ครม.อนุมัติงบกว่า 28 ล้านบาทเดินหน้าประเมิน SEA แผนแม่บทพัฒนาสงขลาและปัตตานี สร้างสมดุลการพัฒนาเมืองต้นแบบชายแดนใต้
14 ก.ย.2565 – น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติเมื่อ 14 ธันวาคม 2564 ให้สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment: SEA) สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี ซึ่งครอบคลุมโครงการเมืองต้นแบบ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาด้วย ที่ผ่านมา สศช.ได้ดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ตามมติ ครม. ไปแล้วรวม 4 ครั้ง เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จในการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) เช่น ความคาดหวังต่อการจัดการประเมิน SEA ระยะเวลาในการดำเนินการ เป็นต้น ขณะนี้ เข้าสู่การดำเนินการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA)
ล่าสุดในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ครม.จึงมีมติอนุมัติงบประมาณจำนวน 28.22 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment: SEA) สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี ซึ่งเป็นงบประมาณผูกพันข้ามปี พ.ศ.2565 – 2567 โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ให้ใช้จ่ายจากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 14.11 ล้านบาท ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 ให้ สศช.จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป
“การจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานีในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแผนแม่บทให้มีความสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ คำนึงถึงความสมดุลของการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายดำเนินการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นในทุกขั้นตอนอย่างน้อย 8 ครั้ง (40 เวที) และมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนอย่างน้อย 3,000 คน พร้อมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ ผ่านการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมการสร้างการรับรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ภายใต้กรอบระยะเวลาดำเนินการโครงการ 18 เดือน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่
รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้
รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี
รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ
อย่าหลงเชื่อ! มิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกไปทำงานฟาร์มออสเตรเลีย
รัฐบาลเตือนภัยอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพใช้โซเชียลหลอกทำงานฟาร์มออสเตรเลีย ย้ำรัฐบาลออสเตรเลีย ยังไม่มีความร่วมมือกับไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวีซ่าเกษตรให้กับคนไทย
ด้ามขวานป่วน! วางเพลิง-เผากล้องซีซีทีวี 'ยะลา-ปัตตานี'
คนร้ายพ้นสีสเปรย์สีแดง "PATANI MERDEKA" ป้ายโรงเรียนบ้านเตาปูน (ธนาคารกรุงเทพ 16) พร้อมเผากล้องวงจรปิดอีกหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา
ข่าวดี! สปสช.เห็นชอบเพิ่มสัดส่วนล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50%
'คารม' เผย บอร์ด สปสช. เห็นชอบข้อเสนอพัฒนาระบบมาตรฐานและคุณภาพของนโยบายล้างไต เพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้องรายใหม่ 50% ดูแลผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีความยั่งยืน
ก.อุตฯ ลุยเสริมทักษะเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย
'ศศิกานต์' เผย ก.อุตฯ เดินหน้าส่งเสริมเอสเอ็มอีกว่า 200 ราย เสริมทักษะ เพิ่มขีดการแข่งขัน เน้นดิจิทัลและความยั่งยืน คาดดันเศรษฐกิจโตกว่า 62 ล้านบาท