 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่ง ผญบ.อ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีคนร้องเรียนมีการดื่มสังสรรค์กันเสียงดัง จึงมาระงับเหตุ ซึ่งชาวบ้านกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวไม่ปลอดภัย หลังจากผู้ใหญ่บ้านคนที่ก่อเหตุได้รับการประกันตัวออกมา และยังคงดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านตามปกติ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันนี้ นายวิรัตน์ กลิ่นขจร นายอำเภอหนองกี่ ได้ออกมาระบุเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาเมื่อมีชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใหญ่บ้านโดยเฉพาะเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน ทางอำเภอก็ได้มีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่ามีความประพฤติที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหรือระเบียบข้อห้ามหรือไม่ เพื่อสรุปเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาลงโทษทางวินัยตามขั้นตอน แต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา
ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกร้องเรียนกล่าวหา ก็ได้ยื่นใบลาออกกับทางอำเภอแล้ว โดยให้เหตุผลว่าจะไปประกอบอาชีพอื่น ซึ่งตนก็ได้เซ็นอนุมัติและมีผลตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเมื่อผู้ใหญ่บ้านลาออกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องสอบเอาผิดวินัย เพียงแจ้งความคืบหน้าให้ทางจังหวัดทราบ และดำเนินการเรื่องการจัดเลือกตั้ง ผญบ.คนใหม่มาดำรงตำแหน่งไม่ให้เกิดผลกระทบต่อหมู่บ้าน
ส่วนเรื่องคดีก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการเพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหาก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ขณะชาวบ้านผู้เสียหายและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้เดินทางเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.หนองกี่ แต่ตำรวจยังไม่ได้เรียกผู้ใหญ่บ้านมาสอบปากคำแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อมให้แล้วเสร็จก่อน
จากนั้นก็จะสรุปสำนวนและรวบรวมหลักฐานส่งอัยการตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ น.ส.เบญจวรรณ อายุ 30 ปี ลูกสาวป้าจง บอกว่า หลังทราบว่าผู้ใหญ่บ้านได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้ว ตนเองและครอบครัวก็รู้สึกสบายใจขึ้น และมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่หากยังดำรงตำแหน่งอยู่ก็กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ส่วนกรณีที่ลูกของผู้ใหญ่แจ้งความกลับว่าชาวบ้านทำร้ายร่างกายผู้ใหญ่บ้านนั้น ก็ไม่ได้กังวลอะไรเพราะยืนยันว่าไม่ได้มีใครทำร้าย แต่เป็นช่วงชุลมุนที่ยื้อแย่งปืนจากมือผู้ใหญ่บ้าน เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตนเองเท่านั้น เพราะถ้าไม่แย่งปืนจากมือผู้ใหญ่ก็อาจจะเกิดการสูญเสียขึ้น
ก็ขอบคุณทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความเป็นธรรมและช่วยเร่งรัดดำเนินการกรณีที่เกิดขึ้นให้ เพื่อความปลอดภัยของคนในหมู่บ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ไก่ตายปริศนา คืนเดียว 12 ตัว พบพฤติกรรมคล้ายพังพอน ป้ายังเชื่อฝีมือผีกระสือ
ปศุสัตว์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมปศุสัตว์อำเภอละหานทราย กำนัน และ ผญบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบไก่ตายปริศนาคืนวันพระคืนเดียว 12 ตัว
ชาวนารับจ้างอัดก้อนฟางข้าว โกยรายได้งามช่วงหาซื้อยาก ราคาแพง
ชาวนาที่ จ.บุรีรัมย์ นำรถไถนาขนาดใหญ่ มาดัดแปลงติดตั้งเครื่องอัดฟาง ออกบริการรับจ้างอัดก้อนฟางข้าว จากชาวนาเพื่อนบ้าน
ชาวนาต้นทุนกระฉูด! ปุ๋ยคนละครึ่งไม่ตอบโจทย์
บุรีรัมย์ ชาวนา เรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละพัน แบ่งเบาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยังขายได้ราคาต่ำ
สนธิกำลังจับแก๊งขนยาบ้า ลอบขายช่วงลอยกระทง ยึดของกลาง 2.5 แสนเม็ด
ตำรวจ ทหาร ปกครอง จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมตำรวจ จ.สุรินทร์ ตามไล่ล่าติดตามจับกุม ทีมขนลำเลียงยาเสพติด ที่จะขนมาขายช่วงเทศกาลลอยกระทง ได้ยกแก๊ง 9 คน ยึดของกลางยาบ้า กว่า 2.5 แสนเม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง กระสุนปืนอีก 14 นัด