11 ก.ค. 2565 – ที่หอนาฬิกาวัฒนธรรมเทศบาลเมืองปัตตานี ผู้สื่อข่าวจังหวัดปัตตานีรายงานว่า วันที่ 11 ก.ค. ตรงกับวันฮารีรายออีฎิลอัดฮาของพี่น้องมุสลิมนั้น ปรากฏว่ามีพี่น้องกลุ่มชาวพุทธรักสันติ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา กว่า 20 คน ร่วมตัวข้อเรียกร้อง ให้รัฐบาลทำข้อตกลง เสนอบนโต๊ะพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น และกลุ่มพูโล โดยให้หยุดความรุนแรงวันเข้าพรรษา เป็นเวลา 3 เดือน ภายใต้ “เข้าพรรษาสันติ-ปลอดภัย ทุกคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” ซึ่งที่ผ่านมาระหว่างคณะพูดคุยรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ทำข้อตกลงหยุดความรุ่นแรงในเดือนรอมฎอน ทำให้ทุกคนปลอดภัย เช่นเดียวกับพี่น้องชาวพุทธที่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในวันเข้าพรรษา
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 3 – 4 ก.ค. 2565 กลุ่มชาวพุทธรักสันติ ที่ยืนยันการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพ ยึดมั่นในวิถีธรรมของพระพุทธศาสนา ท่ามกลางคนต่างศาสนิก ได้ทำข้อเรียกร้อง ยื่นหนังสื่อ “เข้าพรรษาสันติ-ปลอดภัยทุกคน” ไปยัง คณะพูดคุยสันติสุข บีอาร์เอ็น และผู้แทนกลุ่มพูโล ไปแล้ว แต่วันนี้ได้ใช้วาระฤกษ์ดีวันอีฎิลอัดฮา อันศักดิ์สิทธิ์ ประกาศสาธารณะอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการพูดคุยเพื่อสันติสุขครั้งต่อไป ในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ กลุ่มชาวพุทธรักสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีข้อเสนอต่อไปนี้
1.ให้มีการพูดคุยและจัดทำข้อตกลง บนโต๊ะพูดคุย ที่ประเทศมาเลเซีย ในเดือนกรกฎาคม 2565 เรื่อง ยุติการก่อเหตุรุนแรงและปฏิบัติการทางทหารของทุกฝ่ายในพื้นที่ ตลอดเวลา 3 เดือน ในห้วงเข้าพรรษาถึงประเพณีชักพระของชาวพุทธ เพื่อให้เกิด “วาระเข้าพรรษาสันติ-ปลอดภัย สำหรับทุกคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในปี 2565”
2.ให้ทั้ง 2 ฝ่าย ที่เป็นคู่พูดคุยฯ ในขณะนี้ ร่วมแสวงหาทางออกจากความขัดแย้งด้วยวิธีการทางการเมือง และขอให้คู่พูดคุยฯ เดินหน้ากระบวนการพูดคุย และแก้ไขความขัดแย้งด้วยวิธีการและกระบวนการทางการเมือง โดยเอื้อให้มีการเปิดพื้นที่การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ทุกกลุ่ม เพื่อเป็นการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อ และความร่วมมือในการสร้างสันติสุข
3.ให้ประชาชน กลุ่ม องค์กร และตัวแทนกลุ่มชาวไทยที่นัับถือศาสนาพุทธ ที่ขับเคลื่อนกระบวนการสันติสุข มีโอกาสรับฟัง แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะกับรัฐบาลไทย และขบวนการบีอาร์เอ็น ภายใต้การดำเนินงานของคณะพูดคุยฝ่ายไทย และคณะผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยประเทศมาเลเซีย
ด้านนางสมใจ ชูชาติ ผู้แทนกลุ่มชาวพุทธรักสันติ เปิดเผยว่า “ครั้งก่อนที่บนโต๊ะพูดคุย มีการตกลงระหว่างรัฐไทยกับบีอาร์เอ็นเรื่องของรอมฏอนสันติ เรามองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในข้อตกลงบนโต๊ะ เห็นภาพชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่ดีที่พี่น้องทุกศาสนิกออกมาทำภารกิจของตัวเอง ต่อมาก็มีพี่น้องพุทธพูดคุยเรื่องเข้าพรรษาสันติ เราก็คิดว่าเป็นการดีหากมีการปฏิบัติต่อเนื่อง สามารถดำรงชีวิต การไปมาหาสู่ เข้าพรรษาเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องพุทธ เช่นเดียวกันเดือนรอมฏอนก็เป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องมุสลิม
โดยกิจกรรมวันนี้เราไม่ได้ทำเพื่อหวังผลประโยชน์ หรือให้ใครได้ประโยชน์ แต่เราทำเพื่ิอประชาชนทุกศาสนา ในเมื่อเราแสดงตัวตนของชาวพุทธอย่างชัดเจนในวันนี้ืกลับไปก็อาจจะมีเสียงสะท้อนกลับมา แต่เป็นขั้นต่อไปที่เราต้องดำเนิน หากสิ่งไหนที่เราทำ เสียงสะท้อง ด้านบวกกับลบต่างกัน แต่มั่นใจว่าเจตจำนงเราบริสุทธิ์ใจจริงๆ
การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ก็ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ฝ่ายในการพูดคุย แต่ต้องเข้าใจว่าการพูดคุยแต่ละครั้ง ทั้งสองก็มีปัญหาอุปสรรคหลายอย่าง ขณะที่ไม่กี่วันมานี้ รัฐไทยแสดงพลังโดยไปจับกุมฝ่ายตรงข้าม พี่น้องพุทธคิดเยอะว่าจะปลอดภัยหรือเปล่า เรากลัวการตอบโต้ที่ส่งผลกับทุกศาสนิก เศรษฐกิจ การไปมาหาสู่ เราไม่สบายใจ
“เราเห็นด้วยกับการพูดคุย เพราะทุกอย่างที่จะเกิดสันติสุขได้ต้องเปิดโต๊ะพุดคุยเจรจา การพูดคุยเป็นทางออกที่ดี เป็นเรื่องที่ดีกับทุกฝ่าย ทุกกลุ่มที่จะมาพูดคุยเป็นเรื่องที่ดี สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นคือ เน้นเรื่องประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด เพราะประชาชนคือผู้ที่ต้องอาศัยและดำรงชีวิตอยู่” นางสมใจ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพื่อความสบายใจ 'สส.พรรคส้ม' แจงยิบ 3 ประเด็น ต้องฟ้องหมิ่นประมาท ปกป้องสาธารณะ
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีปชน.จะฟ้องบุคคลที่กล่าวหาปชน.เป็นแนวร่วมขบวนการบีอาร์เอ็น ว่า
ห้ามหมิ่นพรรคส้ม! 'ปกรณ์วุฒิ' แจงปมจ่อฟ้องคนกล่าวหาเป็นบีอาร์เอ็น อ้างเลยเถิดเกินไป ไม่สุจริต
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีน.
'ผบ.ฉก.ทพ.43' นำกำลังปิดล้อมตรวจค้น จับมือบึ้มกลางเมืองปัตตานี
พันเอกปรเมธ ศานุพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้นำเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการร่วม จำนวน 30 นาย บังคับใช้กฎหมาย เข้าปิดล้อมตรวจค้น
'ทวี' สวมบท สส. รับ 'คดีตากใบ' ไม่เป็นธรรม ไร้เงาผู้ต้องหา
'ทวี' ชี้ 'ตากใบ-ไฟใต้' ทุกภาคส่วนต้องร่วมหาทางออก ย้ำสังคมขาดความยุติธรรมมีความแตกแยก ผู้มีอำนาจอาจอยู่ไม่ได้ เร่งเยียวยาจิตใจคนชายแดนใต้
ทั่วโลกจับตา! 'คดีตากใบ' สะท้อนไทยล้มเหลว ปล่อยละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำ
แอมเนสตี้ฯ ประเทศไทย หวั่นคดีตากใบหมดอายุความ กลายเป็นใบเบิกทางละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ชี้ชัด ทั่วโลกจับตาดูอยู่ เชื่อจะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนเวทีสาธารณะระหว่างประเทศต่อเนื่อง
ชวน 'นายกฯอิ๊งค์' ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปาก 'เหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต'
'อังคณา' ชี้รัฐบาลพท.-แพทองธาร ปฏิเสธความรับผิดชอบคดีตากใบไม่ได้ ชวนนายกฯ ลงใต้ ฟังความทุกข์ทรมานจากปากเหยื่อ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต เตือนระวังคนรู้สึกไม่เป็นธรรม อาจเข้าร่วมขบวนการก่อเหตุ