25 ก.ค. 2565 – เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านนมา ร.ต.อ.อำนาจ อ่อนปาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 139 ถนนไชยบุรี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ พร้อมประสานตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน รุดไปยังที่เกิดเหตุ
โดยพบผู้เสียชีวิตชายรายแรก ทราบชื่อต่อมา คือ นายนันธวัฒน์ ลาภสมทบ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/48 ถนนพญาเสือ อ.เมือง พิษณุโลก สภาพศพสวมเสื้อสีแดง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด นอนหงายจมกองเลือด ข้างตัวพบอาวุธปืนแบบลูกโม่ ขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก ในโม่มีปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว 3 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีก 4 นัด ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร บริเวณถนนไชยบุรี พบร่างหญิงสาว ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.ฐิตาภา ลาภสมทบ อายุ 34 ปี ภรรยาของผู้ตาย ถูกอาวุธปืนขนาดเดียวกันยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด เลือดกระจายทั่วพื้นนอนหายใจรวยริน กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจจนมีชีพจรขึ้นมา แต่อาการยังสาหัส ก่อนนำตัวส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลพุทธชินราช แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายนันธวัฒน์ ลาภสมทบ สามี และ น.ส.ฐิตาภา ลาภสมทบ ภรรยา ก่อนหน้าเกิดเหตุได้ชักชวนเพื่อนๆ จำนวน 5 คน ไปนั่งที่ร้านปิ้งย่างหมูกระทะละแวกบ้าน แต่เกิดไปมีปากเสียงกันเรื่องหึงหวงขึ้น ทำให้นายนันธวัฒน์บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า 2 นัด จากนั้นจึงกลับมาบ้านมาเคลียร์ปัญหากับภรรยา ที่บริเวณที่เกิดเหตุริมถนนไชยบุรี และมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงเรื่องหึงหวง จนฝ่ายชายใช้ปืนจ่อยิง ซึ่งภรรยายกมือไหว้ขอชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล จึงถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด นายนันธวัฒน์ คิดว่าภรรยาตนเองเสียชีวิตแล้วจึงกลัวความผิดที่ก่อไว้ จึงวิ่งเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านของเพื่อน แล้วใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะตัวเองจนถึงแก่ความตายดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด และทราบว่าผู้ตายกับภรรยาอยู่ด้วยกันจนมีลูก 2 คน ซึ่งคาดว่าปมเหตุสังหารโหดในครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง แต่สุดท้ายกลับเคลียร์ปัญหาตกลงกันไม่ได้ ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนยิงภรรยาตนเองและยิงตัวตายตาม ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ ภรรยากลับมามีชีพจร ทางเจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ด้วยอาการยังสาหัสและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมจะให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
CP LAND รุกโครงการบ้านเดี่ยว ส่ง SŌLVANI ปูพรมภาคกลาง พิษณุโลก – นครสวรรค์ จับตลาดบน
CP LAND บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าสานต่อบุกตลาดบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมโซนภาคกลาง พิษณุโลก-นครสวรรค์
ทุ่งบางระกำ รับน้ำเหนือจากสุโขทัย เข้าทุ่งกักเก็บแล้ว 143% แม่น้ำยมเพิ่มอีก 30 ซม.
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พบว่า ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ถึง 8 ต.ค. 2567 มีพื้นที่ได้รับกระทบ จำนวน 304 หมู่บ้านจาก 50 ตำบล ในพื้นที่ 9 อำเภอของจ.พิษณุโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะรับน้ำเหนือผ่านจังหวัดสุโขทัย
ทุ่งบางระกำโมเดล เก็บน้ำแล้ว 112% ชาวพรหมพิราม เดือดร้อนขาดฟางข้าว-ต้นหญ้าเลี้ยงสัตว์
สถานการณ์น้ำที่ จ.พิษณุโลก วันนี้เริ่มดีขึ้น แม่น้ำลำคลองทุกสายเริ่มลดระดับลงอีกครั้ง แม้มีฝนตกในพื้นที่อยู่บ้างก็ตาม ขณะทุ่งบางระกำโมเดล เก็บน้ำเข้าทุ่ง 449 ล้าน ลบ.ม คิดเป็น 112%
น้ำเต็ม 100% ทุ่งบางระกำโมเดล ระดับน้ำเพิ่มสูง เริ่มกระทบชาวบ้าน-เส้นทางสัญจร
ทุ่งบางระกำโมเดล ในจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย รับน้ำเต็มๆมีน้ำอยู่ในทุ่งแล้ว 440 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของความจุเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน
ระดมกำลังช่วย 'วัดตายม' จ.พิษณุโลก น้ำท่วมหนักเซาะกำแพง เร่งกั้นกระสอบทราย
ระดมกำลังทหาร ชาวบ้าน และวัด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำคลองวัดตายมแตก น้ำไหลแรงดันกำแพงเป็นเป็นโพรงน้ำทะลักเข้าท่วมภายในบริเวณวัดตายม
โค่นสวนยางพาราทิ้ง 407 ไร่ ในเขตป่าสงวนฯ ตรวจพบตั้งแต่ปี 58 แต่ไม่มีผู้ต้องหา
นายวิทยา ณวิพันธ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก สั่งการให้ นายธวัชชัย ปุริเกษม ผอ.ส่วนป้องรักษาป่าและควบคุมไฟป่าและนายธีรพล กาญจนโกมล เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ทำหน้าที่หัวหน้าชุดปฏิบัติการร่วมกับหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า