‘คมนาคม’ สั่งหน่วยงานจับตาเฝ้าระวังน้ำท่วมภาคใต้พร้อมช่วยเหลือประชาชน 24 ชม.

‘ศักดิ์สยาม’สั่งหน่วยงานคมนาคมจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนภายใน24ชม. ด้านแขวงทางหลวงชุมพร ย้ำรถเล็กไม่ควรสัญจรผ่านเส้นทางน้ำท่วม พร้อมอำนวยความสะดวกแนะผู้ใช้ทางปฎิบัติตามป้าย-สัญญาณบอกทาง

13 พ.ย.2564 – นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าขณะนี้จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือได้พัดปกคลุมอ่าวไทย ส่งผลให้หลายพื้นที่จังหวัดในภาคใต้มีฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ได้แจ้งให้พื้นที่ 15 จังหวัด ภาคใต้ เช่น จังหวัดเพชรบุรี ระนอง ชุมพร

สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช สงขลา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 12-14 พฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวง (ทล.)กรมทางหลวงชนบท (ทช.)การรถฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) รายงานถึงผลกระทบจากอุทกภัยต่อการคมนาคม สัญจรของประชาชนในพื้นที่ พร้อมกับให้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนป้ายแนะนำเส้นทางเสี่ยง บริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชน ภายใน 24 ชม.

ด้านนายวัฒนะ โพธิ์นาคเงิน ผอ.แขวงทางหลวงชุมพร กล่าวว่าสำหรับสถานการณ์อุทกภัยขณะนี้ระดับน้ำยังคงที่ค่อนข้างเพิ่มขึ้นเนื่องจากฝนยังตกต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 41 (ถนนเอเชีย41)ระหว่าง กม. 33+600 – 34+000 ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ในพื้นที่ ตำบลสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ระดับน้ำสูง 80 ซม. การจราจรผ่านไม่ได้ ซึ่งจะมีการประชุมร่วมมือกับทางจังหวัดเพื่อประสานงานหาแนวทางเตรียมแผนรองรับน้ำท่วมในเส้นทางดังกล่าว

ขณะนี้แขวงฯ ได้ทำการปิดการจราจร  สำหรับทางเลี่ยงขาล่องใต้ เมื่อถึงทางแยกปฐมพร จ.ชุมพร ให้เลี้ยงขวาโดยใช้ทางเลี่ยงสาย 4 (เพชรเกษมเดิม)ไปทางระนอง ซึ่งสามารถที่จะออก พังงา,ภูเก็ต,กระบี่ได้ และสามารถผ่านเข้าสุราษฎร์ธานี ด้วย ส่วนอีกเส้นทาง ผ่านทางระนอง-พระโต๊ะ-อ.หลังสวน เพื่ออกมายังสาย 41 กม.62 ส่วนขาขึ้นกรุงเทพฯเส้นทางแรกย้อนจาก อ.หลังสวนเลี้ยวซ้ายไป อ.พระโต๊ะ ไปจ.ระนอง อีกเส้นทาง จาก สุราษฎร์ฯ ไปพังงา โดยใช้เส้นทางเพชรเกษม โดยได้รับความร่วมมือจาก ตำรวจทางหลวง ปภ.จังหวัด มูลนิธิอาสาสมัคร อำเภอ และองค์กรส่วนท้องถิ่น ได้เข้ามาอำนวยความสะดวก

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง โทร.1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ Twitter กรมทางหลวง @prdoh1

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง