'จะนะ' ซัดรัฐบาลเปลี่ยนมติ ครม. เอื้อกลุ่มทุน

ภาพจากเฟซบุ๊ก จะนะรักษ์ถิ่น

ชาวบ้านจะนะ โต้มติครม.รัฐบาล 21 มิ.ย.ชี้สวนทางหลักการเดิมให้ทำ SEA. ที่อยู่ภายใต้การกำกับของสภาพัฒน์ฯ หยุด ศบ.บต.ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งมาร่วมดำเนินการ  ยันข้อตกลง 14 ธ.ค.64 คือทางออก  อัดรัฐบาลมุ่งเอื้อประโยชน์นายทุน โดยไม่สนใจความผิดปกติของโครงการตั้งแต่ต้น

3 ก.ค.2565 - ชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ออกแแถลงการณ์ ระบุ ไม่ยอมรับมติคณะรัฐมนตรี 21 มิถุนายน 2565 และต้องกลับไปตามตามมติ 14 ธันวาคม 2564 ในกรณีการแก้ไขปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ทั้งนี้ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ซึ่งสวนทางกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 ต่อกรณีการแก้ไขปัญหาโครงการเมืองต้นแบบที่ 4 (นิคมอุตสาหกรรมจะนะ) ที่มีเนื้อความสำคัญว่า “ให้หน่วยงานรัฐและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการในโครงการเมืองต้นแบบที่ 4 (นิคมอุตสาหกรรมจะนะ) ไว้ก่อน โดยให้รอผลการประเมินสิ่งแวดล้อมในเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assesssment : SEA.) ให้เป็นที่ยุติก่อนการดำเนินการใดๆต่อไป ทั้งนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นหน่วยงานหลักที่จัดให้มีการศึกษา SEA. โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ”

 หากในมติ ครม. 21 มิถุนายน 2565 กลับสวนทางในหลักการสำคัญกับมติเดิมดังนี้ “ให้ศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง(กรณีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ) เพื่อดำเนินการให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และโครงการใดที่ต้องชะลอจากมติ ครม. 14 ธันวาคม 2564 ก็ให้ดำเนินการต่อไปได้พร้อมไปกับการศึกษา SEA. ทั้งนี้ให้นำ “การทำประชามติ” มาเป็นแนวทางหลักเพื่อการตัดสินใจต่อไป

 เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เห็นว่า การปรับเปลี่ยนมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว คือการตระบัดสัตย์ของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งสำคัญ อันเป็นเจตนาแฝงที่ต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนโดยเฉพาะ โดยไม่เห็นถึงสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งเป็นที่ประจักษ์ว่าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะมีความผิดปกติในการดำเนินโครงการตั้งแต่เริ่มต้นหลายประการจนกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยมา ข้อเสนอของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เพื่อให้ทุกฝ่ายถอยกันคนละก้าว แล้วมาใช้กระบวนการทางวิชาการด้วยการจัดทำ SEA. ที่อยู่ภายใต้การกำกับของสภาพัฒน์ฯ โดยต้องไม่นำคู่ขัดแย้งอย่าง ศอ.บต. มาเป็นผู้ร่วมดำเนินการ และต้องหยุดโครงการเปลี่ยนสีผังเมือง โครงการจัดทำ EIA. และโครงการที่เกี่ยวข้องกับนิคมอุตสาหกรรมจะนะเอาไว้จนกว่าจะมีการศึกษาแล้วเสร็จ เพราะเหตุผลทางวิชาการเป็นทางออกต่อเรื่องนี้บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงทั้งหมด 

 เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นมีความเห็นว่า มติ ครม. เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 คือสะท้อนภาพของความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้อย่างเห็นได้ชัด คือพร้อมที่จะตระบัดสัตย์ เพื่อทำลายหลักการบริหารราชการแผ่นดินด้วยการกลับกลอกไปมา เพื่อแลกกับผลประโยชน์เฉพาะหน้าจากคนบางกลุ่มเท่านั้น เราจึงไม่ยอมรับมติดังกล่าว และขอเรียกร้องให้รัฐบาลกลับไปใช้มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2564 เพื่อให้การแก้ไขปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะดำเนินไปบนหลักการทางวิชาการอย่างแท้จริงต่อไป  มิเช่นนั้นแล้วพวกเราจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการ ยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะจนถึงที่สุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลเปิดมาตรการรับมือน้ำท่วม พร้อมแผนเผชิญเหตุตลอดหน้าฝน

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.)

จับเรือประมงเวียดนาม รุกล้ำน่านน้ำไทย ตั้ง 3 ข้อหาหนัก

พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงสัตหีบ ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยเวลา 11.15 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เรือหลวงสัตหีบ ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม

ดัชนีการเมืองไทยร่วง! ปากท้องฉุดเรตติ้งรัฐบาล 'เศรษฐา' ตามหลัง 'พิธา'

วนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,367 คน

ปูดดีลใหญ่พลิก! จับตาสอย 'เศรษฐา' ดัน 'อนุทิน' นายกฯ

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก

‘สรรเพชญ’ เบรก รบ.อย่าคิดขายชาติ ย้อน ‘พท.’ อย่าถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเองซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีที่ได้รับสมญานามว่าเป็น เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่มีความต้องการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือต้องการเอื้อผลประโยชน์ให้กับใครหรือไม่

เหลียวหลังแลหน้า 92 ปี ปชต. กรีดดีลลับอันตราย! รัฐบาล มีโอกาสอยู่ครบเทอม

ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป การเมืองในรัฐสภาทั้งสภาล่างคือสภาผู้แทนราษฎร และสภาสูงคือวุฒิสภา ที่ตอนนี้ผ่านกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.)