ทึ่ง! หมู่บ้านเลี้ยงควายเยอะสุดในสุโขทัย เกษตรกรให้น้ำคลายร้อนด้วยแอปฯบนมือถือ

10 ส.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตำบลบ้านน้ำพุ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย นอกจากเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ 105 อินทรีย์ และข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์มาตรฐาน Organic Thailand คุณภาพยอดเยี่ยม จนสามารถส่งออกไปยังประเทศฝรั่งเศสได้ปีละ 30-60 ตันแล้ว ที่นี่ยังอาจเรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่มีการเลี้ยงควายเยอะที่สุดในสุโขทัยอีกด้วย แถมเกษตรกรยังทันสมัยใช้เทคโนโลยี ระบบควบคุมการให้น้ำคลายร้อนควายแบบอัตโนมัติ สั่งการด้วยแอพพลิเคชั่นบนมือถือสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็สั่งระบบทำงานได้

นางสายฝน ช่างเขียน ประธานวิสาหกิจชุมชนตามรอยพ่อ ชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงตำบลบ้านน้ำพุ บอกว่า ที่นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่มีการเลี้ยงควายเยอะที่สุดในสุโขทัย มีมากถึง 2,000 ตัว เฉพาะของตัวเองมี 23 ตัว ส่วนคนที่เลี้ยงไว้เยอะสุดมี 100 ตัว เลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริม และใช้ขี้ควายเป็นปุ๋ยทำนาข้าวอินทรีย์ส่งออกต่างประเทศ

สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ควบคุมการให้น้ำคลายร้อนควายแบบอัตโนมัติ สั่งการด้วยแอพพลิเคชั่น Smart Life บนมือถือสมาร์ทโฟน ไม่ว่าตัวเราจะอยู่ที่ไหนก็สั่งระบบทำงานได้นั้น ทางสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสุโขทัย และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa เป็นผู้สนับสนุนให้มา เพื่อช่วยทุ่นแรงเกษตรกร จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคอยต้อนควายออกไปแช่น้ำบ่อยๆ วันละ 3-4 ครั้ง

โดยติดตั้งระบบน้ำละอองฝอยไว้ในคอก ตั้งเวลาเปิด-ปิดอัตโนมัติ แล้วยังมีตัววัดอุณหภูมิ ถ้าร้อนมากไประบบก็จะทำงานเอง หรือถ้าความชื้นในดินไม่มี ระบบนี้ก็จะทำงานเองอัตโนมัติ อยู่ที่เราจะตั้งค่าไว้อย่างไรก็ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

น้ำเต็ม 100% ทุ่งบางระกำโมเดล ระดับน้ำเพิ่มสูง เริ่มกระทบชาวบ้าน-เส้นทางสัญจร

ทุ่งบางระกำโมเดล ในจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย  รับน้ำเต็มๆมีน้ำอยู่ในทุ่งแล้ว 440 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของความจุเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน

เศร้า น้ำซัดบ้านพัง! ลุง-ป้าอาศัยนอนในพ่วงรถไถข้างถนน นานกว่า 1 เดือน

แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมถนนเส้นหลัก 101 สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ช่วงแยกท่าช้าง ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ทั้ง 2 ฝั่งจะเริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว แต่บางจุดก็ยังมีน้ำท่วมสูง

ระทึกคันดินพัง น้ำยมทะลักท่วม 2 หมู่บ้าน น้ำท่วมสุโขทัยกลับสู่วิกฤติอีกรอบ

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย ได้กลับเข้าสู่ภาวะวิกฤติอีกครั้ง หลังมีน้ำเหนือไหลลงมาสมทบแม่น้ำยมที่สุโขทัย ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และกระแสน้ำที่ไหลแรงยังได้กัดเซาะแนวคันดินพังอีกหลายจุด