เงินเก็บทั้งชีวิต! 'กลุ่มผู้สูงวัย' ร้องเงินหายกว่า 12 ล้านบาท จี้สอบสหกรณ์เครดิตยูเนียนตาชี

19 ก.ค.2565 - ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้สูงอายุกว่า 50 คน ได้เดินทางมายังสหกรณ์ เครดิตยูเนียน ธรรมสามัคคีตาชี จำกัด ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา หลังตรวจสอบพบว่าเงินฝากของสมาชิกกว่า 300 คน ได้สูญหายจากบัญชีรวมกว่า 12 ล้านบาท

ผู้เสียหายทั้งหมดต้องการให้ทางสหกรณ์ เครดิตยูเนียน ธรรมสามัคคีตาชี จำกัด ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมทั้งต้องการแจ้งความดำเนินคดี กับผู้กระทำผิดหรือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ทำให้เงิน ในบัญชีหาย และ ทำให้ถูกปลอมลายเซ็น ไปถอนเงิน และ ทำให้เป็นหนี้ รวมทั้งขอให้ทางตำรวจ หรือผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีและหาความเป็นธรรมกับชาวบ้านโดยเร็วที่สุด จากนั้น กลุ่มผู้สูงอายุ ที่ได้รับความเสียหายได้เดินทางไปที่ สถานีตำรวจยะหา จังหวัดยะลา เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยนางแอบ อารีบำบัด หนึ่งในผู้เสียหาย อายุ 59 ปี กล่าวว่า เงินเก็บสะสมมาที่ละนิดทีละน้อยมาทั้งชีวิต พอจะถอนเงินออกมากลับไม่มีเงินในบัญชี โดยทราบว่าเงินได้หายจากบัญชี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพราะมีสมาชิกไปขอถอนเงินออก แต่ถอนไม่ได้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องให้กรรมการมาตรวจสอบก่อน จึงรู้สึกเอะใจ นอกจากนั้น ก่อนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจะมา ฝ่ายบัญชีกับฝ่ายการเงินสหกรณ์ฯ ได้ไปหาชาวบ้านคนสูงอายุ ทุกบ้าน ว่า อย่าเอาบัญชีที่มีเงินมาก ไปให้ฝ่ายตรวจสอบดู เพราะอาจจะโดนล้วงข้อมูล

“ตนได้ตรวจสอบยอดเงินในสมุดบัญชี ก็พบว่าอยู่ครบ แต่บัญชีที่อยู่ท่าสหกรณ์เงินหายหมดเลย บางคน มีเงินเกือบสองล้าน เหลือแค่ 4 หมื่น ตนเองมีอยู่ 9 แสนกว่าบาท แต่บัญชีที่สหกรณ์หายไป 7 แสน เหลือเพียงแสนกว่าบาทเท่านั้น รวมๆแล้วเงินในบัญชีของผู้เสียหายทั้งหมด หายไปเกือบ 12 ล้านบาท อันนี้เฉพาะรายใหญ่ที่ฝากเยอะๆยังมีที่ฝากน้อยๆอีกที่กำลังตรวจสอบ” นางแอบ กล่าว

ผู้เสียหายรายนี้ยังกล่าวอีกว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิต ทุกคนตั้งใจ เก็บเพื่อเป็นเงินที่เก็บไว้ใช้ตอนแก่ชรา แต่เขากลับเอาเงินของทุกคนเลย เห็นว่าฝากที่นี้สะดวก ไม่ต้องไปธนาคาร จะใช้เมื่อไหร่มาถอนได้ อีกอย่างมีฝ่ายตรวจสอบบัญชี ทำหน้าที่คอยตรวจสอบบัญชีทุกปีให้ด้วย มันทำให้เกิดความเชื่อมั่น ก็ไม่คิดเลยจะมาเป็นอย่างนี้ สหกรณ์แห่งนี้เปิดมา 40 กว่าปี เคยเกิดเรื่องแบบนี้ รุ่นที่ 3 แล้ว ที่ผ่านมาเขาเอาไปไม่เยอะ เรื่องเลยไม่ดัง

ส่วนทางด้าน พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้คุยกับสารวัตรสืบสวน ทราบว่า คดีมีการรับแจ้งเป็นคดีแล้ว ตอนนี้คือขั้นตอนรอเอกสารจากหน่วยเกี่ยวข้องเพื่อดูความเสียหายทั้งหมดว่าเท่าไหร่อย่างไร และจะมีการเชิญให้ปากคำกันทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่เสียหาย ตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวนไว้แล้ว และได้ตั้งไลน์กลุ่ม เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่เสียหาย และคนเกี่ยวข้องเข้าร่วมติดตามความคืบหน้า สำหรับเรื่องนี้ทราบว่า โกงผ่านกันมาต่อเนื่อง หลายห้วง หลายยุค กำลังขุดคุ้ย ตามพยานเอกสาร ต่อด้วยพยานบุคคลผู้เสียหาย

“คดีนี้ มีชาวบ้านเสียหายเยอะ ขอให้เดินกันไปอย่างเป็นระบบ ยึดพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ ให้คำแนะนำชาวบ้านให้เข้าใจ โดยเฉพาะการชี้แจงขั้นตอนต่างๆ ต้องทำให้ชัดเจน ตามลำดับ การเปิดไลน์กลุ่มเพื่อจะได้มีช่องทางการติดต่อพูดคุยให้ข้อมูลกัน แต่ก็ได้แจ้งเตือนด้วยว่า อย่าเผลอชวน กลุ่มฝ่ายสนับสนุนช่วยเหลือ ผู้กระทำความผิด เข้ามาในกลุ่ม นอกจากนั้นได้เชิญพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เข้าห้องไลน์ และคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลัง รวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุดต่อไป นอกจากนี้ยังได้กำชับในประเด็นของการทำลายเอกสาร หรืออาจทำเป็นอุบัติเหตุ ทำให้เกิดไฟไหม้ ก็ต้องช่วยกันดูตรงนี้ เฝ้าระวังร่วมกัน” ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มีหนาว! ‘เรืองไกร’ ร้อง ปปช. ตรวจสอบจนท.ของรัฐ 8 ราย ยื่นบัญชีและเสียภาษีถูกต้องหรือไม่

วันนี้ผมจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐรวม 8 รายดังกล่าว

แก้ปัญหาเมืองด้วย AI ส่องฟีเจอร์ใหม่ทราฟฟี ฟองดูว์

กว่า 9.4 แสนปัญหาเมือง  ทั้งน้ำท่วมขังหน้าคอนโด ถนนชำรุด  เสียงดังก่อสร้าง ทางเท้าชุ่ย ก่อสร้างผิดกฎหมาย  จุดกลับรถอันตราย  ต้นไม้โค่นล้ม รถจอดถนนแคบ ไฟฟ้าริมทางดับ และอีกสารพัดเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนและทำให้ชีวิตคนเสี่ยงอันตราย ในจำนวนนี้ 6.4 แสนเรื่อ

ชาวเบตง-มาเลย์ ประสานสามัคคี วิ่งสู้มะเร็งซื้ออุปกรณ์การแพทย์

ชาวอำเภอเบตง นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ร่วมกิจกรรมวิ่งสู้มะเร็ง นำรายได้จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์โรงพยาบาลเบตง

รวบ 2 สาวแสบ หลอกลงทุนหุ้นต่างประเทศ ชายสูงวัยสูญเงิน 35 ล้านบาท

พ.ต.อ.พิเชียรยศ อรุณพันธกุล ผกก.1 บก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันจับกุม น.ส.วราภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 32 ปี และ น.ส.ศรัณยา (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 30 ปี ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น

สืบนครบาล รวบเจ้าของเต็นท์ นำรถมือสองติดไฟแนนซ์หลอกขาย เสียหายกว่า 20 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมกันจับกุมนายสิริชัย อายุ 32 ปี ผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์