เจ้าของผับเมาน์เทนบี เปิดใจสุดเครียดถึงขั้นชวนกันฆ่าตัวตาย ยันไร้คนมีสีหนุนหลัง

“เสี่ยบี” เจ้าของผับ “MOUNTAIN B ควงภรรยาเปิดใจ เครียดถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย ทุกอย่างจะได้จบ

9 ส.ค.2565 - ที่หน้าผับ MOUNTAINB อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จุดเกิดเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้ 15 ศพ และบาดเจ็บ 38 ราย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 'เสี่ยบี' หรือ นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ อายุ 27 ปี เจ้าของผับ พร้อมด้วย นางอนงค์นารถ ปั้นประสงค์ อายุ 31 ปี ภรรยา ได้ควงกันเปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชน ถึงความรู้สึกในขณะนี้และพร้อมตอบข้อซักถามที่สังคมสงสัย

ซึ่งเสี่ยบี และภรรยา เปิดฉากด้วยการพนมมือไหว้ กล่าวขอโทษ และเสียใจ ต่อทุกฝ่ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากใจจริง ก่อนเผยย้อนเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ขณะที่กำลังอยู่ด้วยกันในครัว ห่างหน้าผับราม 20 เมตร กระทั่งช่วงใกล้ตี 1 ได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากผับ ก่อนภาพที่ปรากฏเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และควันกลุ่มใหญ่ พวยพุ่งออกมาจากร้าน ผู้คนต่างวิ่งพากันหนีตาย ยอมรับว่า ในเวลานั้นตกใจอย่างมาก แต่ก็ได้พยายามช่วยเหลือชีวิตทุกคนออกมาให้มากที่สุด พร้อมแจ้งหน่วยงานเข้าช่วยเหลือเร่งด่วน เมื่อรู้ว่า หลังเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตมากถึง 13 ราย และบาดเจ็บเกือบ 40 ราย ในจำนวนนั้นต้องสูญเสียพนักงานที่ทำงานรร่วมกันมาถึง 3 คน คือ กัปตันร้าน แคชเชียร์ และช่างซาวด์ และการ์ดได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน

ยอมรับจากใจ ในเวลานั้น อยากจะชวนกันไปฆ่าตัวตาย ไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่า ในชีวิตจะต้องมาพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งต้องขอโทษทางญาติผู้เสียชีวิต ญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมด ได้โปรดอโหสิกรรมอย่าได้อาฆาตพยาบาท เพราะเชื่อว่า ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

ส่วนการเปิดผับนั้น สืบเนื่องมาจากว่า ก่อนหน้านี้ร้าน MOUNTAIN ที่เปิดเป็นโล่งร้านอาหาร และมีดนตรีสด ได้ถูกชาวบ้านร้องเรียนว่า ส่งเสียงดังสร้างความรำคาญ จึงได้ตัดสินใจนำเงินเก็บที่ได้จากการเปิดธุรกิจร้านแห่งนี้ รวมถึงร้านหมูกระทะ และเขียงหมู มาลงทุนเปิดเป็นผับ Mountain B เพียงแค่คิดว่า ต้องการร้านที่มีความเก็บเสียง ไม่สร้างปัญหาให้กับชาวบ้านอีก ซึ่งยอมรับว่า ผิดจริงที่ได้ดัดแปลงร้านเป็นผับ โดยไม่มีการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน

และขอยืนยันชัดเจนว่า ร้านที่ก่อตั้งขึ้นนั้น ไม่มีดอมินี นายทุนใหญ่ หรือผู้มีอิทธิพล หนุนหลังเปิดร้านแห่งนี้ขึ้นแน่นอน เงินที่สร้างขึ้นมานั้น เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรง ที่ได้ร่วมกันเก็บเงินมาในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างให้ทนาย และครอบครัว กำลังหาเงินมาช่วยเหลือเยียวยาให้มากที่สุด เบื้องต้น ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 50,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บจ่ายรายละ 10,000 บาท ส่วนจะจ่ายสินไหมให้รายละเท่าไหร่นั้น ยังไม่ตั้งธงไว้ในใจ เพราะเนื่องจากว่า แต่ละครอบครัวก็มีความคิดต่างกัน นั่นคือ เรื่องของอนาคต แต่ไม่ทอดทิ้งชดใช้อย่างแน่นอน

สำหรับ หลังจากนี้ จะยังคงเปิดร้าน MOUNTAIN ซึ่งเป็นร้านอาหารมีดนตรีสด และร้านหมูกระทะ ที่อยู่ติดกัน เพราะสงสารพนักงานที่มีอยู่จำนวนมาก หากไม่ดำเนินธุรกิจต่อ ทุกคนคงต้องตกงาน และได้รับความเดือดร้อน ท้ายที่สุด อยากขอความเห็นใจจากทุกคนในสังคม ให้โอกาสได้ทำหน้าที่ เพื่อหาหนทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อน ให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุกอาจ! คนร้ายยิง ‘ศักดา นพสิทธิ์’ พ่อสส.พรรคปชน. อาการสาหัส

เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธณพ ธารีไทย รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ร้านข้ามต้มบางปะกง 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ

หนุ่มประมง แจ้งความเอาผิดกลุ่มทหารเรือเกือบ 10 นาย รุมทำร้ายร่างกาย

ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาด ตรงข้ามหน้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ หมู่ที่ 1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้เสียหายคือ นายอนันต์ นรินทร อายุ 43 ปี

ฮีโร่ 3 นักเรียนจ่าทหารเรือ ช่วยชีวิตหญิงกระโดดสะพานลอยปลิดชีพ

3 นักเรียนจ่าทหารเรือ เข้าช่วยเหลือหญิงสาวพยายามกระโดดสะพานลอยปลิดชีพตัวเอง จนปลอดภัย เหตุโดนแฟนหนุ่มต่างชาติหลอกถ่ายคลิปสัมพันธ์เผยแพร่ในกลุ่มเพื่อน

โกงสนั่น! ผู้ใหญ่บ้าน-ทนาย-ขรก. ร่วมหลอกขายที่ดินเขากระทิง เสียหายเกือบ 40 ล้าน

ที่ห้องสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี น.ส.ลำไย ซ่อมแก้ว อายุ 45 ปี ภรรยา นักโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน ผู้เสียหาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนชัย ชูรัตน์ ทนายความ นายธเนศ ทวิภมรกุลวงศ์ ทนายความ และครอบครัว ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน

เปิดกล้องวงจรปิด จับตัวผู้ต้องสงสัยฆ่าตัดนิ้ว ชิงทรัพย์ 'แม่ยายอัยการ'

จากกรณี เกิดเหตุสะเทือนขวัญฆ่าชิงทรัพย์ สืบเนื่อง น.ส.วรรณรัตน์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี มีสามีเป็นอัยการสำนักงานอัยการแห่งหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.พัฒนนันท์ สมนวล สารวัตรสอบสวนสภสัตหีบ ว่าผู้เป็นมารดา คือ นางวรรณา คีอเนอร์ อายุ 67 ปี

ปรบมือ! อำเภอสัตหีบ ติดป้ายห้ามลอยกระทงในทะเล รณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ในเขตพื้นที่ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีการติดป้ายความว่า “ห้าม! ลอยกระทงลงทะเลเด็ดขาด” ไว้ตลอดแนวชายหาด อ่าวดงตาลสัตหีบ ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์ค ที่มีความสวยงามอย่างมาก