'ชัยนาท' น้ำลดแต่ชาวบ้านยังทุกข์หนักทั้งปลิงชุม-น้ำเน่าเหม็น

'ชัยนาท' น้ำลงจากตลิ่งแล้ว แต่ชาวบ้านยังทุกข์หนัก เพราะน้ำท่วมขังยังสูง ซ้ำเน่าเหม็นแถมปลิงชุกชุม ขณะที่ชลประทานตั้งเครื่องสูบน้ำหลายจุด เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

27 ต.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่น้ำเจ้าพระยาที่เคยล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ 7 ตำบล 49 หมู่บ้าน ในอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ได้ลดลงจากตลิ่งเกือบหมดทุกหมู่บ้านแล้ว หลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำต่อเนื่องมาอยู่ที่อัตรา 2,228 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดีขึ้น แต่ยังมีน้ำท่วมขังตามถนนในหมู่บ้าน และบ้านเรือนประชาชนอีกจำนวนมาก

นางยุพา นิเทียม และ นางสมปอง สนป้อม ชาวบ้าน ม.6 ต.สรรพยาบอกว่า ตอนนี้ในหมู่บ้านบางจุดน้ำยังท่วมสูงตั้งแต่ 30 เซนติเมตร ไปจนถึง 1 เมตร แต่บางจุดน้ำก็ตื้น จนไม่สามารถใช้เรือพายได้ และน้ำท่วมขังมานาน ทำให้เกิดการเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น อีกทั้งยังมีปลิงชุกชุม เวลาจะเข้าออกบ้าน ต้องทั้งพายเรือ และเดินลุยน้ำ และยังต้องคอยระวังไม่ให้ปลิงมาเกาะขาอีก

ส่วนนางไฉน สุขใย และนางกิมเฉียบ เลี้ยงมณี ชาวบ้าน ต.โพนางดำออก บอกว่า ตอนนี้น้ำที่ท่วมบ้านยังลดลงไม่หมด แต่ชาวบ้านก็เริ่มขัดคราบน้ำที่เกาะตามพนังบ้านและรั้วบ้านกันแล้ว ทยอยขัดไปเรื่อยๆตามระดับน้ำที่ลดลง แต่ข้าวของที่เก็บหนีน้ำไว้บนที่สูง จะยังไม่นำมาลงในตอนนี้ แม้บางหลังน้ำจะแห้งแล้ว เพราะกลัวว่าจะซ้ำรอยเหมือนเมื่อปี 2564 ที่พอน้ำลดจากตลิ่งไปได้ 3 วัน ก็กลับมาท่วมซ้ำใหม่รอบ 2 ทำให้ข้าวของเสียหาย ปีนี้จึงต้องรอดูให้แน่ใจก่อนว่าน้ำจะไม่กลับมาท่วมซ้ำอีก ถึงจะทยอยขนของลงจากที่สูง

ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนางดำออก อ.สรรพยา ที่ถูกน้ำท่วมมานานเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ตอนนี้น้ำลดลงไปบ้าง แต่ยังท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร นางอุษา สินมา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนางดำออก เปิดเผยว่า โรงพยาบาลฯ ยังคงต้องตั้งเต็นท์ริมถนนคลองมหาราชเป็นจุดให้บริการประชาชน และยังต้องจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกไปดูแลสุขภาพประชาชนทั้งภายในบ้านและตามเต็นท์ริมถนนคลองมหาราช แต่น้ำที่ลดลง ทำให้เป็นอุปสรรคกับการให้บริการ เพราะบางจุดน้ำลดลงไม่สามารถใช้เรือพายเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ต้องลากเรือเดินลุยน้ำเข้าไปตามบ้านเรือน เพื่อนำยารักษาโรค และยาคลายเครียดไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน ที่ตอนนี้พบว่า ชาวบ้านเกิดความเครียดมากขึ้นกว่าเดิม เพราะได้เห็นสภาพความเสียหายของทรัพย์สินภายในบ้านและพื้นที่รอบหมู่บ้านหลังน้ำลด จึงเกิดความหดหู่ใจและกลายเป็นความเครียดมากขึ้น

ขณะที่กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ โดยนำเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 4 ท่อ ที่มีอัตราการสูบน้ำ 0.5 ลบ.ม./วินาที ไปติดตั้งตามจุดต่างๆที่มีน้ำท่วมขังบริเวณ ต.สรรพยา ต.เจ้าพระยา ต.โพนางดำตก ต.ตลุก อ.สรรพยา เพื่อระบายน้ำเน่าเสีย บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อให้พื้นที่ประสบภัยกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือน 7 จว.ลุ่มเจ้าพระยา เฝ้าระวังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำ ท้ายเขื่อนสูงอีก 1.20 เมตร

แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2567  ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัด อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี

'เกณิกา' เผยโครงการจ้างงานสร้างรายได้เสริมกับกรมชลฯ ยอดเข้าร่วมกว่า 4 หมื่นคน

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

น้ำท่วมภูเก็ตเริ่มคลี่คลาย 2 อำเภอประสบภัยเสียหายหนัก เร่งฟื้นฟูพื้นที่

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าสถานการณ์น้ำท่วมขังในจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ได้คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติสามารถเดินทางสัญจรได้ทุกพื้นที่

ตลิ่งทรุดหน้าวัดที่ชัยนาท ยังทรุดตัวเพิ่มขึ้น จนท.ต้องเร่งรื้อศาลาริมน้ำ

ความคืบหน้า เหตุตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดธรรมามูล วรวิหาร ม.1 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท เกิดการทรุดตัวเป็นทางยาวกว่า 60 เมตร ลึกจากแม่น้ำเข้ามา 30 เมตร ซึ่งทำให้กุฎิพระของวัด 1 หลัง

หายวับไปกับตา! ตลิ่งทรุดหน้าวัดธรรมามูล จ.ชัยนาท กุฎิพระ-รถ 13 คันจมน้ำ

เกิดเหตุตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าวัดธรรมามูล วรวิหาร ม.1 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท เกิดการทรุดตัวเป็นทางยาวกว่า 60 เมตร ลึกกว่า 30 เมตร