ปปท.รวบฝ่ายบุคคล อบต.คึมชาด จ.ขอนแก่น ได้คาห้องทำงาน หลังมีหลักฐานเอี่ยวเรียกรับแลกกับการต่อสัญญาจ้าง จากเจ้าหน้าที่ในอบต.เดียวกันกว่า 30 คน คนละ 50,000 บาท
5 ต.ค.65 - เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สภ.พล จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.ทนง เพิ่มพูล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท. เขต 4 พร้อมด้วย นายสุภาพ ศิริ ผอ.กลุ่มงานปราบปรามคดีพิเศษ ปปท.เขต 4 และ พ.ต.อ. อัครเดช เกตเอี่ยม ผกก. 4 บก.ปคม.รักษาการ ผกก.3 บก.ปปป.นำกำลังเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล อบต.คึมชาด จ.ขอนแก่น หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายว่าบุคคลดังกล่าวเรียกรับเงินจำนวน 50,000 บาท ในการต่อสัญญาจ้างงาน ใน อบต.คึมชาด ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.พล พร้อมหลักฐานเป็นเงินล่อซื้อที่ผู้เสียหายนำมาจ่ายให้จำนวนหนึ่ง
พ.ต.ท.ทนง เพิ่มพูล รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ ปปท. เขต 4 กล่าวว่า จากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำหรับกรณีการจับกุมเจ้าหน้าที่ อบต.คึมชาด เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงที่หมดสัญญาจ้างงาน จึงต้องมีการต่อสัญญา ทำให้เป็นช่องทางในการทุจริตเรียกรับเงินแลกกับการต่อสัญญาจ้าง พบว่ามีผู้เสียหายแจ้งเบาะแสมายัง ปปท. เขต 4 เกี่ยวกับพฤติการณ์ของผู้มีอำนาจแต่งตั้งในท้องถิ่น เรียกรับผลประโยชน์ที่มีผลกับการแต่งตั้ง
“หลังจากได้รับเรื่องแล้ว ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อลงพื้นที่สืบหาเบาะแสข้อเท็จจริง จากการสอบถามผู้เสียหาย พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นตัวกลางในการเรียกรับเงินต่อสัญญาจ้างจากพนักงานที่กำลังจะหมดสัญญาเบื้องต้นที่ตรวจสอบได้จำนวน 30 ราย โดยเรียกรับเงินรายละ 50,000 บาท ซึ่งหากไม่มีผู้ร้องเรียนจะมีมูลค่ารับถึง 1,500,000 บาท เมื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานจนมั่นใจว่าการร้องเรียนเป็นเรื่องจริง จึงประสานกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ลงพื้นที่บันทึกปากคำผู้เสียหาย รวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การล่อซื้อ เบื้องต้นพบว่าผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล อบต.คึมชาดที่เป็นคนกลางในการรับเงิน ส่วนจะมีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล”
ขณะที่ พ.ต.อ.อัครเดช เกตเอี่ยม รักษาการ ผกก.3 บก. ปปป. กล่าวว่า ในการลงพื้นที่นั้นเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวน พร้อมกับสืบสวนขยายผลต่อไปว่า ผู้เรียกรับเงินดำเนินการคนเดียว หรือว่ามีใครอยู่เบื้องหลังในกระบวนการ สำหรับหลักฐานที่มัดตัวผู้ต้องหาจนนำไปสู่การจับกุมนี้ คือมีผู้เสียหายที่เดินทางมาร้องทุกข์ กล่าวโทษ ปปท.เขต 4 หลักฐานแชทไลน์การนัดแนะจะมีการจ่ายเงินขอต่อสัญญาจะได้ทำงานต่อ เงินล่อซื้อที่ผู้เสียหายนำไปให้ และเจ้าหน้าที่ได้รับเงินล่อซื้อไว้ ซึ่งเป็นหลักฐานชัดเจน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่รายนี้มีความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และเป็นพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน หรือรับประโยชน์โดยมิชอบ
"สำหรับประชาชน พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเรียกรับเงินต่อสัญญาว่าจ้างการทำงาน หรือพบเห็นการทุจริตจากเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถโทรศัพท์แจ้งที่สายด่วน 1206 จากนั้นทางส่วนกลางจะประสานมายังพื้นที่ ปปท.เขต หรือหากจะแจ้งมาที่เขต แจ้งได้ที่สำ สำนักงาน ปปท.เขต 4 จ.ขอนแก่น ที่หมายเลขโทศัพท์ 043-245-393 ทางสำนักงานจะดำเนินการทันที และให้ความมั่นใจว่าข้อมูลการร้องเรียนจะเป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของผู้แจ้งเรื่องร้องเรียน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปปง.เปิดให้ผู้เสียหายรายคดี ดิไอคอน ยื่นคำร้องขอรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน 3 ช่องทาง
'อนุกูล' แจ้งข่าวดี ปปง.เปิดให้ผู้เสียหายรายคดี ดิไอคอนกรุ๊ป กับพวก ยื่นคำร้องขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สิน ให้แก่ผู้เสียหาย ตั้งแต่วันนี้ - 17 ก.พ.68 ผ่าน 3 ช่องทาง
DSI เร่งทำสำนวน ปปง.เร่งยึดทรัพย์ 'ดิไอคอน'
ดีเอสไอเร่งทำสำนวนแจ้งข้อหา แชร์ลูกโซ่ 18 ผู้ต้องหา และบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป
เด็ก ปชน.ข้องใจ ปปง.ปล่อยผีโครงการหรูริมน้ำเจ้าพระยา
'สส.นนทบุรี ปชน.' หวั่น ปปง. ตั้ง 'บริษัททรัพย์สิน' หาผลประโยชน์ เหตุใช้บริษัทเดียวจัดการทรัพย์ที่ถูกยึด ข้องใจปล่อยโครงการหรูริมน้ำเจ้าพระยา สร้างต่อทั้งที่สั่งหยุดก่อสร้างแล้ว
'แทนคุณ'นำ'ผู้เสียหายลงทุนคอนโด'เอี่ยว'จำนำข้าว'ร้องวันนอร์เร่งคดี!
'อี้ แทนคุณ' นำ 'ผู้เสียหายลงทุนคอนโด' เอี่ยว 'จำนำข้าว' ยื่นหนังสือถึง 'ปธ.สภาฯ' เร่งรัดคืนเงินเกือบ 400 ล้านบาท
'แทนคุณ' พาผู้เสียหายถูกหลอกลงทุน 6 คดีพึ่ง 'วันนอร์' ช่วยบี้ ปปง.เร่งคดี
'แทนคุณ' พาผู้เสียหายถูกหลอกลงทุน 6 ดคี ร้อง 'ปธ.สภา' ช่วย จี้ ปปง.เฉลี่ยทรัพย์ที่ถูกยึดคืนให้ผู้เสียหาย มองอาจมีเทวดาในหน่วยงานรัฐทำคดีล่าช้า หลายปีไม่คืบ
ปปง.สั่งอายัดเพิ่ม 1.5 ล้านบาท 'ดิ ไอคอน' ยึดทรัพย์สินคดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 12/2567 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่ประชุมได้มีมติในรายคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ดังนี้