ขอนแก่นอ่วม! น้ำทะลักท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลังคา ถนนใกล้ขาด วอนหน่วยงานช่วยเหลือ

บ้านมูลตุ่นขอนแก่น น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน นายอำเภอนำทุกหน่วยงาน เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือ ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันบรรจุกระสอบทรายกั้นทางน้ำไม่ให้ไหลเข้าพื้นที่ เนื่องจากคาดการณ์ว่าหากวันนี้ฝนตกซ้ำอีกน้ำท่วมเข้าในตัวบ้านแน่นอน

18 ส.ค.2565 - ที่บ้านมูลตุ่น ม.2 ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอมัญจาคีรี พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ถมปัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสวนหม่อน และนายบุญประสงค์ นวลสาย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการถูกน้ำท่วมในพื้นที่ พร้อมทั้งเร่งจัดทำกระสอบทราย เพื่อนำไปปิดกั้นน้ำไม่ให้เข้าท่วมบ้านเรือน

นอกจากนี้ยังได้พบปะชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม เพื่อจะได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าประชาชนนั้นมีการเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยตัวเอง ทั้งการยกสิ่งของขึ้นที่สูง และเกี่ยวหญ้ามาเก็บไว้เลี้ยงสัตว์ ที่ไม่สามารถปล่อยให้ออกไปตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ยังพบว่าชาวบ้านบางคนก็สามารถเก็บปลาจากที่ท่วมในพื้นที่ นำมาทำปลาร้า ปลาแห้ง ไว้รับประทานอีกด้วย

นายพยุง เหล็กดี นายอำเภอมัญจาคีรี กล่าวว่า น้ำที่ท่วมในพื้นที่ เขตเทศบาลมัญจาคีรี และพื้นที่บ้านมูลตุ่นนั้น เป็นน้ำที่ไหลมาจากภูเม็งไหลลงมาบ้านมูลตุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำ จึงเป็นจุดรับน้ำ โดยขณะนี้น้ำกระจายท่วมใน 2 ตำบลคือตำบลสวนหม่อนและเขตเทศบาลมัญจาคีรี มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ ส่วนบ้านเรือนประชาชนนั้น พบว่าในพื้นที่บ้านมูลตุ่น ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนรถูกน้ำท่วมและได้รับความเดือดร้อนประมาณ 100 กว่าหลังคาเรือน ส่วนอาหารของสัตว์เลี้ยงก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้สัตว์เลี้ยงและประชาชน

"ขณะนี้ที่บ้านมูลตุ่นนั้น พบความเสียหายของทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่รับกระแสน้ำ ถูกน้ำกัดเซาะถนน จนเป็นหลุมลึก แต่ยังไม่ขาด ซึ่งทาง อบต.สวนหม่อน นำกระสอบทรายไปปิดหลุมแล้ว และหากไม่มีฝนตกลงมา และน้ำลดลงไปก็จะทำการสำรวจ เพื่อจะได้ซ่อมแซมให้ดีขึ้น

ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายและประเมินสถานการณ์ในการช่วยเหลือและรับมือผลกระทบจากพายุฝนตกในช่วงนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนโดยเร็วทันที พร้อมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังระดับน้ำแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบหากเกิดน้ำท่วมสูงขึ้นอีก

ในขณะที่ทางหลวงหมายเลข 229 มัญจาคีรี บ้านไผ่ จากสี่แยกไฟแดงไปจนถึงหน้า ธกส.ระยะทางประมาณ 1 กม. น้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงขอนแก่นที่ 3 บ้านไผ่ ได้ขึ้นป้ายปิดถนน น้ำท่วม ให้หลีกเลี่ยง ใช้เส้นทางอื่น"

ด้าน นายธนพงษ์ นามเข็ม อายุ 26 ปี ชาวบ้านมูลตุ่น ที่ขนกระสอบทรายไปปิดกั้นน้ำไม่ให้เข้าบ้าน ตัวเอง กล่าวว่า น้ำเข้าท่วมบ้านมูลตุ่นตั้งแต่บ่ายของวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา โชคดีที่ อบต.มาสำรวจและนำทรายมาให้ชาวบ้าน บรรจุใส่กระสอบปิดกั้นน้ำ จึงทำให้น้ำไม่เข้าบ้าน แต่ชาวบ้านก็ยังเดือดร้อนอยู่ดี เพราะ บ้านมูลตุ่น ถูกโอบด้วยน้ำที่ไหลมาจากภูเม็ง ล้อมรอบหมู่บ้านเอาไว้ ถนนก็จะขาดแล้ว จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือในเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และอาหารสัตว์ให้ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมืองคอนอ่วมน้ำท่วม 11 อำเภอ

นครศรีธรรมราช เผชิญน้ำท่วมหนักจากฝนตกต่อเนื่องและน้ำป่าจากเทือกเขาหลวง ล่าสุดมีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 11 อำเภอ

กษ.ระดมสรรพกำลังเร่งช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ เกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชม.

นายเอกภาพ พลชื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งกรมชลประทาน ติ

‘ธนกร’ ห่วง น้ำท่วมปักษ์ใต้หนักจี้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ  

“ธนกร” ห่วง น้ำท่วมปักษ์ใต้หนักหลายจังหวัด ขอ รัฐบาล-ส่วนราชการเร่งช่วย หลังถูกพายุถล่มระลอก 2 ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำถนนสายเอเชีย 41 จมบาดาล ถูกตัดขาดการเดินทาง-น้ำ-ไฟ ฝากดูแล ผู้ป่วยติดเตียง คนแก่ วอน กองทัพรุดอพยพด่วน

ใต้อ่วม! ทางรถไฟ-ถนนขาด

ฝนตกหนักน้ำท่วม เส้นทางลงใต้อัมพาต ทางขาดทั้งรถไฟและถนนสายเอเชีย รถไฟไปต่อไม่ได้ ติดค้างที่ชุมพรเพียบ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ส่วนที่นครศรีฯ น้ำทะเลจ่อหนุนซ้ำเติม

นายกฯแพทองธาร โพสต์โซเชียล สั่งมหาดไทยช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้โดยด่วน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและ X ระบุถึงสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ว่า “เหตุการณ์น้ำท่วมหนักที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง

ชุมพรอ่วม! ฝนถล่มหนัก ดินถล่มทับบ้าน ถนนสายหลักฝั่งอ่าวไทยถูกตัดขาด

จากสถานการณ์ฝนตกหนักครอบคลุมในพื้นที่ จ.ชุมพร ทั้ง 8 อำเภอ ตั้งแต่วันที่ช่วงค่ำวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร