3 ส.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะเกือบ 20 คน ไล่ทำร้ายชาวบ้านในวัยเดียวกัน จำนวน 2 คนจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะพากันหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม 2565 ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (นครพนม-สกลนคร) หน้าร้านข้าวปุ้นตาหมาย บ้านดอนยานาง หมู่ 8 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้คนใช้ยานพาหนะพลุกพล่าน เนื่องจากเป็นเวลาเลิกงานพอดี แต่กลุ่มวัยรุ่นมีความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก
ล่าสุด วันที่ 3 สิงหาคม 2565 เวลา 15.00 น. ร.ต.ท.วัตรสันณห์ เนตรหาญ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดีได้ให้ผู้ปกครองของผู้บาดเจ็บทั้งสองมาให้ปากคำ เพื่อติดตามคนที่ลงมือกระทำในครั้งนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ปรากฏว่าผู้ปกครองได้นำตัวเยาวชนชื่อนายปาน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี พร้อมด้วยแฟนสาวมาให้ปากคำ โดยนายปานเล่าว่าเดิมเป็นคนจังหวัดหนองบัวลำภู ได้แฟนชื่อ น.ส.โอ๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปีเท่ากัน เป็นคนบ้านดอนม่วง หมู่ 9 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม โดยยึดอาชีพรับจ้างกรีดยางอยู่ในหมู่บ้าน
ก่อนเกิดเหตุแฟนสาวขับ จยย.ไปทำธุระในเมืองนครพนม ปรากฏว่ารถน้ำมันหมดอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จึงโทรศัพท์ให้ตนไปซื้อน้ำมันมาเติมใส่ถัง ตนได้ชวนนายทิว (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซ้อนท้าย จยย.มาเป็นเพื่อน ขณะเติมน้ำมันใส่ จยย.แฟนสาว มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งขับ จยย.มาวนเวียนอยู่บริเวณนั้น แต่ตนไม่ได้สนใจอะไรและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จากนั้นก็ขับรถเพื่อกลับบ้าน มาถึงสามแยกไฟแดงมหาวิทยาลัยนครพนม บ้านเนินสะอาด ต.นาราชควาย นายทิวสะกิดว่าพวกนั้นขับ จยย.ตามหลังมา ตนก็บอกว่าอย่าคิดมาก เราไม่เคยไปมีเรื่องกับเขา ปรากฏว่าตนคิดผิดเพราะกลุ่มวัยรุ่นขับรถมาประกบข้างแล้วสั่งให้จอด ด้วยความกลัวจึงเร่งเครื่องหนีแต่แก๊งวัยรุ่นกลุ่มนั้นไล่บี้มาทันที่หน้าร้านข้าวปุ้นตาหมาย บ้านดอนยานาง หมู่ 8 ต.นาทราย และไม่พูดพร่ำวัยรุ่นคนหนึ่งได้ชักอาวุธปืนมาจ่อที่ศีรษะ ขณะที่อีกคนใช้มีดพร้าดายหญ้าไล่ฟัน ตนเอามือรับสันมีดถูกที่ง่ามมือโป้ขวาบาดเจ็บ ส่วนนายทิวถูกสันมีดเล่มเดียวกันฟาดที่กลางหลังและแขนซ้าย ระหว่างนั้นมีชาวบ้านละแวกนั้นออกมาดูเหตุการณ์ วัยรุ่นเกือบ 20 คน ก็รีบกันขับ จยย.หลบหนี พลเมืองดีจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยกู้ภัยศรีสัตตนำตัวส่ง รพ.นครพนม
ด้าน น.ส.โอ๋แฟนสาวของนายปาน เล่าว่า หลังเกิดเหตุมีเพื่อนหญิงคนหนึ่งแซทไลน์มาหา พร้อมกับกล่าวคำขอโทษ ว่า ผู้ก่อเหตุมีชื่อเล่นว่านายเม่นเป็นวัยรุ่นอยู่ในหมู่บ้าน ต.โพธิ์ตาก เข้าใจผิดคิดว่านายปานเป็นคู่อริจึงพากันมารุมทำร้าย ไม่อยากให้เรื่องบานปลายจึงขอร้องไม่ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนายเม่น โดยทางด้านผู้ปกครองของ น.ส.โอ๋ได้บอกว่าให้ผู้ก่อเหตุมาซ่อม จยย.ที่พังเสียหาย ส่วนทางด้านคดีให้เป็นไปตามกฎหมาย
ทั้งนี้ กลุ่มวัยรุ่นแก๊งนี้มีประวัติในการก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนมาบ่อยครั้ง เคยยกพวกตีกันกับวัยรุ่นหมู่บ้านข้างเคียง จนตกเป็นข่าวเมื่อปลายปี 2564 โดยใช้อาวุธมีดไล่ฟันหนุ่มพิการครึ่งซีกบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว ครั้งนี้ก็ไม่หลาบจำกลับมาก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีก และถือว่าเหิมเกริมมากเพราะที่เกิดเหตุอยู่ในเขตชุมชนติดถนนสายหลัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว
ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
จนท.ตรึงกำลัง ล่ามือยิงประธานสภา อบต. คนร้ายมีปืนอาก้า ระเบิดมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนจาน บ้านต้าย หมู่ 7 (ส.อบต.ฯ ม.7) ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์
แม่เหยื่อคานก่อสร้างถล่ม เล่าทั้งน้ำตา อีกไม่กี่นาทีลูกชายก็จะเลิกงานแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 145 หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายสำเริง พะพันทาง อายุ 48 ปี และ นางกันนิกา ทุมทอง อายุ 48 ปี พ่อแม่ของนายโจ้ผู้ตาย โดยพบว่าบริเวณหน้าบ้านได้มีกางเต็นท์
โฆษก ทบ. แจงปมเจ้ากรมยุทธฯทำร้ายทหาร รอสอบพยานเพิ่ม ชี้บทลงโทษด้านวินัย
พ.อ.ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบกทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ขณะนี้การสอบพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีคำสั่งให้เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก